‘ความสุข’ นอกกติกา

เมนูข้อมูล | นายดาต้า

 

‘ความสุข’ นอกกติกา

 

ผ่านปีเก่า 2567 สู่ปีใหม่ 2568 ว่าไปที่ผ่านมาหลายสิ่งหลายอย่างมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น จนน่าเชื่อว่า พ.ศ.ใหม่อะไรต่ออะไรจะลงตัวมากขึ้น

ในทางการเมือง แม้อำนาจประชาชนยังไม่ใช่ตัวตัดสิน “พรรคเพื่อไทย” จำเป็นต้องข้ามขั้วมาตั้งรัฐบาล ทิ้งพรรคร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ไม่เพียงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามายุ่มย่ามกับอำนาจรัฐ ยังถูกยุบพรรค ตัดสิทธินักการเมืองที่ไม่ปรารถนาให้มีบทบาทไปมากมาย

แต่พรรคเพื่อไทยก็ประคับประคองให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนยืนอยู่ได้ด้วยความมั่นคงพอสมควร

แม้จะอีหลักอีเหลื่อกับพรรคร่วมรัฐบาลที่เอาแต่อาศัยแอบอิงกติกาของระบบสืบทอดอำนาจ เพื่อแข่งขันกันให้ตัวเองมีภาพของผู้มั่นคงในศรัทธาต่อระบบที่ไม่เห็นคุณค่าต่อการยึดโยงอำนาจประชาชนอยู่ไม่น้อยก็ตาม

เมื่อการเมืองพอไปได้ ด้านเศรษฐกิจที่คลุ้งด้วยความฉ้อฉลสารพัดรูปแบบในทุกวงการ กระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนรุนแรงแค่ไหน หรือด้านสังคมที่ต้องเผชิญกับอาชญากรรมออนไลน์ และยาเสพติดแค่ไหน ก็มีความหวังว่า “การเมืองที่นิ่งขึ้น” จะเป็นประโยชน์สูงต่อการจัดการกับปัญหาที่เป็นรายละเอียดในชีวิตของประชาชนได้อยู่

สรุปแล้วการเมืองที่ประชาธิปไตยมั่นคงขึ้น แม้ไม่เต็มใบ เป็นความหวังให้เชื่อว่าจะทำให้ด้านอื่นๆ ดีขึ้นได้

 

เหมือน “นายกรัฐมนตรี-แพทองธาร ชินวัตร” จะมองเห็นภาวะนี้ ในวาระขึ้นปีใหม่จึงอวยพรประชาชนว่า

“อยากให้ทุกคนมีพลังที่ดีเพื่อต้อนรับปีใหม่ และที่เคยประกาศไว้ว่าปี 2568 จะเป็นปีแห่งโอกาส โดยรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนไทยทุกคน และขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงเดินทางปลอดภัย สนุกสนานให้เต็มที่ในช่วงวันหยุด และกลับมาทำงานต่อ โดยมีพลังงานที่ดี อยากให้ทุกคนมีจิตใจที่สดใสเบิกบาน มีความสุขกับเรื่องเล็กๆ ง่ายๆ ใกล้ตัว”

ประชาชนเองก็ดูจะตอบรับความหวังที่จะมีความสุขอยู่ไม่น้อย

 

ผลสำรวจ “นิด้าโพล” ล่าสุด เรื่อง “เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้าง ในปี 2567 ที่ผ่านมา”

เมื่อถามถึงความสุขในปี 2567 ร้อยละ 39.92 บอกค่อนข้างมีความสุข เพราะมีความสุขทั้งกับตัวเองและครอบครัว ชีวิตการทำงานราบรื่น ไม่มีอุปสรรค รองลงมา ร้อยละ 32.52 ที่บอกว่า ไม่ค่อยมีความสุข เพราะมีปัญหาทางการเงินที่เกิดจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น และรู้สึกเบื่อหน่ายกับความวุ่นวายของสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน

ขณะที่ร้อยละ 18.17 ระบุว่า มีความสุขมาก เพราะการใช้ชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่น สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องใดที่ต้องกังวล

และร้อยละ 9.39 ระบุว่า ไม่มีความสุขเลย เพราะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินสะสม การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากและไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

คนมีความสุขกับไม่มีความสุข แม้จะใกล้เคียงกัน แต่สัดส่วนคนมีความสุขมากกว่า

 

เมื่อถามถึงสิ่งที่เหนื่อยหน่ายในปี 2567 ที่ผ่านมา ร้อยละ 52.14 ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่

รองลงมา ร้อยละ 28.09 ปัญหาภัยไซเบอร์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การแฮ็กข้อมูล เป็นต้น

ร้อยละ 27.86 ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองทั้งในและนอกสภา

ร้อยละ 21.60 ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด

ร้อยละ 14.89 ปัญหาราคาพลังงาน

ร้อยละ 13.59 ปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยทางธรรมชาติ

ร้อยละ 13.44 ปัญหาสุขภาพ โรคระบาด

ร้อยละ 12.98 ปัญหาอาชญากรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ร้อยละ 12.90 ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร

ร้อยละ 12.75 ไม่เหนื่อยหน่ายกับอะไรเลย

ร้อยละ 11.45 ปัญหาความขัดแย้งในสังคม

ร้อยละ 9.85 ปัญหาการคอร์รัปชั่นในทุกระดับ

ร้อยละ 9.69 ปัญหาการจราจร

ร้อยละ 5.57 ปัญหาความไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม

ร้อยละ 4.81 ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมในระบบราชการ

และร้อยละ 2.06 ระบุว่า ปัญหาสงคราม ความขัดแย้งในต่างประเทศ

 

ในเรื่องที่ทำให้เหนื่อยหน่ายดังผลโพลนั้น หากติดตามมาตรการของรัฐบาลใกล้ชิด จะพบว่าเรื่องที่ประกาศว่าจะทำนั้นค่อนข้างตรงกับเรื่องที่ประชาชนเห็นว่าเป็นปัญหานั้นเป็นส่วนใหญ่

เมื่อเป็นเช่นนั้นในปี 2568 หากมองในมุมมองความหวัง ย่อมประเมินได้ว่าน่าจะดีขึ้น

ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว คือ “กลไกที่ออกแบบไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ” นั้น ที่ผ่านมาจะพบว่าหลายเรื่องที่รัฐบาลคิดจะทำ กลไกพวกนั้นดูจะไม่ค่อยแฮปปี้สักเท่าไร ที่รัฐบาลบอกประชาชน จะทำในสิ่งที่ก่อความพอใจ และสร้างความเชื่อถือศรัทธาให้เกิดขึ้นกับประชาชน

ซึ่งเชื่อว่าปัญหาของปีหน้า จะอยู่ที่การต่อต้านจะแรงขึ้น