ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
ผู้เขียน | ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง |
เผยแพร่ |
ได้สนทนายาวๆ ในหลากหลายหัวข้อกับ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือที่คนทั่วไปมักเรียกขานในชื่อ “อาจารย์วันนอร์” ซึ่งแม้จะอายุ 80 ปีย่าง 81 ปี แต่สุขภาพยังแข็งแรงดี
นักการเมืองอาวุโสผู้นี้บอกว่า เดือนพฤษภาคม ปี 2568 จะครบ 81 ปี ยังตีกอล์ฟได้สบายๆ ปกติออกกำลังกายด้วยการเล่นกอล์ฟเป็นประจำ เริ่มเล่นเมื่อปี 2549 สาเหตุที่เล่นเพราะหลานชวน พอปี 2550 โดนหยุดพักทางการเมือง เพราะพรรคไทยรักไทยถูกยุบ เป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องพัก 5 ปี เลยใช้เวลาว่างๆ ไปตีกอล์ฟ
สำหรับวิธีดูแลสุขภาพ นอกจากการออกกำลังกายแล้ว อาจารย์วันนอร์ย้ำว่าสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพ
“ผมไม่เครียด และสามารถละวางได้ เช่น ทำงานหนักกลางวันมีปัญหาต่างๆ พอกลางคืนถึงเวลาหลับผมก็หลับได้สนิท พอเราไม่เครียดทำให้ร่างกายก็ดีไปด้วย”
ถามเรื่องครอบครัว อาจารย์วันนอร์แจง “ผมแต่งงานมีครอบครัว ไม่มีลูก มีแต่ลูกบุญธรรม ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเอาครอบครัวมายุ่งในเรื่องงาน เรื่องครอบครัวก็ดูแลอยู่ที่บ้าน บางคนเอาครอบครัวมายุ่งกับงานก็มีปัญหาเยอะ ลูกบุญธรรมผมก็ไม่ได้มาทางด้านการเมือง”
อย่างไรก็ตาม อาจารย์วันนอร์บอกว่า “ในทางการเมือง มุขตาร์ มะทา น้องชาย เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยะลา ส่วนน้องอีกคนหนึ่ง ซูการ์โน มะทา เป็น ส.ส.ยะลา คนที่เป็นนายก อบจ. เป็นมา 4 สมัย ถ้าประชาชนไม่สนับสนุนผมก็ไม่เอาด้วย เพราะผมไม่มีอิทธิพล ไม่มีบารมี ไม่มีลักษณะเป็นบ้านใหญ่ที่ให้คนมาเลือกตระกูลเรา ทุกคนต้องช่วยตัวเอง การเป็นบ้านใหญ่ ไหนจะต้องระมัดระวัง การมีอิทธิพลไม่ใช่ของดี”
“ทุกวันนี้อยู่แบบสบายๆ อยากไปไหนก็ไม่ต้องมีคนติดตาม แวะตรงไหนกินข้าวแกงก็ได้ ผมไม่ชอบพิธีรีตอง”
หากติดตามข่าวคราวทางการเมือง จะเห็นได้ว่านักการเมืองอาวุโสผู้นี้ ผ่านสนามการเมืองมาอย่างโชกโชน สังกัดมาแล้วเกือบทุกพรรคที่มีอยู่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน อาทิ พรรคกิจสังคม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคความหวังใหม่ พรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย จนกระทั่งมาตั้งพรรคเอง คือพรรคประชาชาติ อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งในสภาและนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ไม่ว่าจะเป็น รมว.คมนาคม ประธานสภาผู้แทนฯ รมว.มหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี ผ่านนายกรัฐมนตรีมาถึง 13 คน
อาจารย์วันนอร์ย้อนอดีตให้ฟังว่า “ผมเล่นการเมืองตั้งแต่ปี 2522 พรรคการเมืองแรกคือ พรรคกิจสังคม ลงสมัครก็ได้ จากนั้นเป็น ส.ส.มาตลอด จนถึงปี 2566 รวม 44 ปีที่อยู่ในวงการเมือง เป็น ส.ส.และปาร์ตี้ลิสต์ ทั้งหมด 11 สมัย เป็น ส.ส.เขตเลือกตั้ง 9 สมัย เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 2 สมัย
กับคำถามที่ว่าทำอย่างไรถึงได้เป็น ส.ส.ยะลามาหลายยุคหลายสมัย
เจ้าตัวให้เหตุผลว่า “ประการแรก เราต้องมีจิตใจที่ผูกพันกับประชาชน ต้องไม่ลืมว่าเรามาจากประชาชน ต้องทุ่มเทให้กับประชาชน อันที่สอง ไม่ลืมตน พอเป็นผู้แทนฯ เป็นรัฐมนตรี เป็นประธานสภา ผมไม่มีความคิดยิ่งใหญ่หรืออะไร ผมเป็น ส.ส.ธรรมดา หรือไม่เป็น ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ก็รู้สึกว่าธรรมดา”
“ฉะนั้น การที่เราจะเป็นผู้แทนฯ ได้นาน คือ หนึ่ง เราต้องไม่ลืมประชาชน ต้องมีความผูกพันกับประชาชน สอง ไม่ลืมตัว ไม่เย่อหยิ่งจองหอง หลักสำคัญคือ ประชาชนต้องการคนที่เขาเข้าหาได้ง่ายๆ รับฟังเขา ประชาชนต้องใหญ่กว่าเรา”
“เวลาลงเลือกตั้งผมไปหาประชาชน แล้วพูดว่าเราต้องการเป็นผู้แทนฯ ของเขาเท่านั้น ไม่ใช่เจ้านาย เขามีอะไรก็ใช้เรา ประการสำคัญ ถ้าภาษาบ้านผมเขาใช้คำว่า เราต้องมีอะมานะฮ์ คือต้องมีความซื่อตรง ซื่อสัตย์ รักษาคำมั่นสัญญา พูดอย่างไรแล้วต้องไม่ลืม ผู้แทนฯ ที่ประชาชนเขาจะเลือกได้นานๆ คือต้องรักษาคำพูด”
มีข่าวว่าหมดวาระสมัยนี้แล้วจะลาวงการเมือง
“สิ้นสมัยนี้ในปี 2570 ผมอายุสัก 82-83 ปีคิดว่าน่าจะพอแล้ว คนเราบางทีไม่ต้องรอให้คนอื่นบอก ตัวเองควรจะประเมินได้ว่าพอ ไม่ใช่ให้คนบอกว่าไม่เอาแล้ว ไล่แล้วถึงจะหยุด ผมอยากจะหยุดในจังหวะที่เห็นว่าพอสมควรที่จะหยุดพักในทางการเมืองที่เคยทำมาเกือบ 50 ปี เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถบ้าง ผมเชื่อว่าคนรุ่นหลังมีความรู้ความสามารถไม่ด้อยกว่าเรา และอาจจะดีกว่าด้วย”
อาจารย์วันนอร์เปรยว่า หลังหยุดงานการเมืองแล้วอาจไปทำงานด้านการศึกษา ซึ่งตอนนี้เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่ จ.ปัตตานี อาจใช้ประสบการณ์ 50 ปีทางด้านการเมืองไปบรรยายให้คนรุ่นหลังฟัง
หรือเขียนหนังสือเกี่ยวกับนายกรัฐมนนตรีที่ผ่านมาทั้ง 13 คน
ส่วนการเมืองปัจจุบันที่หลายคนมองว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี น่าจะอยู่ไม่นาน
“ในบ้านเรารัฐบาลส่วนใหญ่อยู่ไม่ครบ 4 ปีทั้งนั้น การที่รัฐบาลอยู่ยาวอยู่สั้น ไม่มีใครจะคาดได้ สถานการณ์ทางการเมืองถูกยุบสภาบ้าง ปฏิวัติรัฐประหารบ้าง จะอยู่ครบ 4 ปีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง อันแรกขึ้นอยู่กับผลงานของรัฐบาล ถ้ารัฐบาลนั้นแก้ปัญหาของประชาชนไม่ได้ เศรษฐกิจย่ำแย่เดือดร้อน อาจจะอยู่ได้ไม่นาน”
“สิ่งที่อยากให้ข้อคิดคือ รัฐบาลจะอยู่นานหรือไม่นานไม่สำคัญเท่ากับว่าได้ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ความอยู่ยาวขึ้นอยู่กับประชาชน แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะคนปฏิวัติรัฐประหาร ผมคิดว่าถ้าไม่มีเหตุจูงใจพอ การปฏิวัติรัฐประหารก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายนัก เหตุจูงใจก็จริงบ้าง หรือไม่จริงบ้างก็มี”
“ผมอยากให้รัฐบาลทำงานให้เต็มที่และอยู่ให้ครบเทอมจะได้ต่อเนื่องไป ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอมทำงานไม่ดี เขาก็มาเป็นต่อไม่ได้ ภาวะปัจจุบันนี้จะเห็นว่าบทท้าทายรัฐบาลมีมากจนต้องให้กำลังใจรัฐบาล เพราะว่าปฏิวัติมาเกือบ 10 ปี เศรษฐกิจย่ำแย่ สิทธิมนุษยชนของประชาชนก็ลดถอยลงไป”
“ฉะนั้น ต้องรื้อฟื้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้คงต้องให้โอกาสรัฐบาลเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชน ล้วนแต่เป็นปัญหาหนักที่รัฐบาลต้องแก้ทันที เหมือนการแก้รัฐธรรมนูญก็ต้องทำทันที อย่าไปรอโน่นรอนี่”
โดยส่วนตัวสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อคณะการปฏิวัติ ไม่ได้ให้สิทธิ์ประชาชนเท่าที่ควร ขณะที่ให้สิทธิ์กับ ส.ว. และให้อำนาจกับองค์กรอิสระมากเกินไป สามารถจะยุบพรรคการเมืองได้ เหล่านี้ควรเป็นเรื่องของพรรคการเมือง เป็นเรื่องของประชาชนมากกว่าองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่จะมาชี้เป็นชี้ตายเรื่องของการเมือง เรื่องของประเทศ การแก้รัฐธรรมนูญคนทั่วไปก็มองเห็นว่าจำเป็น แต่จะแก้ขนาดไหนอย่างไรผมไม่สามารถจะพูดล่วงหน้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งประธานรัฐสภา ไม่ควรจะชี้แนะ
สำหรับปี 2568 เป็นปีที่ท้าทายรัฐบาลมาก เพราะมีสิ่งต่างๆ เช่น รัฐบาลทำงานจะครบ 6 เดือนแล้ว ต้องเร่งสปีด อันที่สอง พรรคผ่ายค้านเห็นว่าควรจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เช่นเดียวกันรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขรายมาตราหรือแก้ไขทั้งฉบับ
ส่วนที่รัฐบาลแถลงว่าจะแก้ไขปัญหาของประเทศ 12 ข้ออะไรต่างๆ ก็อยู่ในปี 2568-2569 จึงเป็นปีที่ท้าทายการบริหารงานของรัฐบาล ขณะเดียวกันเป็นการท้าทายบทบาทของฝ่ายค้านที่จะชี้แนะหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย
ที่สำคัญ จะมีภาคประชาชน ภาคประชาสังคม หรือองค์การต่างๆ หรือการตรวจสอบจากนักร้องทั้งหลายจะร้องต่อคณะรัฐมนตรี ต่อรัฐบาลมากมาย เป็นบทพิสูจน์ว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาทั้งหมด เพื่อให้ประชาชนดีขึ้นอย่างไร อันที่สอง หรือรัฐบาลอาจจะจมปลักอยู่กับการตรวจสอบของฝ่ายต่างๆ จนกระทั่งไม่สามารถทำอะไรเลยได้ อันนี้ขึ้นอยู่ที่ความเข้มแข็งของนายกรัฐมนตรี ความเข้มแข็งของคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล
แน่นอนพรรคฝ่ายค้านต้องชี้แนะจุดบกพร่องของรัฐบาล คนที่ไม่ชอบนายกฯ ไม่ชอบรัฐบาลก็ต้องพยายามสร้างอะไรต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลล้มให้ได้ บทพิสูจน์ปี 2568 จึงเป็นบทท้าทาย
ถ้ารัฐบาลผ่านปี 2568 ไปได้เชื่อว่าจะอยู่รอดจนกระทั่งครบ 4 ปีในปี 2570 ปี 2568 จึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย รัฐบาลจะล้มหรือจะอยู่ได้
ส่วนปัญหาชายแดนใต้ สิ่งที่รัฐบาลควรทำอย่างไรเพื่อยุติความขัดแย้งนั้น ปัญหาภาคใต้ต้องการความจริงใจและจริงจังในการแก้ปัญหา ต้องนำพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาคำนึงถึงด้วย ทรงบอกต้องแก้ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง แล้วพัฒนา ปัจจุบันนี้ผมว่าสอบตกทั้ง 3 อย่างเลย คนที่พูดเข้าใจ จริงๆ แล้วไม่เข้าใจ ถ้าเข้าใจทำไมแก้ปัญหาไม่ได้
ความเข้าใจจริงต้องทะลุปรุโปร่งมองเห็นทุกมิติ ปัญหาไม่ได้มีมิติเดียว มีทั้งมิติประวัติศาสตร์ ศาสนา การศึกษา เศรษฐกิจ และอาจมีมิติอื่นๆ อีก เพราะฉะนั้น พระบรมราโชวาทบอกคุณไปทำภาคใต้คุณต้องเข้าใจ ผมว่าปัจจุบันนี้คนที่ไปแก้ปัญหาคือรัฐบาลไม่เข้าใจ มี 100% เข้าใจ 25% อีก 75% นี่โกหก เมื่อไม่เข้าใจจะไปเข้าถึงได้อย่างไร เวลาคุณพัฒนาก็พัฒนาหลอกๆ เพื่อเอาเงิน เสียไปปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท
“ต้องไว้วางใจคนพื้นที่ ที่ผ่านมาคุณมองว่าคนพื้นที่เขาไม่ใช่ผู้หวังดี แน่นอน ที่ไหนๆ ในโลกนี้มีทั้งคนดีและไม่ดี แต่ย่อมมีคนดีมากกว่าคนไม่ดีแน่นอน แต่นี่คุณตีเหมารวมไปเลยว่าไม่น่าไว้วางใจ คุณไม่ได้ใช้ทรัพยากรในพื้นที่ให้เป็นประโยชน์ คุณเอาคนข้างนอกไปแก้ปัญหา”
“ทำไมคุณไม่ไว้วางใจและใช้ให้คนพื้นที่เป็นตัวจักรในการแก้ปัญหา ประเทศต่างๆ ในโลกนี้เขาใช้คนพื้นที่กันทั้งนั้น”
ถามว่าใช้หลักศาสนาข้อไหนบ้างในการทำงานการเมือง อาจารย์วันนอร์กล่าวว่า ผมใช้หลักในทางคุณธรรมจริยธรรมทางศาสนาโดยตลอด อันแรกศาสนาอิสลามสอนให้มีสติ เป็นประธานสภาหรือทำงานบริหารราชการทั้งหลาย พยายามไม่ใช้อารมณ์ สติที่ดีคือสติปัญญา อีกอย่างศาสนาบอกว่า การเป็นผู้ให้กับคนอื่นดีกว่าเป็นผู้รับ มือบนย่อมสำคัญกว่ามือล่าง ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระบรมราโชวาทว่า การให้คือการรับ เหมือนกับว่าได้รับความสุขทางใจ
หลักศาสนาที่ผมใช้คือ 1 ใช้สติมากกว่าใช้อารมณ์
อันที่ 2 ใช้หลักเมตตาของการปฏิบัติคือการให้กับผู้อื่น ตามหลักศาสนาบอกว่าพระเจ้าจะมองเห็นความดีงามที่เราทำกับสังคมกับเพื่อนมนุษย์ และพระเจ้าจะตอบแทนเราเอง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022