ปีใหม่ เปลี่ยนนิสัยการกินใหม่ยังไง

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

ปีใหม่ เปลี่ยนนิสัยการกินใหม่ยังไง

 

เริ่มต้นปีใหม่ 2568 หลายคนตั้งเป้าที่จะสร้างพฤติกรรมใหม่ในการใส่ใจสุขภาพ

โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน

แต่บ่อยครั้งที่ตั้งเป้าเข้มงวดเกินไปที่จะทำได้สำเร็จภายในระยะเวลาสั้นๆ จึงล้มเลิกความตั้งใจตั้งแต่ยังไม่พ้นเดือนมกราคม

ขอนำเคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายการกินอย่างมีสุขภาพที่สามารถปฏิบัติได้นานผ่านเดือนมกราคม

 

อย่ากดดันตัวเองว่าต้องเริ่มวันที่ 1 มกราคม

แม้ว่าจะดูขัดแย้งกัน แต่การมีความยืดหยุ่นให้ตัวเองในการเริ่มต้นนิสัยใหม่ แทนที่จะบังคับตัวเองให้ทำตามปฏิทิน อาจช่วยให้สามารถรักษานิสัยใหม่ที่ดีต่อสุขภาพได้ดีขึ้น

การเริ่มต้นนิสัยใหม่ ในวันปีใหม่ วันที่ 1 มกราคม อาจได้ผลสำหรับบางคน

แต่ว่าหลายคนก็ยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใหม่

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหลายอย่างที่ดีต่อสุขภาพนั้นยากที่จะทำ

 

ตั้งเป้าหมายเล็กและวัดผลได้

การตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เช่น ตั้งใจที่จะกินผักมากขึ้น ก็กำหนดไปเลยว่าจะกินผักมากขึ้นเท่าไหร่ กี่ชิ้น กี่คำ หรือกี่กรัม

ดีกว่าพูดลอยๆ ว่า จะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

หรือตั้งเป้าว่าจะทำอาหารเพื่อสุขภาพกินเองกี่มื้อต่อสัปดาห์

ดีกว่าที่จะตั้งเป้ากว้างๆ ว่า จะกินอาหารนอกบ้านให้น้อยลง

เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ติดต่อกันก็จะกลายเป็นนิสัย

 

ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จตามเป้าเล็กๆ

ไม่จำเป็นต้องสำเร็จเป้าหมายใหญ่ ให้กำหนดเป้าหมายเล็กๆ ที่บรรลุได้ระหว่างทางที่จะไปถึงเป้าหมายใหญ่

สำหรับใครที่มีแผนลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัม การตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนัก 2 กิโลกรัมทุกสองเดือนสามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างสม่ำเสมอ

หากมีเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำสำเร็จเรื่อยๆ เราจะรู้สึกพอใจและมีแรงบันดาลใจที่จะทำต่อทุกครั้งที่เราไปถึง เป็นแรงจูงใจ ให้เรามุ่งมั่นที่จะทำเป้าหมายใหญ่ให้สำเร็จ

เมื่อถึงเป้าหมายก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเอง

 

ฝึกจิต

ฝึกจิตให้จดจ่อกับสิ่งที่ดีต่อร่างกายจริงๆ จะได้แก้ปัญหากินมากเกินความจำเป็น

เวลาคนกินมากเกินไปมักทำไปโดยไม่รู้ตัว เพราะบ่อยครั้งที่คนกินอาหารโดยจิตใจไม่ได้จดจ่อกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า

หากกินอย่างมีสติ เมื่ออิ่มก็จะหยุด

การฝึกกินอย่างมีสติ เริ่มด้วยการกิน กินอาหารไม่กี่มื้อในแต่ละสัปดาห์โดยไม่มีสิ่งรบกวน ปิดโทรทัศน์และเก็บโทรศัพท์ให้ไกลมือ

และก่อนที่จะกัดอาหารแต่ละคำก็ให้คิดในใจว่าอาหารมีลักษณะ

อย่างไร มีกลิ่นอย่างไร ละเมียดละไมกิน ไม่รีบร้อน

 

พิจารณามิติอื่นๆ ของสุขภาพ

สุขภาพต้องการความสมดุล

นอกจากสุขภาพกายแล้ว ควรใส่ใจสุขภาพในมิติอื่นๆ ของชีวิตด้วย

เช่น ความเป็นอยู่ทางสังคม การทำงาน สติปัญญา

ดูแลตัวเองในแบบองค์รวม

 

ทําอาหารกินที่บ้านให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

อาหารที่ทำกินเองที่บ้าน มักจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารจากร้านอาหาร และการทำอาหารกินเองเราสามารถควบคุมวัตถุดิบและเครื่องปรุง

บอกให้คนรอบข้างทราบถึงเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงนิสัยการกิน ให้ครอบครัวและเพื่อนทราบว่าเราจะเปลี่ยนแปลงนิสัยการกิน ว่าจะกินเพื่อสุขภาพ

หากคนใกล้ตัวมีเป้าหมายคล้ายคลึงกัน จะได้สนับสนุนเป็นกำลังใจให้กันและกัน