การกลับมาของ ‘โค้ชอ๊อต’ นำลูกยางสาวสู่ระดับโลก

ในปี 2025 นับเป็นปีสำคัญของวงการวอลเลย์บอลไทย หลังจากที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2025 (FIVB Women’s World Championship 2025) ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม-7 กันยายน 2568 โดยมี 32 ทีมจากทุกทวีปทั่วโลก เข้าร่วมการแข่งขัน

การแข่งขันครั้งนี้ในรอบแรก จะกระจายไปจัดตามหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและกีฬา รวม 4 จังหวัด

ได้แก่ เชียงใหม่, ภูเก็ต, นครราชสีมา และกรุงเทพฯ จากนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะมาจัดแข่งขันที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ

โดยการจับสลาก ปรากฏว่า ทีมตบลูกยางสาวไทย ในฐานะเจ้าภาพ อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, อียิปต์ ซึ่งทีมชาติไทยจะแข่งขันที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ ทั้ง 3 นัด

ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดนี้มี “โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน

ซึ่งขณะนี้ “โค้ชอ๊อต” และทีมงาน ได้เดินหน้าเตรียมความพร้อมของทีมนักตบสาวไทยมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

 

“โค้ชอ๊อต” เปิดใจถึงการเตรียมทีมลุยศึกใหญ่ในปีหน้า ซึ่งมีทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ ให้ลงสนามตลอดทั้งปีว่า ในปีหน้าศึกชิงแชมป์โลกคือรายการสำคัญที่สุดของทีมวอลเลย์บอลหญิง ซึ่งเราจะเตรียมทีมกันตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นไป นักกีฬาตัวหลักส่วนใหญ่เล่นในลีกอาชีพต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งเราก็ได้คุยและวางแผนกันไว้แล้วว่าให้พวกเขามีการเตรียมร่างกายและจิตใจยังไง จะพัฒนาเทคนิคการเล่นยังไง ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผมได้โทร.คุย สอบถามแต่ละคนว่าเป็นไงบ้าง ซึ่งทุกคนสุขภาพดี ไม่บาดเจ็บ โดยเรามีแผนที่จะให้พวกเขากลับมาต้นปีหน้า สิ่งสำคัญสุดคือเขาต้องไม่บาดเจ็บกลับมา

“ตอนนี้เรามอนิเตอร์ เกาะติดนักกีฬาตลอดทุกเดือน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ได้พูดคุยกับนักกีฬา สอบถามถึงความเป็นอยู่ คุยเกือบทุกคนเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป การแข่งขันของพวกเขาจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นช่วงท็อป 4 เป็นไฟนอล ผู้เล่นตัวหลักๆ ของเราหลายๆ คน ก็น่าจะเป็นตัวหลักของแต่ละทีมในลีกต่างประเทศด้วย นอกจากพูดคุยแล้ว เราก็จะหาโอกาสไปเยี่ยมพวกเขา เรามีแผนที่จะไปเยี่ยมนักกีฬาส่วนใหญ่ที่เล่นในญี่ปุ่น บางคนที่เกาหลีใต้ ส่วนอเมริกาและยุโรป ก็มีไม่กี่คน ตอนนี้กำลังวางแผนกันอยู่ เมื่อเขากลับมาก็อยากให้มีสภาพร่างกายที่พร้อมที่สุด”

ขณะเดียวกันก็ต้องการให้พวกเขาไปศึกษาหาความรู้ในเรื่องของการพัฒนาตัวเองไปสู่ระดับเวิลด์คลาส ทั้งลีกยุโรป หรือว่าอเมริกา หรือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็ดี เราต้องการให้พวกเขาไปพัฒนาคุณภาพทางด้านเทคนิคและแท็กติกในการแข่งขัน ซึ่งพยายามพูดคุยกับเขาอย่างใกล้ชิด ส่วนกรอบของเวลาที่ทุกคนจะกลับมารวมตัวกัน ก็น่าจะประมาณเดือนเมษายน บางคนถ้าจบลีกเร็วก็จะกลับมาประมาณเดือนมีนาคม

“โค้ชอ๊อต” กล่าวต่อว่า ผู้เล่นที่อยู่ในไทย ณ ตอนนี้เราก็เตรียม ยู-21 ยู-19 ไว้แล้ว ก็จะเรียกเข้ามาทดสอบความพร้อมกันเรื่อยๆ ซึ่งจะมีเด็ก ที่เรียกว่าเด็กสูงในอนาคต เป็นชุดยู-16 และก็มียู-19 วงกรอบเวลาตั้งแต่ตอนนี้จนถึงมีนาคม เป็นช่วงที่ไทยลีกกำลังแข่งขัน นักกีฬาบางคนที่ไม่มีการแข่งขันเราก็จะเรียกมาซ้อม มาดูเรื่องของวิธีการ

ส่วนคุณสมบัติต่างๆ ของผู้เล่นไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งต่างๆ เราก็จะเรียกมาในปริมาณที่พอสมควร จะขออนุมัติจากนายกสมพร ใช้บางยาง เป็นกรณีพิเศษ เพราะปีหน้าเราต้องทำหลายเรื่อง เรื่องแรกชุดใหญ่ จะพยายามพัฒนาศักยภาพของเขาให้ไปสู่ระดับเวิลด์คลาสให้ได้ เพื่อก้าวไปสู่อันดับ 10 ของโลกให้ได้

ณ ขณะนี้เราอยู่อันดับ 13 แต่ว่าแต้มของเรายังห่างพอสมควรกับอันดับ 10 ซึ่งตรงนี้เราจะต้องเก็บคะแนนให้ดี ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน (เนชั่นส์ลีก) และจะไปเก็บแต้มต่อในช่วงชิงแชมป์โลก เพราะมีแต้มเยอะ

“ในปีหน้า แมตช์สุดท้ายน่าจะเป็นซีเกมส์ 2025 แต่ว่าก่อนหน้าศึกชิงแชมป์โลก น่าจะมีซีวีลีก ซึ่งในภาพรวมก็คงต้องใช้นักกีฬาในจำนวนที่เยอะพอสมควร ขณะเดียวกันปีหน้าถือว่าเป็นปีที่ดีที่เรายังมีศึกชิงแชมป์โลก ยู-19 และ ยู-21 ด้วย”

“ในช่วงนี้กลุ่มสตาฟฟ์โค้ชของเราจะต้องบริหารจัดการให้ดี ให้ได้ไปทำงานร่วมกัน เพราะว่าถ้าใครดีในช่วงครึ่งปี ก็คงมีโอกาสได้มาเล่นทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งก็คงต้องวางแผนอีกที หลังจากที่ได้ดูฟอร์มการเล่นของนักกีฬาทุกคนในช่วงแข่งลีกต่างประเทศและในประเทศ ว่าใครมีความพร้อมและเหมาะสมที่จะเล่นรายการแรก คือ เนชั่นส์ลีก ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน”

 

เฮดโค้ชทีมลูกยางสาวไทยบอกว่า ในความคิดของผม ผมเปิดกว้างให้ทุกคนที่มีขีดความสามารถมีศักยภาพ และพร้อมที่จะมาเล่นทีมชาติอยู่แล้ว ต้องการคนที่จะเดินทางร่วมไปกับเรา เรายินดีต้อนรับอยู่แล้ว พี่ๆ ที่ยังเก่ง พี่ๆ 7 เซียน หลายๆ คนที่เขายังเล่นได้อยู่เราก็พร้อมต้อนรับ แต่ว่าแมตช์มันเยอะ ใครจะเล่นรายการไหน ช่วงไหน ก็ได้ทั้งนั้น เราต้องมาวางแผนให้ดี ขอเวลาอีกนิด ตอนนี้มันยังไม่ลงตัว เราต้องมาสรุปกันอีกที ประมาณเดือนมีนาคมคงทราบความเคลื่อนไหวและการเตรียมตัวทั้งหมด

“ระหว่างนี้ก็ต้องศึกษาคู่แข่งด้วย ว่าคู่แข่งขันของเราที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้าทั้งโซนเอเชียและอาเซียน คาดว่าผู้เล่นสำคัญของอาเซียน จะเป็นใคร ทีมไหนที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญของเรา และในเอเชียจะมีกี่ทีมที่จะเปลี่ยนแปลงผู้เล่น ทั้งญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน หรือคาซัคสถาน ว่าเขามีผู้เล่นระดับไหนที่จะเข้ามา เราต้องศึกษาพวกเขาและเตรียมตัวที่จะเล่นกับเขาว่ามียุทธวิธีในการเล่นยังไง เพราะอย่างน้อยมันจะทำให้เรารู้ในเส้นทางของปี 2026 โดยในปี 2026 ศึกชิงแชมป์เอเชีย ก็สำคัญ เราต้องเตรียมยุทธศาสตร์และต้องวางแผนนักกีฬาของเรา และกำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนว่าจะเล่นยังไง พัฒนายังไง ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนา ยู-19 และยู-21 ขึ้นมาพร้อมๆ กัน เพราะจะเป็นกำลังที่ขึ้นมาเสริมทีมชาติชุดปัจจุบัน พวกเขาก็เล่นได้ดีอยู่แล้ว แต่ก็คาดหวังว่าพวกเขาจะพัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้นไปอีก มองดูแล้วหลายคนก็ยังไปได้ดี”

มารอดูกันว่าการกลับมาครั้งนี้ของ “โค้ชอ๊อต” จะพาทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ไปสู่เป้าหมายอย่างโอลิมปิกเกมส์ สำเร็จหรือไม่… •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]