พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ | 5 เรื่องที่น่าจับตามองในปี 2025 : ปีแห่งหมุดหมายสำคัญของมนุษยชาติ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เมื่อปี 2024 เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด นี่คือบทความสุดท้ายของผมสำหรับปี 2024

เป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะหยุดพักสายตาและมองไปข้างหน้าสู่สิ่งที่รออยู่ หมุดหมายสำคัญต่างๆ ที่เราคาดหวังในปี 2025

จะเป็นทั้งการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ ความสำเร็จที่รอคอยมานาน

และจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับอนาคตของโลกเรา

1. มนุษย์จะกลับไป
เหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกในรอบ 50 ปี

ภารกิจ Artemis III ของ NASA จะพามนุษย์กลับไปเหยียบดวงจันทร์ หลังจากการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ในยุค Apollo เมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว

ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการกลับไปเหยียบพื้นผิว

แต่ยังปูทางสู่การสร้างอนาคตที่มนุษย์อาจอยู่อาศัยบนดวงจันทร์ได้จริงๆ

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ภารกิจนี้จะบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการส่ง ผู้หญิงคนแรก และบุคคลผิวสีคนแรก ขึ้นสู่พื้นผิวดวงจันทร์

เป็นหลักฐานแห่งความก้าวหน้าที่สะท้อนว่า การเดินทางครั้งนี้คือการก้าวไปข้างหน้าของมนุษยชาติทั้งหมด

 

2. ขนาดเศรษฐกิจอินเดีย
จะขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลก แทนที่ญี่ปุ่นในที่สุด

ปี 2025 จะเป็นปีที่อินเดียแซงหน้าญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ กลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก ด้วยกำลังขับเคลื่อนจากประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน

การเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การผลิต และการบริโภคที่แข็งแกร่ง

ซึ่งจะเปลี่ยนสมดุลเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน

สำหรับประเทศไทย อินเดียที่กำลังก้าวขึ้นมาจะเป็นทั้งโอกาสและพันธมิตรที่น่าจับตามอง ความร่วมมือในด้านการค้า การท่องเที่ยว และเทคโนโลยีอาจเติบโตอย่างรวดเร็ว

ทำให้ทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

 

3. โลกเผชิญการประเมินวิกฤตภูมิอากาศ
ที่เข้มข้นที่สุด

ปี 2025 จะเห็นการทบทวน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของ UN และรายงานจาก IPCC เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเผยให้เห็นถึงความก้าวหน้า (หรือการถดถอย) ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ครบรอบ 10 ปีของการริเริ่ม SDG 17 ข้อตั้งแต่ปี 2015 ปีหน้าจะเป็นปีที่นานาชาติต้องทบทวนความคืบหน้าของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สหประชาชาติริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นภายในปี 2030

แม้ภาพรวมอาจไม่สดใสนัก แต่เราก็เห็นแสงสว่างจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการใช้พลังงานหมุนเวียนที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สำหรับประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและสภาพอากาศแปรปรวน

การวางตำแหน่งตนเองเป็นผู้นำในพลังงานหมุนเวียนและเกษตรกรรมที่ยั่งยืน จะกลายเป็นทางรอดและโอกาสใหม่ในอนาคต

 

4. เครื่องบิน Net-Zero ลำแรกของโลก
เตรียมทะยานขึ้นฟ้า

ในปี 2025 เราอาจได้เห็นเครื่องบินพาณิชย์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ลำแรกของโลกทะยานขึ้นฟ้า

พลังงานจากไฮโดรเจน หรือไฟฟ้า จะพลิกโฉมการบินแบบเดิมๆ

และเปิดศักราชใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการเดินทางที่ยั่งยืน

การพัฒนาครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย ซึ่งพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก

เครื่องบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะช่วยลดผลกระทบจากการเดินทางทางอากาศ

ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่เติบโตอย่างยั่งยืน

 

 

5. ประชากรโลกจะถึง 9 พันล้านคน
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ปี 2025 จะเป็นครั้งแรกที่จำนวนประชากรโลกแตะ 9 พันล้านคน เป็นหมุดหมายที่แสดงถึงการเติบโตและการขยายตัวของมนุษยชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความท้าทายสำคัญ : เราจะจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอสำหรับทุกชีวิตบนโลกได้อย่างไร?

สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตอาหารและสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก การเติบโตของประชากรนี้เป็นทั้งโอกาสในการขยายตลาดอาหารโลก

และความท้าทายในการรักษาความยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน

 

มาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าโลกเราที่เต็มไปด้วยความน่าทึ่ง

เมื่อเราปิดฉากปี 2024 และมองไปสู่ปี 2025 ข้างหน้า สิ่งที่รออยู่คือปีแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การกลับไปเหยียบดวงจันทร์ เครื่องบินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการจัดการโลกที่มี 9 พันล้านคน ล้วนเป็นเครื่องเตือนใจว่าโลกของเราเต็มไปด้วยความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด

โลกนี้อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่กลับเต็มไปด้วยความน่าทึ่งเสมอ สิ่งที่เรากำลังเป็นพยานอยู่คือการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ และเราคือส่วนหนึ่งของเรื่องราวนี้

สวัสดีปี 2025 ปีแห่งความก้าวหน้า ความหวัง และการค้นพบอะไรใหม่ๆ ต่อไปนะครับ

สำหรับปีนี้ ขอลาไปก่อนครับ