“อีแอบ” ปีนเกลียว | ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

“อีแอบ 2” ผลจากการสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้นตำรับประชานิยม “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะวิทยากรรับเชิญ โยนระเบิดกลางวง ตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลที่ตีกรรเชียงเลี่ยงไม่ยอมเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ “เพื่อไทย” เสนอกฎหมายสำคัญ ว่าด้วย พ.ร.ก.การจัดเก็บภาษี ว่าเป็นพวก “อีแอบ”

“พรรคร่วมหลบป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่องห้ามหนี ต่อไปใครหนีส่งใบลามาด้วย ง่ายดี ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมา อยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ต้องสู้ด้วยกัน”

หลังจากนั้น ขี้เถ้าและเขม่าฟุ้ง มีการไล่เช็กโมเมนตัม เดือนปักษ์ที่มีการประชุม ครม.นัดที่ก่อเหตุและปัจจัยที่ทำให้ “พ่อ (เลี้ยง) เกิดโทสะ” ปรากฏว่า มียื่นใบลากิจ 7 ราย เอ็กซเรย์เป็นรายบุคคล และพวก

หวยผู้ต้องสงสัย กับผู้น่าสงสัย ออกที่ “พรรคภูมิใจไทย” ของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ของ “เสี่ยตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน

“เสี่ยหนู” เล่นการเมืองชาญฉลาด สัญชาตญาณเยี่ยม เช้าอีกวันถัดมา ปะหน้ากองทัพผู้สื่อข่าวก่อนบินไปมาเลเซียกับคณะของ “นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร” ชิงจังหวะออกตัวว่า “อีแอบ” ที่ทักษิณทิ้งบอมบ์ไม่ได้หมายถึงภูมิใจไทย

“ไม่ได้หมายถึงผมแน่ๆ ก็แล้วกัน แต่หมายถึงใครก็ต้องไปถามท่านดู เพราะท่านเป็นผู้พูด และท่านไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เรารู้ว่าไม่ใช่หมายถึงเรา เพราะท่านหมายถึงคนที่ไม่ได้ไปร่วมประชุม ครม. แต่ผมไป มันก็จบ ผู้สื่อข่าวก็เห็น คนที่ยืนถัดจากนายกฯ ก็คือผมในการแถลงข่าวหลังจากการประชุม ครม. ขอย้ำว่าอย่าไปใส่ใจ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าไปหยุมหยิม”

ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พากันหลบฉาก “เงียบกริ๊บ” ต่อมา ส่ง “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ส.ส.ราชบุรี ออกมาปฏิเสธพัลวันพัลเกเช่นกันว่า “อีแอบ” ที่ทักษิณระบุ คงไม่ใช่รัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะนายพีระพันธุ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้แจ้งลาต่อสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไว้ล่วงหน้าแล้วเนื่องจากติดภารกิจ

“นายสุชาติติดภารกิจเป็นประธานพระราชทานเพลิงศพอดีต ส.ส.ในพื้นที่ชลบุรี ขณะที่นายพีระพันธุ์มีภารกิจสำคัญที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันว่า พปชร.และรัฐมนตรีทุกคน ปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ รวมทั้งรักษามารยาทการทำงานในฐานพรรคร่วมรัฐบาลที่ดี ไม่ว่าจะร่วมงานกับรัฐบาลชุดใด”

สรุปไม่ได้ว่า “อีแอบ” ที่ “ทักษิณ” ควันออกหู เอ่ยปากตะเพิด อยู่ก็อยู่ ถ้าไม่อยากอยู่ก็ไป คือใคร เพราะทั้ง “ภูมิใจไทย” และ “รวมไทยสร้างชาติ” ที่เป็นผู้ต้องสงสัย กับผู้น่าสงสัย ต่างดาหน้าออกมาปฏิเสธ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาปีนเกลียว ระหองระแหง คลางแคลงใจ ในพรรคร่วมรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง 1” คุกรุ่นมาตลอด โดยเฉพาะระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” เหยียบตาปลา มีจุดยืนต่างกันมากมายหลายปมเงื่อน ตั้งแต่กฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรม กฎหมายประชามติ ที่ภูมิใจไทยสวมบทเสื้อข้ามห้วยกระโดดค้ำถ่อเออออห่อหมกกับ ส.ว.สายสีน้ำเงิน ให้การสนับสนุนการทำประชามติสองชั้น คว่ำกระดานการทำประชามติชั้นเดียวของสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคเพื่อไทยให้การหนุนหลัง

เรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้กระทั่ง พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม หรือ “กฎหมายต้านปฏิวัติ” ที่เนื้อหาให้คณะรัฐมนตรีรวบอำนาจมารวมศูนย์มีส่วนในการพิจารณาแต่งตั้งนายทหารระดับนายพล และสั่งปลด ขณะที่ “นายอนุทิน” หัวหน้าภูมิใจไทยออกมาเหยียบเบรกหัวทิ่ม ระบุว่า การปฏิวัติยึดอำนาจ ห้องเครื่องมาจากนักการเมืองมีส่วนสำคัญ ถ้าคนการเมืองไม่ขี้ฉ้อขี้โกง ซื่อสัตย์ สุจริต ทหารก็ปฏิวัติไม่ได้ เก็บเกี่ยวแต้มเข้ากระเป๋าไปเยอะเลยทีเดียว จน “ทักษิณ” ชมดูเกมไม่ไหว ต้องออกมาร้องปรามว่า “อนุทินอย่ารีบหล่อเร็วเกินไป”

“เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” ระนาบความขัดแย้ง ระหองระแหงดีกรีความรุนแรงพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ แต่ยัง “ไม่แตกหัก” ถึงขั้นเลือดสาดก็เพราะ “เสี่ยหนู” เจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ฮึกเหิมลำพองตน แม้ขณะนี้ภูมิใจไทยจะแข็งแกร่ง มี ส.ว.สายสีน้ำเงินเป็นเครื่องทุ่นแรงอยู่ในมือ แต่ไม่คิดวัดฝีมือกับเพื่อไทย ที่ได้เปรียบและยังเข้มแข็งกว่าในฐานะแกนนำพรรคร่วม กระดูกยังคนละเบอร์ เลยไม่ยอมเอาไข่ไปกระแทกหิน

ทุกครั้งที่ “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” จะปะฉะดะเถื่อนกระโจนเข้าห้ำหั่นกัน “เสี่ยหนู” ก็ยอมศิโรราบ ตีไพ่หมอบ เพื่อสับคัตเอาต์ ไม่ให้ถึง “จุดแตกหัก”

ล่าสุดดังที่เป็นข่าว “เสี่ยหนู” ไปออกรอบ “ตบจูบ” กับ “ทักษิณ” ที่สนามกอล์ฟ สโตน ฮีลล์ คลับ ที่ปทุมธานี โดยมี “เสี่ยกลาง-สารัชถ์ รัตนาวะดี” เจ้าบ้านทำหน้าที่กาวใจ

เพื่อไทย กับภูมิใจไทย แตกหักกันยากในชั่วโมงนี้ ยิ่งส่องกล้องดูสัดส่วนผสมผสาน ถือแต้มต่อมากอันดับ 2 ถึง 69 ที่นั่ง แต่เมื่อชำเลืองหางตาตามไปดู “รวมไทยสร้างชาติ” มีฐานที่มั่นแค่ 36 ที่นั่ง น้อยกว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ “ค่ายสีน้ำเงิน”

ถ้าแตกหักกับเพื่อไทย วันไหน เมื่อไหร่ ถือว่าเป็น “ขนมกรุบกรอบ” เคี้ยวง่ายสบายเหงือก หวานคอแร้งเป็นอย่างมาก

รัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง 1” มีฐานเสียงเต็มพิกัดอยู่ 318 เสียง เขี่ยรวมไทยสร้างชาติออก หายไป 36 ที่นั่ง ยังเหลือ 282 เสียงยังเกินครึ่ง แต่ปริ่มๆ น้ำ หวาดเสียวเล็กน้อย

แต่มีข่าวว่า กลุ่ม “เพชรบูรณ์” เครือข่ายของ “สันติ พร้อมพัฒน์” กับกลุ่มกำแพงเพชร สาย “วราเทพ รัตนากร” จะขนลูกทีมประมาณ 10 ชีวิตออกจากพลังประชารัฐ กลับบ้านเก่าเพื่อไทย

กวักมือเรียก “ไทยสร้างไทย” อีก 6 ที่นั่งมาเสริมใยเหล็ก ที่มั่นใหม่ของรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” เฉียดฉิว 300 เสียง

“พ่อ (เลี้ยง) ประเมินสถานการณ์แน่ใจแล้วว่า รทสช.ชั่วโมงนี้ภูมิกคุ้มกันน้อยที่สุด คางเปราะที่สุด

เป็นเด็กดื้ออีกที จะโป้งปิดบัญชี