ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
เล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก
มีผลดีต่อการเรียน
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
คําขวัญวันเด็กปี 2568 จากนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร คือ “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”
จากการศึกษาของคณะอาจารย์มหาวิทยาลัย University of Sydney ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Activity and Health หรือ วารสารกิจกรรมทางกายและสุขภาพ
นักวิจัยได้ติดตามการเข้าร่วมเล่นกีฬาของเด็กชาวออสเตรเลียมากกว่า 4,000 คน ตั้งแต่ อายุ 4 ถึง 13 ปี
จากนั้นพวกเขาได้เปรียบเทียบสิ่งนี้กับแนวทางการศึกษาจนถึงอายุ 21 ปี
โดยรวมแล้ว พบว่าการมีส่วนร่วมในกีฬาอย่างต่อเนื่องในช่วงปีการศึกษา ส่งผลให้นักเรียนขาดเรียนน้อยลง ความสามารถในการสนใจและจำที่ดีขึ้น และคะแนนศึกษาจบที่สูงขึ้น รวมถึงโอกาสที่สูงขึ้นในการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย
ดร.แคเธอรีน โอเวน (Dr. Katherine Owen) กล่าวว่า หลายปัจจัยมีผลต่อการลดการเข้าร่วมกีฬาในวัยรุ่น
แต่การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการหาวิธีให้เยาวชนมีความกระตือรือร้นและมีส่วนร่วมในการเล่นกีฬา
การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการทำให้กีฬามีความสำคัญมากขึ้นในโรงเรียน อาจเป็นอีกวิธีสำคัญที่ทำให้เด็กเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง และปรับให้กีฬามีความยืดหยุ่นขึ้น เพื่อให้เด็กๆ จำนวนมากสามารถร่วมเล่นได้ ไม่ว่าเล่นเพื่อความสนุก หรือเล่นเพื่อสังคม
นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่าการที่เด็กเข้าร่วมกีฬาประเภททีมให้ผลต่างจากการเข้าร่วมกีฬาประเภทเดี่ยว
พบว่า เด็กที่เข้าร่วมกีฬาประเภททีม จะทำผลทดสอบการเรียนด้านความจำและมีสมาธิมากกว่าเด็กที่เล่นกีฬาประเภทเดี่ยว
ส่วนเด็กที่เล่นกีฬาประเภทเดี่ยว จะทำผลงานด้านการเรียนโดยรวมสูงกว่าเด็กที่เล่นกีฬาประเภททีม
คณะวิจัยวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะเด็กที่เล่นกีฬาประเภทเดี่ยว จะเป็นการฝึกความรับผิดชอบการพึ่งพาตัวเอง และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนแข่ง ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสอบ
ก่อนหน้านี้ในปี 2022 ดร.แคเธอรีน โอเวน ได้วิเคราะห์ผลการศึกษาจากประเทศต่างๆ รวม 115 การศึกษา โดยส่วนใหญ่เป็นการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา รวมแล้วเป็นการศึกษานักเรียนกว่า 1,000,000 คน
พบว่าการเล่นกีฬาส่งผลดีต่อการเรียน การเล่นกีฬาตั้งแต่เด็กส่งผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็ก และช่วยให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความมั่นใจในตัวเอง
การศึกษาจัดทำโดยยูเอฟ่า (UEFA) หรือสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ร่วมมือกับยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ เบอร์มิ่งแฮม (University of Birmingham) สำรวจเด็กหญิงอายุ 13 ปีขึ้นไป จำนวน 4,128 คน จาก 6 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก อังกฤษ เยอรมนี สเปน โปแลนด์ และตุรกี
พบว่า เด็กผู้หญิงที่เล่นฟุตบอล จำนวน 80% มีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าเด็กผู้หญิงที่ไม่เล่นกีฬา ในขณะที่เด็กผู้หญิงซึ่งเล่นกีฬาชนิดอื่น จำนวน 74% มีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าเด็กผู้หญิงที่ไม่เล่นกีฬาเลย
จากรายงานสำรวจระดับชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา จัดทำโดย ร็อกซ์ (ROX) หรือ Ruling Our Experiences ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาความมั่นใจของเด็กผู้หญิง ได้ทำการสำรวจเด็กผู้หญิงวัยเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (Grade 5) ไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (Grade 12) ทั่วสหรัฐอเมริกา จำนวน 10,678 คน เพื่อศึกษาว่าการเล่นกีฬามีประโยชน์ต่อเด็กผู้หญิงในด้านใดบ้าง
การสำรวจพบว่าเด็กผู้หญิงที่เรียนอยู่ระหว่างเกรด 5 ไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (เกรด 9) จะเป็นช่วงวัยที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเองลงไปเยอะมาก เนื่องจากเกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและฮอร์โมน
รวมถึงแรงกดดันจากเพื่อนผู้หญิง และสังคมภายนอก ทำให้มีความกังวลในรูปลักษณ์ของตัวเอง ต้องการดูดีในสายตาคนอื่นและต้องการเป็นที่ยอมรับ
แม้แต่ผู้หญิงที่ชอบเล่นกีฬาก็เจอกับปัญหาการขาดความมั่นใจเหมือนกัน แต่การสำรวจพบว่าเด็กผู้หญิงที่เล่นกีฬาจะมีความมั่นใจกว่าเด็กผู้หญิงทั่วไป 8% และมีความสุขในแบบที่ตัวเองเป็นมากกว่าคนอื่นๆ 11%
นอกจากนี้ เด็กผู้หญิงที่เล่นกีฬาส่วนใหญ่จะไม่นำเรื่องรูปลักษณ์ตัวเองมาเป็นประเด็นที่สำคัญในชีวิต มีความต้องการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองน้อยกว่าเด็กผู้หญิงทั่วไป 16%
วันนี้ จึงขอชวนเด็กๆ มาเล่นกีฬากันครับ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022