ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ในประเทศ |
เผยแพร่ |
ปี 2567 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีเหตุการณ์สำคัญๆ ทางการเมืองเกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมและผู้คนจำนวนมาก
ส่วนปี 2568 หลายคนอาจเกิดความรู้สึกไม่แน่นอนกับอนาคต จึงอยากรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น โหราศาสตร์ “ศาสตร์แห่งโหร” จึงได้มีการทำนายเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2568 นี้
คำพยากรณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม
บุศรินทร์ ปัทมาคม นักโหราศาสตร์และคอลัมนิสต์หนึ่งในศาสตร์แห่งโหรชื่อดัง บอกว่า ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ช่วงเวลาดังกล่าว ดาวพฤหัสฯ ซึ่งตามหลักของวิชาโหราศาสตร์แล้วเป็นดาวพระเคราะห์ดวงใหญ่ เลยเรียกว่าหัวหน้าฝ่ายศุภเคราะห์ จะเดินหน้าจรเข้าเรือนกดุมภะ ซึ่งหมายถึงเรือนการเงิน ขณะที่ดาวเสาร์จะยังเดินอยู่ในเรือนลาภะจนถึงกลางปี 2568 จึงจะตกที่เสีย ดังนั้น ตามดวงเมืองแล้ว ครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น
ขณะที่เหตุการณ์ทางการเมือง ไม่น่าจะเกิดอุปสรรคอะไร เหตุการณ์อย่างเช่นการรัฐประหารไม่น่าจะมี ดูจากดาวราหูไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เอื้อให้เกิดการรัฐประหาร
แต่จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นคนอื่นหรือไม่ ไม่สามารถทำนายได้ เพราะเกี่ยวโยงกับบุคคล ต้องใช้ลัคนา (วัน เดือน ปีเกิด เวลาตกฟาก-ผู้เขียน) ของ น.ส.แพทองธาร ในการทำนาย ซึ่งตนไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม พอจะทราบลัคนาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งลัคนาของท่านไม่ค่อยถูกกับดาวอังคาร และขณะนี้ดาวอังคารกำลังทับลัคนาของท่าน อาจจะทำให้อยู่ไม่สุขหรือเดือดร้อนรำคาญ ความไม่สบายใจจะเกิดขึ้นกับท่าน อยู่ในขั้นที่เป็นห่วงและน่าหนักใจ
ในส่วนของ น.ส.แพทองธาร หากวิเคราะห์เฉพาะบุคลิกส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับดวง ถือว่าบุคลิกดีพอสมควร เป็นคนสอนง่าย โหงวเฮ้งดี เชื่อว่าไม่น่าเป็นห่วง น่าจะเอาตัวรอดได้
ด้านภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายดวงการเมืองไทยในปี 2568 ว่า ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว อายุเมืองขณะนี้อายุย่าง 243 ปี ทักษาจรในดวงเมืองจะตกภูมิศุกร์ แล้วพระราหูเกิดเป็นกาลกิณีซึ่งปกติจะให้โทษ แต่พระราหูกำลังโคจรอยู่ในภพวินาศ ก็มีส่วนที่ให้คุณ อย่างไรก็ตาม ราหูเข้าไปทับจุดตั้งรับสำคัญในดวงชะตา ได้แก่ จุดพระศุกร์ จุดพระพุธ และจุดราหู
พระศุกร์หมายถึงเรื่องของเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และยังเป็นเจ้าเรือนที่ 7 ซึ่งหมายถึงการต่างประเทศ ราหูในทางโหราศาสตร์หมายถึงความมัวเมามืด เป็นโมหจริต เพราะฉะนั้น เมื่อราหูทับดาวการเงิน ดาวเศรษฐกิจ จะทำให้เกิดปัญหาเป็นคดีความต่างๆ จำนวนมาก
ราหูยังทับดาวพระพุธซึ่งเป็นเทพแห่งการสื่อสาร ถือว่าเป็นคู่ศัตรู ดาวพระพุธเป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 3 หมายถึงเรื่องของประเทศเพื่อนบ้าน หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในการคบหาสมาคมกับประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อราหูทับทั้งดาวพุธและดาวศุกร์ และราหูยังอยู่ราศีมีนซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ ไปจนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เพราะฉะนั้น ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาเรื่องเขตแดนในอ่าวไทยและพื้นที่ทับซ้อนต่างๆ ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะคลี่คลาย
นอกจากนี้ พระราหูยังทับราหู หมายถึงประเทศไทยจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ทั้งนี้ วงรอบของราหูใช้เวลา 18 ปีจะจรกลับมาที่จุดเดิม หากดูจากอดีต จำได้ว่าเมื่อปี 2549 ก่อนที่ราหูจะย้ายประมาณ 1-2 เดือน ก็มีเหตุการณ์อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน เมื่อเอา 18 บวกเข้าไปก็คือประมาณปี 2567-2568
ดังนั้น ก่อนที่ราหูจะย้าย จะต้องระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลัน ตามความหมายของพระราหู
หลังจากวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ราหูซึ่งเป็นกาลกิณีและทับดาวศุกร์อยู่ จะย้ายราศีจากราศีมีน เข้าสู่ราศีกุมภ์ ราหูจะเป็นเกษตร พอที่จะให้คุณอยู่บ้าง
แต่อย่างไรก็ดี มีดาวอีกดวงคือดาวพระเสาร์ ซึ่งเป็นดาวแห่งความเหน็ดเหนื่อย ความลำบากทนทุกข์ จะย้ายราศีเข้าสู่ราศีมีน ซึ่งเป็นภพวินาศของดวงเมือง ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 และจะทับดาวศุกร์เป็นคู่ศัตรู ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจ การเงินการคลัง เศรษฐทรัพย์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อีกเรื่องที่ต้องจับตาคือวงรอบของดาวเสาร์ซึ่งมีวงรอบ 30 ปี ในปี 2568 ดาวเสาร์จะเข้าสู่ราศีมีน ถ้านับจากปี 2568 ย้อนหลังไป 30 ปี จะไปสัมพันธ์กับช่วงปี 2539-2541 ซึ่งจะไปตรงกับช่วงเหตุการณ์วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 หรือวิกฤตต้มยำกุ้งพอดี
ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2568 อาจจะเป็นช่วงเริ่มต้นก่อตัวของวิกฤตเศรษฐกิจก็ได้ ควรเพิ่มความระมัดระวัง
ด้านวสุวัส คำหอมกุล หรือโหรวสุ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง ทำนายดวงการเมืองไทยปี 2568 ว่า จะไม่มีการทำรัฐประหาร เพราะดาวอังคารถอยหลัง หมายถึงทหารไม่มีกำลัง ดาวพฤหัสฯ ก็ถอยหลัง หมายถึงฝ่ายตุลาการจะยังไม่ตัดสินคดีการเมืองต่างๆ ที่มีการร้องเอาไว้
รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังอยู่ต่อไปได้ถึงประมาณเดือนกันยายน 2568 ไม่น่าจะมีอุบัติเหตุอะไร
บททดสอบที่แท้จริงจะเกิดขึ้นประมาณหลังเดือนกันยายน 2568 จนถึงปี 2569 เพราะตอนนั้นดาวอังคารจะมา การชุมนุมทางการเมืองในปี 2568 จะแรงกว่าปี 2567
สิ่งที่น่ากลัวคือเรื่องเศรษฐกิจ ครึ่งปีแรกของปี 2568 ตามดวงเมืองแล้ว อาจจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แบบที่เคยเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งหรือหนักกว่า อุตสาหกรรมที่รับจ้างผลิต รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการผลิตแล้วส่งออกจำนวนมาก เช่น บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ในปี 2568 อาจจะมีการปิดโรงงานแล้วถอนทุน ซึ่งมีผลต่อการจ้างงาน และมีผลต่อรายได้ของประเทศ รัฐบาลต้องพยายามหาทางกระตุ้นตลาดรถยนต์ใหม่ ต้องทำให้โรงงานญี่ปุ่นที่ตั้งในเมืองไทยมา 20-30 ปีอยู่รอด ไม่ใช่ไปเอาแต่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เพราะตอนนี้รถจีนไม่มีภาษีนำเข้า
โหรวสุระบุว่า ถ้าดวงเมืองขยับเป็นปกติ ทุกอย่างเดินหน้าตามที่ควรจะเป็น คือข้าราชการทำงาน ตุลาการทำงาน น่าจะเป็นเดือนพฤษภาคม 2568 และเพิ่มเติมว่า ดวงดาวโคจรผิดปกติครั้งนี้ ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งขณะนั้นมีดาวอังคารและดาวเสาร์พักแค่ 2 ดวง พักนาน 8 เดือน และพอพักเสร็จก็เกิดรัฐประหารตามมา ส่วนครั้งนี้พักยาว 8 เดือน แต่ดาวพักเยอะกว่าคือ 3 ดวง ได้แก่ ดาวพฤหัสฯ ดาวอังคาร และดาวเสาร์
จึงมองว่าถ้าจะพิสูจน์ว่ารัฐบาลนี้อยู่ยาวถึงปี 2569 หรือไม่ ต้องรอหลังเดือนกันยายนปี 2568 ซึ่งไม่แน่อาจจะมีรัฐประหาร แต่ไม่ใช่แบบเก่า อาจมีกลไกอะไรบางอย่างที่มาเป็นรัฐประหาร แต่ไม่ใช่ใช้ทหารแบบเก่าก็ได้ ต้องดูว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญที่ยังมีคดีค้างอยู่ อาจจะไปเริ่มตอนนั้นพอดีเพราะกระแสมา
โหรวสุยังระบุถึงดวงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ควรจะอยู่เงียบๆ ทำอะไรไม่ต้องออกสื่อ จะไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องให้สัมภาษณ์ ให้ลูกจัดการคนเดียว เอาลูกมาบังหน้าให้หมด ก็จะไม่มีเรื่องที่มีคนไปยื่นฟ้องเลย
ดวงของนายทักษิณ สามารถค้ำลูกได้ แต่ต้องไม่ออกหน้า เพราะดวงลูกก็มีดาวเหมือนพ่อ ฉะนั้น พ่อต้องอยู่เบื้องหลังแล้วให้ลูกทำ
ทั้งหมดนี้คือการมองเศรษฐกิจและการเมืองไทยปี 2568 ผ่านศาสตร์แห่งโหร
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022