ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | คุยกับทูต |
เผยแพร่ |
คุยกับทูต | วิคเตอร์ เซเมนอฟ
สงครามไม่ได้เป็นอุปสรรค
สัมพันธ์ไทย-ยูเครน ยังคงแข็งแกร่ง (3)
การพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหาทางการทูตมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางปฏิบัติ ยูเครนยังคงติดอยู่ในสงครามที่การทูตเพียงอย่างเดียวไม่สามารถยุติได้ มีความคิดเห็นอย่างไร
“ยูเครนไม่เคยตัดความเป็นไปได้ในการเจรจาซึ่งจะเป็นหนทางไปสู่การยุติการรุกรานของรัสเซีย นับตั้งแต่วันแรก เราได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการทูตยังคงเป็นทางเลือกหนึ่ง”
นายวิคเตอร์ เซเมนอฟ (Mr. Viktor Semenov) อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตยูเครนคนใหม่ของสถานทูตกล่าว
“ในความร่วมมือกับสวิตเซอร์แลนด์ ปีนี้ เราได้จัดการประชุมสุดยอดสันติภาพโลกครั้งแรกที่เมืองเบอร์เกนสต็อก (Bürgenstock) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของเราในการเจรจาและฟื้นฟูสันติภาพ หลังจากที่รัสเซียรุกรานมานานกว่าสิบปี เพราะยูเครนต้องการสันติภาพอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้”
“อย่างไรก็ตาม จุดยืนของเรายังคงมั่นคงเสมอมา นั่นคือ สันติภาพต้องยุติธรรม สันติภาพต้องอยู่บนพื้นฐานของการเคารพบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎบัตรสหประชาชาติ”
“ผมมั่นใจว่าเราไม่สามารถยอมให้รัฐใดรัฐหนึ่งเอาอกเอาใจระเบียบโลกอย่างไม่ละอายบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นอำนาจของระบอบเผด็จการอื่นๆ ในการยืนยันผลประโยชน์ของตนด้วยกำลัง”
“สันติภาพที่ไม่ยุติธรรมไม่เพียงแต่จะล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเท่านั้น แต่ยังจะนำไปสู่สงครามอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อให้เกิดความวุ่นวายที่แผ่ขยายไปทั่วโลก และทำให้ภูมิภาคที่อยู่ห่างไกลจากจุดวิกฤตในปัจจุบันไม่มั่นคง”

“เราได้เห็นแล้วว่ารัสเซียเต็มใจที่จะยกระดับสงครามนี้มากขึ้นเพียงใด การใช้โดรนของอิหร่าน การมีส่วนร่วมของกองทหารเกาหลีเหนือ และการปลุกปั่นให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ เช่น การยิงขีปนาวุธพิสัยปานกลาง (IRBM) แสดงให้เห็นว่ารัสเซียไม่คำนึงถึงบรรทัดฐานและเสถียรภาพระดับโลก”
“การกระทำเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าการแก้ปัญหาอย่างเร่งรีบหรือไม่ยุติธรรมจะยิ่งทำให้มีพฤติกรรมดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อระเบียบระหว่างประเทศที่อิงกับกฎเกณฑ์”
“สันติภาพเป็นเป้าหมายสูงสุดของเราเสมอมา แต่จะต้องเป็นไปอย่างครอบคลุม ยุติธรรม และยั่งยืน สูตรสันติภาพซึ่งราชอาณาจักรไทยมีส่วนร่วม เช่นเดียวกับแผนชัยชนะ เป็นพื้นฐานของเส้นทางการทูตเพื่อฟื้นฟูสันติภาพดังกล่าว”
“ผมเชื่อมั่นว่าสันติภาพที่ยุติธรรมตามกฎบัตรสหประชาชาติจะประสบความสำเร็จ แต่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เคารพบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศจะต้องเพิ่มแรงกดดันต่อสหพันธรัฐรัสเซียเพื่อจำกัดความสามารถในการทำสงครามรุกรานกับประเทศยูเครน”
“เรายินดีต้อนรับข้อเสนอที่มุ่งหวังในการฟื้นฟูสันติภาพที่ยุติธรรมสำหรับยูเครน แต่เราดำเนินการจากจุดยืนที่ว่าข้อเสนอดังกล่าวจะต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลัก 2 ประการ”
“ประการแรก ไม่ควรมีการหารือเกี่ยวกับยูเครนโดยที่ยูเครนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
“ประการที่สอง การผลักดันควรยึดตามกฎบัตรสหประชาชาติ และเคารพอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพของเขตแดนยูเครนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ”
“เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศพันธมิตรของเราเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ยึดมั่นในหลักการเหล่านี้ ในความพยายามนี้ เราได้รับแรงบันดาลใจจากจุดยืนที่มั่นคงของประเทศต่างๆ เช่น ประเทศไทย ซึ่งสนับสนุนอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนมาโดยตลอด เราหวังว่าไทยจะยังคงมีส่วนสนับสนุนความพยายามเหล่านี้ต่อไป เนื่องจากเสียงของไทยมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการแก้ปัญหาสงครามนี้อย่างยุติธรรมและยั่งยืน”
“นอกจากนี้ ผมขอแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ทราบด้วยว่า นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา มีการเจรจากับรัสเซียมากกว่า 200 รอบ รวมถึงการเจรจาในรูปแบบนอร์มังดี (Normandy Format) ด้วย มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงมากกว่า 10 ครั้ง แต่การเจรจาดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดการรุกรานทางทหารเต็มรูปแบบ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022”
“เราปฏิเสธข้อเสนอใดๆ สำหรับข้อตกลงดินแดนเพื่อสันติภาพ แนวคิดดังกล่าวจะส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนยังคงอยู่ในมือของผู้รุกราน และจะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทรมาน และละเมิด”
“การตอบแทนการรุกรานของรัสเซียด้วยการได้ดินแดนคืนมาจะไม่ทำให้เกิดสันติภาพ แต่จะกระตุ้นให้เกิดการรุกรานเพิ่มเติม”

เราควรหวั่นกลัวสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ เมื่อยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากพันธมิตร
“แนวคิดเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 เป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่เราต้องตอบคำถามนี้ด้วยความชัดเจนและข้อเท็จจริง การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากพันธมิตรไม่ใช่การกระทำที่รุกราน แต่เป็นการตอบสนองอย่างมีสติเพื่อปกป้องอธิปไตยและปกป้องประชาชนของตน”
“ขีปนาวุธเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารที่ใช้ในการก่อสงครามรุกรานยูเครน ไม่ใช่ประชากรพลเรือนหรือทรัพย์สินที่ไม่ใช่ทางทหาร”
“การกล่าวหายูเครนหรือพันธมิตรว่ากระทำการโดยไม่เหมาะสมซึ่งกระตุ้นให้ผู้ก่ออาชญากรรมกระทำนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ ผมอยากจะเน้นย้ำว่าประเทศของผมปกป้องตัวเองจากการรุกรานตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และมีสิทธิ์เต็มที่ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎหมายในดินแดนของรัสเซียภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ หากต้องการให้การโจมตีเหล่านี้ยุติลง รัสเซียเพียงแค่ต้องหยุดการรุกรานและถอนทหารออกจากดินแดนอธิปไตยของยูเครน”
“สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ สงครามครั้งนี้ไม่ได้เริ่มต้นจากยูเครน แต่เริ่มต้นจากการรุกรานของรัสเซียโดยปราศจากการยั่วยุและความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะบ่อนทำลายหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศและระเบียบระหว่างประเทศตามกฎเกณฑ์ การกระทำของยูเครนเป็นเรื่องของการเอาตัวรอด ไม่ใช่การยกระดับความรุนแรง”
“อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เราต้องการที่จะฟื้นฟูสันติภาพที่ยุติธรรมตามกฎบัตรสหประชาชาติ สำหรับส่วนของรัสเซียนั้นไม่แสดงสัญญาณใดๆ ว่าเต็มใจที่จะละทิ้งการรุกรานประเทศของเรา รัสเซียโจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธพิสัยไกล ระเบิดนำวิถี และโดรนทุกวัน การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของรัสเซียส่งผลให้อาคารส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ โรงแรม โรงเรียน โบสถ์ โรงพยาบาล โรงพยาบาลสูตินรีเวช และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ถูกทำลาย”

“รัสเซียจงใจยิงขีปนาวุธเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดยเฉพาะระบบพลังงาน ใช้อาวุธเคมี ก่ออาชญากรรมในดินแดนที่ถูกยึดครองชั่วคราว ขู่กรรโชกทั้งโลกด้วยความเป็นไปได้ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ และขู่ว่าจะเกิดภัยพิบัติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งก็คือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริซเซีย (Zaporizhzhia) ซึ่งรัสเซียยึดครองและควบคุมชั่วคราวตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022”
“ชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร มุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น การสนับสนุนยูเครนมีพื้นฐานอยู่บนหลักการของการป้องกันและสันติภาพ ไม่ใช่การยั่วยุหรือการขยายตัว การใช้อาวุธขั้นสูงของยูเครนมีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางการรุกราน ลดศักยภาพของผู้รุกรานในการทำสงครามต่อไป และปูทางไปสู่สันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน”
“ความกลัวต่อการยกระดับความรุนแรงของโลกไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความไม่มั่นคงคือโลกต้องสามัคคีกัน จับกุมผู้รุกราน และสนับสนุนสิทธิของยูเครนในการปกป้องตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”

สถานที่ประชุมสุดยอดสันติภาพโลกครั้งแรก ที่โรงแรม Burgenstock และ Alpine Spa ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นายวิคเตอร์ เซเมนอฟ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตยูเครน ย้ำว่า
“โลกที่ปล่อยให้มีการรุกรานโดยไม่ได้รับการควบคุมนั้นอันตรายกว่าโลกที่ประเทศต่างๆ ยึดมั่นในระเบียบระหว่างประเทศตามกฎเกณฑ์”
“การสร้างสันติภาพที่ยุติธรรมสำหรับยูเครนถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเสถียรภาพและการพัฒนาของโลก”
“และผมมั่นใจว่าทั้งโลกจะได้รับประโยชน์จากการเคารพกฎบัตรสหประชาชาติและการสร้างสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืนสำหรับยูเครน” •
รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน
Chanadda Jinayodhin
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022