คอลัมน์ประจำ

จับตากีฬาไทยปีมะเส็ง 4 ไฮไลต์หลักที่ต้องติดตาม

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มกราคม 2568
คอลัมน์เขย่าสนาม
เผยแพร่

ปี 2568 หรือ “ปีมะเส็ง” ซึ่งนับว่าเป็นลำดับที่ 6 จาก 12 นักษัตรไทย โดยมีสัญลักษณ์นักษัตรประจำปีเป็นงูเล็ก

เป็นอีกปีไฮไลต์สำคัญของวงการกีฬาเมืองไทย

ที่มีกิจกรรมอัดแน่นเอียดตลอดปี 2568

เปิดหัวปีกับสายซิ่ง ‘โมโตจีพี’

เริ่มจากต้นปี ไฮไลต์แรกหลังเข้าสู่ปีมะเส็ง จะเริ่มด้วยการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ประจำฤดูกาล 2025 ซึ่งถือเป็นปีที่ 6 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ โดยปีปฎิทิน 2024 เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันในสนามที่ 18 จะรับหน้าที่ประเดิมจัดแข่งขันสนามแรกจากทั้งหมด 22 สนาม ในชื่อรายการ ไทยจีพี ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2568

และไฮไลต์ที่สำคัญของศึกโมโตจีพี ไทยแลนด์ 2025 คือ การที่คนไทยจะได้เห็น “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยที่จะขยับขึ้นไปแข่งขันในรุ่นโมโตจีพีในซีซั่นหน้า

จะเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ลงแข่งขันในรุ่นโมโตจีพี กับทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ และจะได้ประเดิมลงสนามแรกในโมโตจีพี ในสนามโฮมเรซด้วย

แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย จะได้ชมฝีมือการขับของยอดนักบิดระดับโลกที่จะเดินทางมาประเทศไทยกันตั้งแต่ช่วงต้นปี นำมาโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่, อเล็กซ์ รินส์, ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า, เอเนีย บาสเตียนินี่, อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร่, มาเวริก บีญาเลส

รวมไปถึงซูเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวไทยอย่าง มาร์ก มาร์เกซ เจ้าของแชมป์โลกโมโตจีพี 6 สมัยจากค่าย Ducati Lenovo Team

ศึกชิงประมุขบ้านอัมพวัน

อย่างที่ทราบกันดีว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ และส่งผลสะเทือนไปถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่จะเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2568

ว่ากันทางกฎหมาย สถานะของ “บิ๊กป้อม” ณ ตอนนี้ไม่มีตำแหน่งในวงการกีฬาแล้ว เพราะยุติการทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ นับตั้งแต่วันที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รับรองสถานะการจดทะเบียนคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของสมาคมกีฬาว่ายน้ำฯ

มีการเคลื่อนไหวจากหลายๆ คนที่ต้องการก้าวขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ คนใหม่ มีการเปิดหน้า เปิดตัวกันออกมาหลายคน

ชื่อแรกคือ “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย

อีกรายที่แม้ว่าจะปฏิเสธออกมา แต่คนในวงการกีฬาต่างเชียร์ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนั่นคือ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ และสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์ชาวไทย)

ต้องวัดใจ “บิ๊กป้อม” และลูกน้องอย่าง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ คนปัจจุบัน ว่าจะยอมหรือไม่

ถ้าไม่ยอม!!!…. “บิ๊กป้อม” มี 2 ทางเลือก

1. เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 เป็นอย่างช้า ต้องหาที่ไปนั่งบริหารตำแหน่ง “นายกสมาคมกีฬาใดกีฬาหนึ่ง” ให้ได้

หรือ 2. ถ้าข้อ 1 ไม่สำเร็จ “บิ๊กป้อม” ต้องไปขอให้สมาคมกีฬาใดกีฬาหนึ่งส่งชื่อ “บิ๊กป้อม” เป็นผู้แทนสมาคม ไปนั่งเป็นกรรมการบริหารโอลิมปิคไทยชุดใหม่

แล้วไปลุ้นกันต่อที่การโหวตรายชื่อจาก 23 กรรมการบริหารว่า “ใคร” เหมาะสมนั่งประธานโอลิมปิคฯ คนใหม่

เจ้าภาพวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก

ช่วงกลางปี 2568 เราจะมีทัวร์นาเมนต์วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2025 ซึ่งที่สุดพิเศษในปี 2568 คือ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ภายใต้การนำของ สมพร ใช้บางยาง นายกสมาคม นำเสนอข้อมูลจนคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 ก่อนที่ที่ประชุมใหญ่สามัญของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ครั้งที่ 39 จะไฟเขียวเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม-7 กันยายน 2568 ที่ จ.เชียงใหม่, จ.ภูเก็ต, จ.นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร

มีทีมวอลเลย์บอลหญิงชั้นนำของโลกเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 32 ทีม ประกอบด้วย ประเทศไทย (เจ้าภาพ 1 ทีม), เซอร์เบีย (แชมป์เก่า 1 ทีม)

ทีมชนะเลิศ รองชนะเลิศ และอันดับ 3 จากชิงแชมป์ของทั้ง 5 ทวีป รวมเป็น 15 ทีม ได้แก่ ทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เวียดนาม / ทวีปยุโรป ได้แก่ ตุรกี, เนเธอร์แลนด์ และอิตาลี / ทวีปแอฟริกา ได้แก่ เคนยา, อียิปต์, แคเมอรูน / อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, โดมินิกัน / ทวีปอเมริกาใต้ ได้แก่ บราซิล, อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย

ทีมคะแนนสะสมอันดับโลก (FIVB World Ranking) ที่ยังไม่ผ่านเข้ารอบ 15 ทีม ได้แก่ โปแลนด์, เยอรมนี, เบลเยียม, เช็ก, เปอร์โตริโก, ยูเครน, ฝรั่งเศส, บัลแกเรีย, คิวบา, สวีเดน, เม็กซิโก, สโลวีเนีย, สโลวะเกีย, สเปน และกรีซ

ไทยวัดกึ๋นเจ้าภาพซีเกมส์หนที่ 7

ก่อนจะจบปี 2568 จะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กำหนดระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี และ จ.สงขลา ส่วนกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 กำหนดระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ที่ จ.นครราชสีมา

นี่เป็นการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ หนที่ 7 ของประเทศไทย นับตั้งแต่กีฬาแหลมทองเริ่มแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1959 และถูกคาดหมายเรื่องมาตรฐานการเป็นเจ้าภาพไว้ค่อนข้างสูง

น่าชื่นชมรัฐบาลไทยที่นำโดยหัวเรือใหญ่อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่โดยตำแหน่งนั่งประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการครั้งแรกไปแล้ว พร้อมกับอนุมัติงบประมาณที่จะใช้รองรับการเป็นเจ้าภาพทั้งซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 รวมกันอยู่ที่ 2,055,000,000 บาท แบ่งเป็น ขอรับสนับสนุนจากงบประมาณ 1,683 ล้านบาท, รายรับจากฝ่ายสิทธิประโยชน์ 200 ล้านบาท, ค่าจำหน่ายบัตรเข้าชม 20 ล้านบาท, ค่าลงทะเบียนเข้าร่วมซีเกมส์ 134 ล้านบาท และค่าลงทะเบียนเข้าร่วมอาเซียนพาราเกมส์ 16 ล้านบาท

ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จัดขึ้นภายใต้คำขวัญ “Ever Forward” (ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง) จะมีการจัดแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการแข่งขัน และกีฬาสาธิต 3 ชนิด ส่วนกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ภายใต้คำขวัญ “Create Pride Together” (สร้างความภูมิใจไปด้วยกัน) จะมีการแข่งขันทั้งหมด 20 ชนิดกีฬา •

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ