ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | My Country Thailand |
ผู้เขียน | ณัฐพล ใจจริง |
เผยแพร่ |
ภายหลังการปฏิวัติ 2475 แล้ว คณะราษฎรต้องการสร้างชาติขึ้นใหม่โดยยึดแบบอย่างการสร้างชาติแบบญี่ปุ่นในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสุขภาพอนามัย (ณัฐพล ใจจริง, 2563, 246)
และเมื่อจอมพล ป.ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เขาเห็นว่า เมื่อเกิดการปฏิวัติแล้ว สมควรมีการปรับปรุงชาติขึ้นใหม่ด้วย แม้ชาติจะมีมานานแล้วก็ตาม แต่สภาวะของชาติบางประการยังไม่อยู่ในระดับความเป็นประชาชาติได้
ดังนั้น รัฐบาลจึงต้อง “สร้างชาติ” ให้ดีขึ้นกว่าเดิมในด้านต่างๆ (กรมโฆษณาการ, 2485, 38)
ดังนั้น ข้าราชการจึงเป็นกลไกรัฐที่รัฐบาลแห่งระบอบประชาธิปไตยต้องการปรับปรุง ด้วยการพยายามสร้างข้าราชการพันธุ์ใหม่ให้แต่งกายภูมิฐานน่าเชื่อถือ มีสำนึกใหม่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันขันแข็ง ทำงานหน้าที่ และให้ความช่วยเหลือแนะนำประชาชน พร้อมมีสุขภาพแข็งแรงด้วย
ไม่นานหลังจากที่จอมพล ป.ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำไทย สงครามมหาเอเชียบูรพาได้ระเบิดขึ้น ข้าราชการมหาดไทยคนหนึ่งบันทึกว่า ช่วงเวลาที่สงครามความทวีรุนแรงยิ่งขึ้น รัฐบาลดำเนินมาตรการปลุกใจคนไทยให้รักชาติ และปลอบขวัญจิตใจประชาชนให้มั่นคง โดยรัฐบาลเตรียมความพร้อมให้ร่างกายข้าราชการให้มีสมรรถนะ มีระเบียบวินัย มีความแข็งแรงอดทน
รัฐบาลจึงกำหนดให้ข้าราชการทุกคนฝึกวิชาทหารในทุกวันพุธ โดยการฝึกระเบียบแถว การเดินทางไกล และการวิ่ง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ข้าราชการในยามสงคราม (จำนง เทพหัสดิน, 16)
ในครั้งนั้น รัฐบาลพยายามส่งเสริมสุขภาพอนามัยและสร้างความบันเทิงให้กับข้าราชการด้วย การจัดเดินทางไกล การแข่งขันกีฬา และการเล่นรำโทนขึ้น
การส่งเสริมสุขภาพพลานามัย
เดินทางไกล
โครงการสร้างข้าราชการพันธุ์ใหม่ รัฐบาลต้องการส่งเสริมให้ข้าราชการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ ดังเมื่อ 14 มีนาคม 2485 รัฐบาลจัดเดินทางไกลขึ้นมีข้าราชการจาก 3 กระทรวง ได้แก่ คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วม 800 คน
ทั้งหมดเดินทางไกลจากกรุงเทพฯ ไปนนทบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมทางกาย ระเบียบวินัย การจัดการชีวิตประจำวันให้กับข้าราชการมีความกระตือรือร้น เพราะประเทศกำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม (ก้องสกล, 98)
ครั้นหัวหน้าคณะทูตญี่ปุ่นที่มาเยือนไทยในกลางปี 2485 ได้กล่าวถึงโครงการส่งเสริมสุขภาพของไทยว่า สุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งกำหนดความเจริญของชาติ การช่วยชาติคือ คนไทยรักษาสุขภาพให้ดีเหมือนกับคนในญี่ปุ่นที่มีความแข็งแรงและอายุยืนยาว (ก้องสกล, 103-104; นิกร, 17 มีนาคม 2485)
นอกจากนี้ สมัยช่วงระหว่างสงคราม รัฐบาลยังส่งเสริมให้ออกกำลังกายให้กับข้าราชการ ด้วยโครงการเดินทางไกล เมื่อ 14 มีนาคม 2485 โดยมีข้าราชการเข้าร่วมถึง 800 คนจากหลากหลายกระทรวง เส้นทางเดินทางไกลนั้นเริ่มจากกรุงเทพฯ ไปนนทบุรี (นิกร,17 มีนาคม 2485) ทั้งนี้ การเดินทางไกลไปตามสถานที่ต่างๆ นั้น รัฐบาลกำหนดให้มีกิจกรรมในทุกวันเสาร์ และมีการจัดแข่งกีฬาระหว่างหน่วยราชการต่างๆ อีกด้วย (ลาวัลย์, 2536)
ต่อมาเมื่อ 28 มีนาคม 2485 หลวงวิจิตรฯ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมศิลปากร ที่ปรึกษากรมโฆษณาการ ได้แต่งเพลงชื่อ “เดินทางไกล” ขึ้น และใช้ร้องครั้งแรกในคราวข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเดินทางไกล ดังมีเนื้อร้องว่า
“หน้าเดินไทย จงเดินพร้อมกัน เราหน้าเดิน เราจงพร้อมใจ เราเดินทางไกลนี้ จะนำชาติไป เมื่อยล้าก็อย่าท้อใจ เพื่อชาติเรารุ่งเรืองและสุกใส เดินพวกเราจงเดินนำชาติ ไทยเราให้เจริญ อย่ากลัวเหนื่อยล้า จงกล้าเผชิญโชคภัย เพื่อนำชาติขึ้นสู่ความสำคัญ เราจงพร้อมใจกันเดินทางไกล”
ไม่แต่เพียงข้าราชการต้องฝึกเดินทางไกลเท่านั้น แต่ภรรยาข้าราชการต้องเข้าอบรมที่ทำเนียบสามัคคีชัยและเข้าร่วมการเดินทางไกลด้วย โดยภรรยาจะแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีกากีเหมือนข้าราชการ พร้อมแบกเครื่องหลังในระหว่างเดินทางไกลไปตามแถบจังหวัดรอบนอกพระนคร เช่น นนทบุรีด้วย (หลวงยุกตเสวีวิวัฒน์, 2537, 73)
ส่งเสริมให้เล่นกีฬาวันพุธ
ในสมุดสั่งการของจอมพล ป. ระบุว่า เมื่อ 13 ธันวาคม 2486 เขาสั่งการไปยังกรรมการอบรมกีฬาว่า นายกฯ ต้องการให้ทุกบ่ายวันพุธเป็นวันหยุดราชการ และมีดำริให้ข้าราชการและประชาชนเล่นกีฬากันให้สุขภาพแข็งแรง (อนันต์ พิบูลสงคราม, เล่ม 1, 2540, 313) ต่อมาในปลายเดือนพฤษภาคม 2487 เขาสั่งการให้ข้าราชการทุกหน่วยเล่นกีฬาและการละครพื้นเมืองตามแบบการส่งเสริมวัฒนธรรมเพื่อปลูกฝังให้มีวีรธรรม สามัคคีและมีระเบียบวินัยในทุกวันพุธ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีอารยของมนุษย์ที่มีชาติอันเหนือกว่าสัตว์ (อนันต์ พิบูลสงคราม, เล่ม 1, 2540, 253-254)
ไม่แต่เพียงเท่านั้น รัฐบาลจอมพล ป.ส่งเสริมอนามัยของข้าราชการ ด้วยการส่งหน่วยสาธารณสุขให้คำแนะนำความสะอาด การปฏิบัติให้ถูกสุขลักษณะอนามัย บริการตรวจสุขภาพให้ข้าราชการ และกำหนดให้ทุกวันพุธเวลา 16.00-17.00น.เป็นเวลาฝึกระเบียบแถว (สุวิมล, 128)
นอกจากนี้ รัฐบาลยังส่งเสริมกายบริหารผ่านทางสถานีวิทยุเพื่อแนะนำท่าออกกำลังกายให้กับประชาชนทั่วไป จัดทำคู่มือกายบริหาร การจัดแสดงสาธิตกายบริหารในงานสำคัญต่างๆให้ประชาชนชม อาทิ งานวันแม่ งานวันชาติ ตลาดนัด และการชุมนุมต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนสนใจแกกำลังกาย
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงสงคราม รัฐบาลมีคำสั่งให้ข้าราชการหยุดงานเพื่อ “เล่นกีฬาทุกวันพุธ” โดยกำหนดไว้ 3 ประเภท ก็คือ กีฬาประเภทรวมหมู่ เช่น การหัดท่ามือเปล่า ระเบียบแถว การดัดตนท่ามือเปล่า และกรีฑา ส่วนกีฬาประเภทบุคคล เช่น มวย ฟันดาบ กระบี่กระบอง และกีฬาประเภทชุด เช่น ฟุตบอล เทนนิส (ก้องสกล,106-107) กีฬาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพและพร้อมที่จะสร้างชาติ
จากความทรงจำของลาวัณย์ โชตามระเล่าถึงกิจกรรมเดินทางไกลของข้าราชการครั้งนั้นไว้ว่า “ในสมัยนั้น ได้ให้มีการเดินทางไกล ไปโน่นไปนี่อยู่ทุกวันเสาร์และได้มีการแข่งกีฬาในหน่วยราชการหน่วยต่างๆ” อีกด้วย (ลาวัณย์, 2536)
ในช่วงสงคราม รัฐบาลจัดให้มีวิทยุกระจายเสียงฝึกกายบริหารไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ (สุวิมล, 128) ไม่แต่เพียงการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยึดแนวทางการส่งเสริมการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าเท่านั้น แต่กรมโฆษณาการและกรมพลศึกษายังดำเนินแนวทางการส่งเสริมสุขภาพพลานามัยด้วยการออกกายบริหารตอนเช้าตามแบบญี่ปุ่น ด้วยการจัดโครงการออกกายบริหารพร้อมกันผ่านวิทยุกระจายเสียงเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงตามนโยบายสร้างชาติ
จากความทรงจำของนิสิตจุฬาฯ คนหนึ่งบันทึกว่า ราชการส่วนกลางกำหนดให้ข้าการมีกิจกรรมรำวงทุกบ่ายวันเสาร์ ซึ่งเดิมเป็นวันกีฬา และให้ย้ายวันเล่นกีฬาไปยังบ่ายวันพุธแทน บางครั้งมีการแข่งขันกีฬาระหว่างหน่วยงานด้วยข้าราชการที่ไม่ได้ลงเล่นให้เป็นกองเชียร์ พุธใดไม่มีการแข่งขันกีฬาให้เดินทางไกล (สรศัลย์, 147)
นอกจากนี้ รัฐบาลจัดแข่งขันกีฬาระหว่างกระทรวงทุกวันที่ 1 เมษายน อันเป็นวันข้าราชการ การแข่งขันปีแรก (2485) มีกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพและหมุนเวียนไปทุกกระทรวง (สุวิมล, 128)
การเดินทางไกลและการเล่นกีฬาวันพุธดูเหมือนจะสิ้นสุดลงพร้อมกับการลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพล ป.ในช่วงปลายปี 2487
แต่ดูเหมือนว่า การเล่นกีฬาทุกวันพุธของข้าราชการถูกฟื้นขึ้นมาในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกครั้งเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2559 รัฐบาลสั่งการให้ข้าราชการทุกคนเล่นกีฬา โดยที่ทำเนียบรัฐบาลและส่วนราชการต่างๆ ในทุกวันพุธตั้งแต่เวลา 15.00-16.30 น. ให้เป็นช่วงออกกำลังกายของข้าราชการ
โดยนายกรัฐมนตรีได้เล่นกีฬากับข้าราชการที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022