‘คู่มือเผด็จการฉบับกวนโอ๊ย’ (2)

เกษียร เตชะพีระ

การเมืองวัฒนธรรม | เกษียร เตชะพีระ

 

‘คู่มือเผด็จการฉบับกวนโอ๊ย’ (2)

 

มิกาล เฮม ผู้สันทัดกรณีเผด็จการนานาชาติชาวนอร์เวย์ เจ้าของงานเขียนคู่มือเผด็จการฉบับกวนโอ๊ย (How to Be a Dictator : An Irreverent Guide, 2012) ชี้ว่าอย่างหนึ่งที่เผด็จการชอบเล่นชอบทำคือแสดงบทนักประชาธิปไตยโดยจัดเลือกตั้งทั่วไปขึ้นจนได้ในที่สุด แม้จะถ่วงเลื่อนล่าช้าไปบ้างก็ตาม (https://revdem.ceu.edu/2024/11/12/mikal-hem/?fbclid=IwY2xjawHGH2pleHRuA2FlbQIxMQABHSzp1-GRl4E3rFk5LLek98rS-WzyscbMI5f8hBk_zf311VQgpuMxQlldgQ_aem_2j2d6F7WKdDBdUMTKHSA_Q)

ที่ทำเช่นนั้น มีมูลเหตุสามสี่ประการด้วยกัน กล่าวคือ :

พล.อ.มิน อ่อง ลาย, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, สมเด็จฮุน เซน ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

1) มันดูดีในทางสากล เพราะประชาคมสากลโดยเฉพาะโลกเสรีประชาธิปไตยตะวันตกมักเฝ้ากดดันให้ประเทศเผด็จการทั้งหลายเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ฉะนั้น วิธีหนึ่งในการหลบเลี่ยงคำวิจารณ์และเบี่ยงเบนแรงกดดัน ก็คือจัดเลือกตั้งเสีย เพื่อจะบอกฝรั่งตาน้ำข้าวได้ว่าอั๊วมีการเลือกตั้ง อั๊วเป็นประชาธิปไตยแล้วไงเฟ้ย วัทธ่อ

ในภาษาวิชาการคือเปลี่ยนผ่านจากระบอบอำนาจนิยมแบบปิด (closed authoritarianism) ซึ่งขาดความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง (electoral legitimacy) แต่มีอำนาจแน่นอนแบบอัตตาธิปไตย (autocratic certainty) ไปเป็น

–> ระบอบอำนาจนิยมจากการเลือกตั้ง (electoral authoritarianism) ซึ่งได้ความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง (electoral legitimacy) ทั้งในและนอกประเทศกลับมาบ้าง แต่ต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของอำนาจแบบประชาธิปไตย (democratic uncertainty) เพราะอาจพลิกล็อกแพ้การเลือกตั้งได้

ดังนั้น จึงมักมีแนวโน้มสร้างกฎกติกาการขึ้นสู่อำนาจที่ไม่เป็นธรรมและโกงเลือกตั้งนั่นเอง (ดู Prajak Kongkirati. “Bosses, Bullets and Ballots : Electoral Violence and Democracy in Thailand, 1975-2011” (Unpublished Ph.D. thesis, Department of Political and Social Change, School of International, Political and Strategic Studies, The Australian National University, 2013)

ส่งผลให้เล่นบทนักประชาธิปไตยกำมะลอได้ไม่ค่อยแนบเนียน การเลือกตั้งไม่ค่อยเสรี เป็นธรรมและสม่ำเสมอจริงๆ จะเรียกว่า “เลือกตั้งเก๊” (fake elections) ก็ได้ แต่อย่างน้อยก็เอาไว้อ้างได้ว่า “ก็ประชาชน/ผู้แทนราษฎรโหวตเลือกผมมาไง!” อิๆ (https://www.bbc.com/thai/thailand-48537930)

2) ก้าวคืบไปอีกขั้นแล้ววัดรอยเท้าประชาธิปไตย (ตะวันตก) เลยว่า ประชาธิปไตยฝรั่งสร้างความโกลาหลอลหม่านให้กับสังคมและการเมืองไม่หยุดหย่อน ไม่เหมาะกับประเทศรักสงบอย่างบ้านเรา มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของฝรั่งตะวันตกที่เราไม่จำต้องมี

เอาเข้าจริงระบบปกครองขนานแท้และดั้งเดิมตามวัฒนธรรมประเพณีและประวัติศาสตร์ของเราเองดีกว่าชาวบ้านนิยมชมชอบ การปกครองแบบเดิมของเราก็สะท้อนเจตจำนงของประชาชน (the popular will) ได้เหมือนกันนั่นแหละโดยไม่ต้องเลือกตั้งหาเสียงสร้างพรรคแบบฝรั่งให้ยุ่งยากลำบากด้วย เพราะเรามีระบบรับฟังความเห็นประชาชนอยู่แล้วจากรากหญ้าไปถึงยอดไม้ ประชาชนไม่เห็นจะต้องไปโหวตเลย

เช่น ระบอบนิติธรรมแบบปรึกษาหารือ (consultative rule of law regime) ที่ศาสตราจารย์ปันเหว่ย แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งเสนอ (https://www.tandfonline.com/doi/pdf/10.1080/10670560305465) หรือศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขยายบทบาทหน้าที่ออกไปสมัย คสช. (https://www.constitutionalcourt.or.th/occ_web/ewt_dl_link.php?nid=1513) เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ข้อถกเถียงแบบนี้จะฟังขึ้นและมีน้ำหนักกับฝรั่งตะวันตก ก็ต้องเป็นประเทศพี่เบิ้มหน่อยอย่างจีนและรัสเซีย เป็นต้น ถ้าเป็นประเทศ SMEs ก็ต้องแบ่งรับแบ่งสู้ เยสคำ โนคำ เมย์บีคำ ดื้อตาใสไปเรื่อยๆ

 

3) ทำให้การเลือกตั้งมันเรียบร้อยโรงเรียนจีน คือคาดผลล่วงหน้าได้แม่นยำราวจับวาง ลบล้าง democratic uncertainty เสีย ด้วยการจัดระเบียบพรรค/ผู้สมัครฝ่ายค้านผ่านโฆษณาชวนเชื่อบ้าง ตราระเบียบกฎเกณฑ์คลุมเครือครอบจักรวาลบ้าง ตั้งกรรมการเลือกตั้งฝ่ายรัฐบ้าง หรือแม้แต่ช่วยก่อตั้งพรรคฝ่ายค้านมาประดับการเลือกตั้งให้เสียเลยบ้างก็ยังมีอย่างที่ไนจีเรีย เป็นต้น

ฉะนั้น จึงไม่มีพรรคบางพรรค…อย่างเช่น ไทยรักไทยเอย พลังประชาชนเอย ไทยรักษาชาติเอย อนาคตใหม่เอย ก้าวไกลเอย เป็นต้น

ไม่มีผู้สมัครบางคน…อย่างเช่น ธนาธรเอย ปิยบุตรเอย พรรณิการ์เอย เป็นต้น

 

และอาจไม่มีผู้สมัครอีกหลายคน…อย่างเช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เอย, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เอย, ธีรัจชัย พันธุมาศ เอย, ญาณธิชา บัวเผื่อน เอย, ศิริกัญญา ตันสกุล เอย, กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี เอย, เบญจา แสงจันทร์ เอย, พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ เอย, นิติพล ผิวเหมาะ เอย, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เอย, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เอย, ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล เอย, ปดิพัทธ์ สันติภาดา เอย, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เอย, ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ เอย, ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ เอย, ณัฐวุฒิ บัวประทุม เอย, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เอย, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เอย, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา เอย, วรภพ วิริยะโรจน์ เอย, คำพอง เทพาคำ เอย, สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ เอย, ทองแดง เบ็ญจะปัก เอย, จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ เอย, จรัส คุ้มไข่น้ำ เอย, สุเทพ อู่อ้น เอย, ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ เอย, อภิชาติ ศิริสุนทร เอย, องค์การ ชัยบุตร เอย, พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ เอย, ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ เอย, ศักดินัย นุ่มหนู เอย, มานพ คีรีภูวดล เอย, วาโย อัศวรุ่งเรือง เอย, วรรณวิภา ไม้สน เอย, วิโรจน์ ลักขณาอดิศร เอย, สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เอย, ทวีศักดิ์ ทักษิณ เอย, สมชาย ฝั่งชลจิตร เอย, สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล เอย, วุฒินันท์ บุญชู เอย, รังสิมันต์ โรม เอย, สุรวาท ทองบุ เอย เป็นต้น (https://www.thaipbs.or.th/news/content/336608)

จนมั่นใจได้ว่าถึงมี elections แต่มันก็เป็น no-choice elections แบบเกาหลีเหนือนั่นแล (https://www.jstor.org/stable/152082 & https://www.bbc.com/news/world-asia-47492747)