เผยแพร่ |
---|
พลันที่เสียงของ “หมอธี” ดังผ่านเว็บไซต์บีบีซีภาคภาษาไทยจากกรุงลอนดอน
การดำรงอยู่ของ “ประยุทธ์ 5″ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
แม้จะมีความพยายามจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้
“หมอธี” กล่าวคำขอโทษต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และมีการยอมรับผ่านการพยักหน้า
ผลก็เท่ากับ “หมอธี” ยอมรับว่าทำผิดและ”เสียมารยาท”
ผลก็เท่ากับ “หมอธี”ยังร่วมเป็น 1 ครม.นั่งประชุมอยู่ที่เดียวกันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
มิได้ติดใจอะไรกับเรื่องของ”นาฬิกา” ไม่ว่าจะมี 1 เรือน ไม่ว่าจะมี 20 กว่าเรือน
แต่เสียงของ”หมอธี”มีผลสะเทือนมากกว่านั้น
ผลสะเทือน 1 ซึ่งเห็นอย่างเด่นชัดโดยฉับพลันทันใดก็คือ เรื่องของ”นาฬิกา”ยังมีความต่อเนื่อง
ทั้งๆที่มีกรณี”เสือดำ”มาเป็น”ตัวช่วย”
ทั้งๆที่มีกรณีตรวจจับ”อาวุธสงคราม”ของเครือข่าย”โกตี๋”เข้ามาสร้างความอึกทึกครึกโครม
ไม่ว่าข่าว”เจ้าสัว”จะวิลิศมาหราเพียงใด
ไม่ว่าข่าว”อาวุธสงคราม”จะโยงสายยาวไปยังปืนผาหน้าไม้กลางทุ่งนาแปดริ้ว และในตึกแถวซึ่งเหมือนคลังแสง น่ากลัวและน่าสยดสยองอย่างยิ่ง
แต่ “นาฬิกา” หรูก็ยังส่งเสียงติ๊ก ติก ต่อไป
สั่นสะเทือนต่อการดำรงอยู่ของครม.”ประยุทธ์ 5″มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
เพราะคำตอบสุดท้ายจะอยู่ที่”ประยุทธ์ 6″
กรณีเสียงของ“หมอธี”มีวิถีดำเนินเช่นเดียวกับการใช้”มาตรา 44” ย้ายอธิบดีในกระทรวงแรงงาน
เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้น “ลาออก”
แม้ในความเป็นจริง สภาพของ “หมอธี” ได้กลายเป็น”คนนอก” ของครม.”ประยุทธ์ 5″ไปแล้วโดยพื้นฐาน
ไม่ว่าจะมีคำ”ขอโทษ”หรือไม่ก็ตาม
กลายเป็น “คนนอก” เพราะว่าเสียงของ”หมอธี”มีส่วนทำให้กรณี “นาฬิกา”หรูไม่ยอมจบ
คนที่จะต้องจบเป็น”หมอธี”มากกว่าใครไหนอื่น