คุยกับทูต | วิคเตอร์ เซเมนอฟ สงครามไม่ได้เป็นอุปสรรค สัมพันธ์ไทย-ยูเครน ยังคงแข็งแกร่ง (4)

หญิงสาวโบกธงชาติยูเครนในใจกลางเมือง Kherson ในช่วงไม่กี่วันแรกหลังการปลดปล่อยเมืองจากการโจมตี

คุยกับทูต |  วิคเตอร์ เซเมนอฟ

สงครามไม่ได้เป็นอุปสรรค

สัมพันธ์ไทย-ยูเครน ยังคงแข็งแกร่ง (4)

 

ก่อนการรุกรานยูเครนจะเริ่มขึ้น คุณคาดหรือไม่ว่ารัสเซียจะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและยังคงก่ออาชญากรรมสงครามอันน่าสะพรึงกลัวเช่นทุกวันนี้

“การรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เป็นการยกระดับความรุนแรงที่ทวีความร้ายแรงอย่างที่สุด แต่สงครามครั้งนี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงนั้น หากแต่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 เมื่อรัสเซียยึดครองสาธารณรัฐปกครองตนเอง Crimea และเมือง Sevastopol เป็นการชั่วคราว และเปิดฉากสงครามในภูมิภาค Donetsk และ Luhansk ของยูเครน แม้กระทั่งในตอนนั้น ก็ยังมีการกระทำอันโหดร้ายต่อพลเรือน เช่น การเปลี่ยนศูนย์ศิลปะให้กลายเป็นค่ายกักกัน (Izolyatsia)

สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมคือขนาด เมืองต่างๆ ถูกทำลายล้างจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธ การทิ้งระเบิด และการยิงปืนใหญ่แบบไม่เลือกหน้า ความโหดร้ายที่มุ่งเป้าไปที่อาคารส่วนตัวและเชิงพาณิชย์ โรงแรม โรงเรียน โบสถ์ โรงพยาบาล หอผู้ป่วยหลังคลอด และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ มากมาย การก่ออาชญากรรมสงครามดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับจักรวรรดินิยมรัสเซียแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเคยเห็นมาแล้วใน Chechnya และ Syria ซึ่งใช้กลวิธีในการก่อการร้ายที่คล้ายกัน

อุปทูตยูเครน วิคเตอร์ เซเมนอฟ (Mr. Viktor Semenov)

แม้ว่ายูเครนจะเตรียมรับมือกับการยกระดับความรุนแรง แต่ความโหดร้ายทารุณนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด เป็นการเตือนอย่างชัดเจนถึงความพยายามที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซีย จะทำตามเจตนารมณ์ของเขา

การต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของยูเครนมีความสำคัญ ไม่ใช่เพียงสำหรับเราเท่านั้น แต่สำหรับใครก็ตามที่เห็นคุณค่าในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์และเข้าใจว่าการยุยงส่งเสริมผู้รุกราน อาจนำไปสู่การทำลายล้างระเบียบโลกที่มีกฎเกณฑ์ตามกฎหมายระหว่างประเทศ”

นายวิคเตอร์ เซเมนอฟ (Mr. Viktor Semenov) อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตยูเครน ตอบคำถาม

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เยี่ยมชมกองกำลังที่สู้รบในแนวรบทางใต้

มีคำกล่าวว่า หากประธานาธิบดีปูตินเข้าใจว่ายุโรปอ่อนแอพอที่จะปล่อยให้ยูเครนพ่ายแพ้อีกครั้ง เขาจะเดินหน้าต่อไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป คุณมีความคิดเห็นอย่างไร

“คำกล่าวนี้ถูกต้องที่สุด – ยูเครนได้รับการเตือนมาหลายปีแล้วว่าการรุกรานของรัสเซียไม่ได้เกี่ยวแค่เราเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับระบบกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่ โดยมีพื้นฐานมาจากกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเอกสารที่สมาชิกสหประชาชาติทุกคนยอมรับ และได้กำหนดหลักการพื้นฐานประการหนึ่งอย่างชัดเจนว่า

บูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐต่างๆ อยู่ภายในพรมแดนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

สงครามรุกรานของรัสเซียต่อยูเครนไม่ได้เกี่ยวกับยูเครนเพียงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีอยู่ต่อประเทศ และภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย ละตินอเมริกา และอื่นๆ

ถ้าไม่หยุดผู้รุกรานในตอนนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะไปไกลกว่านั้น

บางคนอ้างว่าประธานาธิบดีปูตินรุกรานเพราะยูเครนมีความทะเยอทะยานใน NATO ซึ่งหมายความว่า สงครามจะหยุดลงที่ตรงนี้ แต่หลังจากยึดครองสาธารณรัฐปกครองตนเอง Crimea และเมือง Sevastopol ชั่วคราวในปี 2014 เขาก็ระดมกำลังทหารและเดินหน้าต่อไป โดยซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังภัยคุกคามในตำนานที่ไม่มีอยู่จริง ลองมาดูกันว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน

อนุสรณ์สถานครบรอบ 10 ปีของกองพันอาซอฟ (The Azov Regiment) เมื่อ 5 พฤษภาคม 2567 ในเมือง Zaporizhzhia – ภาพโดย Elena Tita

ปูตินไม่ได้ปฏิบัติการด้วยวิธีการวิเคราะห์ธุรกรรมแบบมีเหตุผล วิสัยทัศน์ทางประวัติศาสตร์อันบิดเบือนของเขานำไปสู่ความเชื่อที่ว่า รัสเซียมีสิทธิได้รับ ‘ขอบเขตแห่งอิทธิพล’ นี่ไม่ใช่เรื่องของ NATO แต่เกี่ยวกับการครอบงำ โทรทัศน์ของรัฐรัสเซียขู่ตอบโต้ยุโรปและโลกอย่างเปิดเผยว่าด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ ถกกันถึงการเข้ายึดครองกลุ่มรัฐบอลติก (Baltic states) โดยใช้กลวิธีแบบ Crimea อันเป็นภัยคุกคามที่ชัดเจนต่อยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย

รัสเซียถือว่าตนเองกำลังทำสงครามกับยุโรปอยู่แล้ว การกระทำดังกล่าวขยายออกไปนอกสนามรบ เช่น ทำลายโครงสร้างพื้นฐาน เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาล และใช้ราคาพลังงานเป็นอาวุธเพื่อสร้างความแตกแยกและความยากลำบาก

นี่คือสงครามหนึ่งเดียว และเราทุกคนต่างก็อยู่ในนั้น การสนับสนุนยูเครนไม่ได้หมายความถึงการปกป้องประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาอนาคตของยุโรปและต่อต้านการกดขี่อีกด้วย ความสามัคคีและการต่อต้านเป็นหนทางเดียวที่จะขัดขวางการรุกรานเพิ่มเติมและปกป้องค่านิยมประชาธิปไตยที่ผูกพันเราทุกคนไว้ด้วยกัน”

มหาวิหาร Transfiguration ใน Odesa ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซีย
อาคารที่พักอาศัยที่ได้รับความเสียหายในเมือง Irpin ภูมิภาค Kyiv เมื่อ 4 สิงหาคม 2565 – ภาพโดย Elena Tit

แนวรบทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครนดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ทั้งยูเครนและรัสเซียไม่ได้ก้าวหน้าไปมาก แนวรบก็ไม่เปลี่ยนแปลง คุณคิดว่ายูเครนจะก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่ หรือคุณอาจเชื่อว่าแนวรบจะคงอยู่แบบนี้ไปอีกนาน

“แม้ว่าแนวรบทางตะวันออกและทางใต้ดูเหมือนจะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ แต่สงครามไม่เคยหยุดนิ่ง ยูเครนไม่ย่อท้อต่อเป้าหมายในการปลดปล่อยดินแดนที่ถูกยึดครองทั้งหมด หากแต่การบรรลุเป้าหมายนี้ต้องใช้ทั้งความอดทน ตลอดจนกลยุทธ์ และความยืดหยุ่น ดังที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskyy) กล่าวเมื่อไม่นานนี้ เราต้องก้าวไปสู่จุดยืนที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะในสนามรบหรือที่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติสงครามนี้อย่างยุติธรรม

ยูเครนปรับตัวอยู่ตลอดเวลาโดยการระดมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของเราเพื่อผลิตอาวุธใหม่ๆ และคิดค้นเทคโนโลยีสนามรบใหม่ๆ เพื่อรักษาโมเมนตัมเอาไว้ ในขณะเดียวกัน เรายังต้องเผชิญหน้ากับรัสเซียที่กำลังสูญเสียผู้คนไปนับไม่ถ้วนและใช้อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยโซเวียตจนหมดสิ้น ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะบุกเข้าไปในภูมิภาค Donetsk และ Luhansk ของยูเครน รวมถึงบริเวณใกล้ Kursk

รัสเซียได้ยกระดับความรุนแรงขึ้นด้วยการใช้กองกำลังเกาหลีเหนือ ขีปนาวุธและโดรนอิหร่าน ในการใช้พลังของระบอบเผด็จการร่วมกันตอบโต้ยูเครน-ประเทศเอกราช

เราปรารถนาได้รับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นจากพันธมิตรระหว่างประเทศของเราเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว เพราะรัสเซียเข้าใจแต่การใช้กำลังดังเช่นผู้ใช้กำลังข่มเหงรังแกคนอื่นๆ

ด้วยความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งอาวุธที่ทันสมัย การฝึกอบรม การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจและมนุษยธรรม จะทำให้เราสามารถดำเนินการปกป้องเพื่อให้แน่ใจในการฟื้นฟูสันติภาพที่ยุติธรรมได้”

โรงพยาบาลเด็ก Ohmatdyt ที่ใหญ่ที่สุดในกรุง Kyiv ยูเครน ถูกรัสเซียโจมตีอย่างโหดร้าย เมื่อ 8 กรกฎาคม 2567

รัฐบาลยูเครนรักษาขวัญกำลังใจของประชาชนชาวยูเครนให้อยู่ในระดับสูงเพียงใด

“รัฐทำทุกวิถีทางในการเดินหน้าเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เรามุ่งมั่นที่จะเข้าถึงประชาชนทุกคนโดยตรง ให้ความช่วยเหลือทั้งทางการเงินและการเข้าถึงบริการสาธารณะที่จำเป็น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนหรือเผชิญกับความท้าทายใดๆ ก็ตาม อุตสาหกรรมไอทีของเราเองก็ได้ก้าวขึ้นมาในโอกาสนี้ด้วยการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

หัวใจสำคัญของความพยายามเหล่านี้คือ Diia app ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มปฏิวัติวงการที่นำบริการของรัฐบาลมาสู่ประชาชนโดยตรง ทำให้ประชาชนชาวยูเครนสามารถเข้าถึงบริการรัฐในรูปแบบดิจิทัล ตั้งแต่ความช่วยเหลือทางการเงิน ไปจนถึงการเข้าถึงเอกสารและบริการสาธารณะ

Diia ได้กลายมาเป็นเส้นเลือดใหญ่ของผู้คนนับล้าน ไม่ใช่แค่เครื่องมือเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ในการบริหารจัดการแบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถบรรลุได้ในสภาวะวิกฤต

เรามีความภาคภูมิใจในความก้าวหน้าของเรา และพร้อมที่จะแบ่งปันบทเรียนที่เราได้เรียนรู้และเทคโนโลยีที่เราพัฒนาให้กับประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศไทย

การเปิดตัวแอพพ์ Diia – การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลกลายเป็นหัวข้อหลักของยูเครนและเป็นประเด็น

สำหรับการทหารในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล รัฐบาลกำลังปฏิรูปกระบวนการรับสมัครโดยทำให้เป็นดิจิทัลและคล่องตัวมากขึ้น ปัจจุบัน ทหารสามารถเลือกเข้าร่วมหน่วยที่ต้องการได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นแรงจูงใจและรู้ถึงจุดมุ่งหมายของตัวเอง

ยูเครนมุ่งสู่อนาคตโดยทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับการฟื้นฟู ซึ่งไม่ใช่เรื่องการเอาชีวิตรอดในสงครามเท่านั้น แต่เป็นการแสดงให้ผู้คนเห็นว่า มีอนาคตที่คุ้มค่าในการต่อสู้ ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนอย่างเหลือเชื่อจากพันธมิตร ซึ่งรวมถึงทางการเงิน ตัวอย่าง เมื่อไม่นานนี้ สหรัฐได้มอบเงินสนับสนุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์จากกองทุนที่มาจากการยึดทรัพย์สินของรัสเซีย”

(บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐเบิกจ่ายเงินกู้สนับสนุนยูเครน 20,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 6.76 แสนล้านบาท) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ซึ่งฝ่ายยูเครนจะนำกำไรจากสินทรัพย์ที่อายัดจากธนาคารกลางรัสเซียมาชำระคืนเงินกู้ดังกล่าว โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่ถูกอายัดอยู่ในยุโรป)

“ภาวะผู้นำนั้นมีความสำคัญ ประธานาธิบดี Zelenskyy ได้ออกพบปะกับเหล่าทหาร พลเรือน และเจ้าหน้าที่ทุกวัน เพื่อส่งข้อความอันทรงพลังเกี่ยวกับความสามัคคี การยืดหยุ่นและประนีประนอม โดยเฉพาะบทบาทที่สำคัญยิ่งของรัฐบาลท้องถิ่นที่ เราขอบคุณการปฏิรูปประเทศในการกระจายอำนาจ ที่ช่วยให้ชุมชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

นับเป็นความพยายามร่วมกันที่ผสมผสานเทคโนโลยี การปฏิรูป และจิตวิญญาณอันเหลือเชื่อของชาวยูเครน ในการคงความเข้มแข็งและความสามัคคีอย่างเหนียวแน่น” •

สุสานทหาร Lychakiv ในเมือง Lviv – ภาพโดย Roman Baluk

 

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin