คอลัมน์ประจำ

‘หนุ่มเมืองจันท์’ วิเคราะห์ รอบนี้ ‘ทักษิณ’ ดุขึ้นกว่าเดิม!

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568
คอลัมน์เปลี่ยนผ่าน
เผยแพร่

เปลี่ยนผ่าน | ทีมข่าวการเมือง มติชนทีวี

 

‘หนุ่มเมืองจันท์’ วิเคราะห์

รอบนี้ ‘ทักษิณ’ ดุขึ้นกว่าเดิม!

 

หมายเหตุ “สรกล อดุลยานนท์” เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ให้สัมภาษณ์รายการ “เอ็กซ์อ๊อก talk ทุกเรื่อง” ทางช่องยูทูบมติชนทีวี โดยวิเคราะห์ถึงบทบาททางการเมืองในยุคปัจจุบันของ “ทักษิณ ชินวัตร”

 

“ผมว่า (นี่) เป็นช่วงที่คุณทักษิณตกผลึกแล้วว่าจะเดินเกมอย่างไรต่อไปทางการเมือง

“ช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า หนึ่ง คุณทักษิณห่างจากประเทศไทยไป 17 ปี ดังนั้น เครือข่ายที่มีอยู่ 17 ปีนี่ คนที่รู้จักคุณทักษิณเป็นส่วนใหญ่เกษียณไปหมดแล้ว ฉะนั้น โครงข่ายเปลี่ยนไป ภูมิทัศน์การเมืองเปลี่ยนไป คุณทักษิณใช้เวลาช่วงหนึ่งในการเรียนรู้

“อันที่สอง อำนาจของคุณทักษิณไม่เหมือนเดิม คือวันที่คุณทักษิณเล่นการเมืองตอนสมัยพรรคไทยรักไทย อำนาจเต็มมือ เพราะชนะแบบแลนด์สไลด์ คือชนะแบบเบ็ดเสร็จ คุณทักษิณอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับความไม่เบ็ดเสร็จที่ต้องอยู่กับพรรคร่วม (รัฐบาล)

“ลูกน้องเก่าแม้จะเคยทำงานร่วมกัน แต่วันนี้เขาคือหัวหน้าพรรคการเมือง เขาคือคนที่มีเสียงต่อรองในสภาสูงมาก ทั้งในสภาล่างและสภาสูง ผมว่าตรงนี้ความคุ้นชินคุณทักษิณไม่ค่อยมีเท่าไหร่

“ที่สำคัญ คุณทักษิณไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว สมัยคุณเศรษฐา ทวีสิน เขาคงมีความเกรงใจระดับหนึ่งกับคุณเศรษฐา แล้วคุณเศรษฐาเองก็คงมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ในระดับหนึ่ง การที่จะมาคอนโทรลร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่

“แต่วันนี้ พอลูกสาวขึ้นเป็นนายกฯ ผมว่าลูกสาวกับพ่อไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ พ่อจะเทกแอ๊กชั่นเยอะ ลูกก็จะไม่ว่าอะไร หรือถ้าลูกจะดุให้พ่อหยุด พ่อก็จะหยุดประมาณนี้ มันเป็นความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง

“ผมนึกถึงพม่าที่มี ‘ออง ซาน ซูจี’ ซึ่งรับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ แต่ทุกคนก็รู้ว่าคนนี้กุมสภาพจริงๆ ไทยก็คล้ายๆ แบบนั้น

“พอคุณทักษิณเข้ามาในช่วงสามเดือนนี้ เลยคิดว่าพูดอะไรก็ง่ายขึ้น ไม่ต้องเกรงใจมากนัก เพราะเหมือนกับรู้กับลูกอยู่แล้ว ฉะนั้น คุณทักษิณเลยเทกแอ๊กชั่นเต็มที่ เมื่อเรียนรู้ประสบการณ์ในพรรคร่วมอะไรต่างๆ และภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป (เรียบร้อยแล้ว) คุณทักษิณก็เดินเกมเต็มที่”

“จริงๆ ที่เห็นจากคุณทักษิณ คือการเทกแอ๊กชั่นหลายๆ เรื่อง คำพูดกับการเทกแอ๊กชั่น (การกระทำ) ของคุณทักษิณไปในทางใกล้ๆ กัน ผมนึกถึงว่าคนที่มีอำนาจน้อยลง เขาสูญเสียไป 17 ปี ที่โดนออกไปอยู่นอกประเทศ กลับมาอีกครั้ง ผมว่าคุณทักษิณมีธงยึดอยู่อันหนึ่งก็คือว่าจะไม่ออกนอกประเทศอีกแล้ว จะต้องอยู่ในประเทศให้ได้

“ฉะนั้น พอมีธงมั่นตรงนี้ ขณะเดียวกัน อำนาจในการบริหารน้อยลง ผมว่าเขาก็เลย ‘ดุขึ้น’ คือคนมีอำนาจน้อยลง แต่จะสู้ มันก็ต้องดุขึ้นเป็นธรรมดา

“แล้วก็ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่คุณทักษิณเรียนรู้ สังเกตว่าการเดินเกมคราวนี้ ผมว่าคุณทักษิณดุกว่าครั้งที่เป็นนายกฯ ไทยรักไทย ตอนไทยรักไทยมีการใช้คำพูดใช้อะไร แต่การเดินต่างๆ เป็นการเดินบนดินค่อนข้างเยอะ แต่คราวนี้ เหมือนกับคุณทักษิณเดินเกมแทบทุกรูปแบบแล้ว ผมว่าตั้งแต่พูดที่หัวหินเป็นต้นไป เราจะเห็นสไตล์คุณทักษิณที่ชัดเจน

“สไตล์หนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้คือ คนเรามีความเคยชินหรือท่าไม้ต่ายบางอย่าง ท่าไม้ตายของคุณทักษิณที่ผมเห็นอยู่-เคยจับประเด็นมา มีสองอย่าง

“หนึ่ง ในเชิงอาชญาวิทยามันจะมี (วิธีการทำงาน) สองอย่าง คือ ‘ถุงมือกำมะหยี่’ กับ ‘กำปั้นเหล็ก’ เลือกใช้ถุงมือกำมะหยี่คือการเจรจาต่อรอง การคุยดีๆ กำปั้นเหล็กคือการทุบและใช้อำนาจ

“คุณทักษิณจะเริ่มต้นด้วยการเจรจาต่อรองก่อนเสมอ จะไม่เริ่มต้นด้วยกำปั้นเหล็ก แต่ถ้าเจรจาไม่รู้เรื่อง กำปั้นเหล็กจะตามมา คือพร้อมจะหัก พร้อมจะชน

“เรื่องที่สอง ท่าไม้ตายคุณทักษิณ ตั้งแต่ภาคธุรกิจจนมาถึงไทยรักไทย คือ ‘การควบรวมกิจการ’ วิธีการขยายกิจการรูปแบบหนึ่งคือการควบรวม

“ตอนสมัยไทยรักไทย คุณทักษิณดึงพรรคอื่นๆ เข้ามารวมให้ไทยรักไทย ทำให้การเลือกตั้ง 2548 (ชนะ) ถล่มทลาย เพราะรวบทั้งหมดเลย ใครที่เป็นพรรคเล็กๆ ทั้งหลาย คุณทักษิณดึงหมด เพื่อที่จะครองเสียงในสภามากที่สุด พอเสียงในสภาเยอะ การบริหารงานทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้น ไม่ต้องห่วงงานในสภามากนัก เพราะทุกอย่างมันโหวตง่าย”

 

“ตอนนี้เราจะเห็นหลายๆ อย่างเกิดขึ้น เช่น กรณีของพรรคพลังประชารัฐ คุณธรรมนัส (พรหมเผ่า) ก็แยกออกมา แล้วก็เล่นเกมบางเกมที่พูดถึงการบุกรุกป่า พูดถึงเรื่องหวานใจ คือไปเล่นประเด็นพวกนี้ นำไปสู่การที่พรรคพลังประชารัฐยอมที่จะมีมติขับ ส.ส.กลุ่มคุณธรรมนัสออก แล้วก็จะไปอยู่พรรคกล้าธรรม

“ในที่สุดจะเป็นแบบนี้ เขาได้ 20 เสียงมาพักอยู่ที่กล้าธรรม ซึ่งเราก็รู้ว่าคุณธรรมนัส-คุณทักษิณ สนิทกัน ฉะนั้น มันก็คือติ่ง-ขั้วหนึ่งที่รอควบรวม

“ขณะเดียวกัน วันที่เขาพูดเรื่องรัฐมนตรีที่ไม่ยอมประชุม ครม. ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงใคร บางคนบอกว่าหมายถึงภูมิใจไทยหรือเปล่า บางคนบอกหมายถึงรวมไทยสร้างชาติหรือเปล่า มีรองนายกฯ สองคน คือคุณอนุทิน (ชาญวีรกูล) และคุณพีระพันธุ์ (สาลีรัฐวิภาค) ไม่มา แล้วตอนนี้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติยังบอกไม่ได้เลยว่าคุณพีระพันธุ์ติดภารกิจอะไร

“ผมก็ไม่แน่ใจว่านี่คือเกมอะไรหรือเปล่า เพราะมีนักวิเคราะห์การเมืองพูดมาเยอะเลย ตอนนี้มันมีพรรคใหม่ขึ้นมาพรรคหนึ่ง ‘พรรคโอกาสใหม่’ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่า (เบื้องหลัง) นี่คือนายทุนปัจจุบันของพรรครวมไทยสร้างชาติ คนนี้ก็เป็นนายทุนของพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน ซึ่งสนิทกับคุณทักษิณ

“ทุกคนก็มองเกมออกว่านี่คือเปิดรอแล้ว ทุกคนก็มองว่ารวมไทยสร้างชาติแตกแน่ เพราะคุณพีระพันธุ์ไปหักบางเรื่องไว้

“วิธีการนี้คือจุดไฟเผาป่าไล่ แล้วทุกคนก็มาอยู่ในนี้ได้ มันคือโมเดลเดียวกับกล้าธรรมและคุณธรรมนัส ผมไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็คือเกมเดิม พอคุณมารวมกลุ่มนี้ สักวันหนึ่งก็ควบรวมกิจการเข้ามา พรรคเพื่อไทยใหญ่ขึ้นทันที หมายถึงอาจจะเป็นการเลือกตั้งครั้งต่อไป

“ถ้าสมมุติกลุ่มรวมไทยสร้างชาติมาอยู่ตรงนี้ คุณพีระพันธุ์มีเพาเวอร์สูงสุด ณ วันนี้ คือตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงาน ถ้าวันหนึ่งไม่มีตำแหน่ง เพาเวอร์ตรงนี้ก็จะหายไป ในขณะที่เพื่อไทยก็ได้สองเก้าอี้ (รัฐมนตรี) และเก้าอี้สำคัญคือพลังงานเข้ามา บริหารงานง่ายขึ้นเลยนะครับ”

 

“หรือบางคนบอกว่าเป็นพรรคภูมิใจไทยหรือเปล่า คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ที่สำคัญอันหนึ่งที่อุบลฯ ที่บอกว่า ‘หล่อให้ช้าหน่อย’ เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาทางภูมิใจไทย ‘ขี่’ เพื่อไทยค่อนข้างเยอะ หลายๆ เรื่องออกมาคัดค้านแบบ ถ้าพูดกันตามตรง ไม่ค่อยเกรงใจเท่าไหร่

“มีข่าวว่าคุณทักษิณก็เชิญคุณอนุทิน คุณเนวิน (ชิดชอบ) ไปคุย แล้วก็ไม่สะเด็ดน้ำสักที ทุกทีที่เห็น ตั้งแต่เรื่องกฎหมายประชามติ เราก็เห็นภาพท่าทีเหล่านี้เกิดขึ้น

“ฉะนั้น การที่เขาออกมาพูดว่า ‘หล่อให้ช้าหน่อย’ ครั้งที่หนึ่ง ครั้งนั้นคุณทักษิณชนตรงๆ เลยนะ แล้วก็มาที่หัวหินพูดซ้ำเรื่องนี้ขึ้นมา บอกว่าถ้าไม่พอใจก็ออก (จากรัฐบาล) ได้เลย อย่าลืมว่าไม้เด็ดของเขามีอยู่อันหนึ่ง คือ ยุบสภากับปรับ ครม. ซึ่งผมไม่รู้ว่าคุณทักษิณจะใช้กำปั้นเหล็กตรงนี้เมื่อไหร่

“แล้วถ้าดูยุทธศาสตร์ในการใช้ (กำปั้นเหล็ก) กับกรณีของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้เกิดมติขับคุณธรรมนัสออก คือเล่นทุกเรื่องนะ เล่นทั้งบนดินใต้ดินทุกอย่าง

“กรณีที่พูดถึงใครบางคนที่เมีย 3 ลูก 5 นี่ก็คือเรื่องหนึ่งที่ผมว่าคุณทักษิณตอนนี้ ‘ดุ’ ขึ้นกว่าเดิม”