ส่อง ‘SUZUKI ERTIGA HYBRID’ รถครอบครัว 7 ที่นั่ง-หั่นราคาเร้าใจ

สันติ จิรพรพนิต

เดือดตั้งแต่ต้นปีเมื่อค่ายซูซูกิ จัดแคมเป็ญพิเศษ “SUZUKI ERTIGA SUPER FLASH DEAL”

ประกาศหั่นราคารถครอบครัว 7 ที่นั่ง “SUZUKI ERTIGA HYBRID”

มี 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย

ERTIGA HYBRID GL จากเดิมราคา 783,000 บาท เหลือ 555,000 บาท

และ ERTIGA HYBRID GX จากเดิมราคา 839,000 บาท เหลือ 599,000 บาท

ไม่แค่ราคาที่หายไปกว่า 2 แสนบาทเท่านั้น แต่ซูซูกิยังมีข้อเสนอ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี

“SUZUKI ERTIGA” เป็นรถครอบครัว 7 ที่นั่ง เปิดตัวมาหลายปีแล้ว และปรับโฉมเป็นระยะๆ

จนท้ายสุดเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นไฮบริด เข้ามาเสริมทัพ

โดยมาพร้อมๆ กับรถเอสยูวี “ซูซูกิ XL-7” แต่เจาะคนละเซ็กเมนต์

นัยว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการรถครอบครัว ไปกันได้หลายๆ คน ในราคาไม่สูงมากนัก

ก่อนหน้านี้ซูซูกิเคยลดราคารุ่นนี้มาแล้วรอบหนึ่งราวๆ แสนกว่าบาท

จนล่าสุดหั่นราคาอย่างเดือด จนเหลือพอๆ กับรถอีโคคาร์เท่านั้น

เห็นแบบนี้แล้วอดใจไม่ไหว นำข้อมูลของ “SUZUKI ERTIGA HYBRID” มาแนะนำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหารถประเภทนี้

เด่นด้วยดีไซน์กระจังหน้าโครเมียมผสมผสานด้วยไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

พร้อมฟังก์ชั่น GuideMe (Automatic turn-on/off headlight with guide me functionality)

ไฟ Daytime Running Light และไฟตัดหมอก

กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่

กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว พับอัตโนมัติ

ไฟท้ายแบบ LED แบบ Light Guides พร้อมแถบโครเมียมเชื่อมถึงกัน

สัญลักษณ์ Hybrid ที่บริเวณประตูด้านท้าย

ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 15 นิ้ว

จุดเด่นของรถประภทนี้ไม่พ้นห้องโดยสารขนาดใหญ่

คอนโซลด้านหน้า และแผงประตูสีดำตกแต่งลายไม้สีเทา

พวงมาลัยหุ้มหนังทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มควบคุมระบบสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย

มาตรวัด 2 วง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่สี MID ขนาด 4.2 นิ้ว คมชัด

แสดงพลังงานแบตเตอรี่ และสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ อาทิ ข้อมูลการขับขี่ พร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

จอกลางระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน

ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย มีช่อง USB สำหรับทั้งด้านหน้าและแถวหลัง และช่องเชื่อมต่อ HDMI

และช่องจ่ายไฟสำรอง 12 V 2 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศแยกส่วน สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

ที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมฟังก์ชั่นการปรับพับเบาะที่เหมาะกับทุกการใช้งาน

เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40

แถวที่สามแบบ 50:50 และสามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร

สามารถเพิ่มพื้นที่บรรทุกได้ตามความต้องการ

รวมทั้งมีที่เก็บของอเนกประสงค์บริเวณใต้ห้องเก็บสัมภาระ

ช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่งพร้อมช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลาง

มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,735 x 4,395 x 1,690 ม.ม.

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ความจุ 1.5 ลิตร

พ่วงด้วยระบบสมาร์ตไฮบริด เทคโนโลยี SHVS ของซูซูกิ

มีมอเตอร์ไฟฟ้า (Integrated Starter Generator หรือ ISG) พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION 6Ah 12V

เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที

รีดแรงจากระบบไฟฟ้าอีก 2.3 กิโลวัตต์ แรงบิดเพิ่มได้อีก 50 นิวตันเมตร

ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

เคลมว่าประหยัดน้ำมันสูงสุด 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร

ระบบกันสะเทือนหน้า แม็กเฟอร์สัน-สตรัต หลังทอร์ชั่นบีม

ความปลอดภัยด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ

ระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD กระจายแรงเบรก

ระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP

ระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง

ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลัง

 

พยายามนึกถึงอารมณ์ยามขับขี่ เพราะเคยทดสอบรุ่นนี้มาพักใหญ่แล้ว

ภายในถือว่ากว้างขวางประมาณหนึ่ง เบาะนั่งโอบกระชับสรีระได้ดี

พวงมาลัยขนาดเหมาะมือ

อัตราเร่งตีนต้น-กลางถือว่าทำได้ดีพอตัว การเร่งแซงหากกะจังหวะดีๆ ก็ไม่มีปัญหา

จังหวะคิกดาวน์มีรอนิดๆ

ส่วนตีนปลายไม่ได้เน้นมากนัก จำได้ว่าเคยรีดสุดสุดราว 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยคิกดาวน์ช่วยรีดพลัง

ช่วงทดสอบเน้นในเมืองและนอกเมืองนิดหน่อย

ความคล่องตัวไม่ต่างจากรถเก๋งขนาดกลางทั่วไป

เมื่อบวกกับความสูงของตัวรถ ทำให้กะระยะและทัศนวิสัยดีกว่าเก๋ง

เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ทำงานไหลลื่นแทบไม่รู้สึกถึงรอยต่อ

หากไม่ซีเรียสว่าเป็นเกียร์แบบเก่าไปหน่อย แต่ได้ข้อดีคือทนทานสุดสุด

ช่วงล่างหากใช้ความเร็วเหมาะสมทำได้ดี ทั้งการเร่งแซงหรือเข้าโค้ง มีอาการโยนตัวน้อยกว่าที่คิด

ภาพรวมถือว่าเป็นรถที่เน้นอรรถประโยชน์ ขนคน-ของได้เยอะ หรือจะขับเพียงลำพังก็ไม่เทอะทะเกินไป

แม้จะเป็นรถที่ออกมานานแล้ว และอยู่ปลายๆ โมเดล แต่แลกกับราคาที่ลดสะบั้นหั่นแหลก

“SUZUKI ERTIGA HYBRID” เป็นหนึ่งในตัวเลือกรถครอบครัวที่คุ้มค่ามากๆ •