ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว |
ผู้เขียน | มุกดา สุวรรณชาติ |
เผยแพร่ |
หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว | มุกดา สุวรรณชาติ
การเมืองเปรียบเทียบ…
ไทย-เกาหลีใต้
จากเผด็จการ สู่ ประชาธิปไตย (จบ)
เกาหลีใต้ ใช้รัฐบาลข้ามขั้ว
เป็นสะพานสู่ประชาธิปไตย
บทเรียนจากปี 2530 นายพลโรห์ แตวู ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรง อย่างฉิวเฉียดด้วยคะแนน 36.5% ส่วนฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 2 คิม ยองซัม ได้คะแนน 28% และคิม แดจุง ได้คะแนน 27%
พรรคของคิม ยองซัม และพรรคของคิม แดจุง จึงต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
แต่ปี 2533 คิม ยองซัม ตัดสินใจ “ข้ามขั้ว” ไปร่วมมือกับโรห์ แตวู ก่อตั้งเป็นพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย (Democratic Liberal Party) แม้จะทำให้กองเชียร์ฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนโกรธแค้น แต่คิมรู้ว่าประธานาธิบดีตามกฎใหม่ เป็นได้สมัยเดียว
และการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2536 คิม ยองซัม จึงได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายรัฐบาลของโรห์ แตวู สู้กับคิม แดจุง มิตรที่เคยร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งลงสมัครในนามพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party)
ท้ายสุด คิม ยองซัม ก็สามารถชนะการเลือกตั้ง กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 7 ของเกาหลีใต้
ไทย-เกาหลีใต้ ออกสตาร์ตใกล้กัน ครั้งที่ 2
การออกสตาร์ตวิ่งสู่เป้าหมายประชาธิปไตยรอบนี้ เกิดหลังพฤษภาทมิฬ ไทยและเกาหลีใต้ออกตัวใกล้เคียงกัน สำหรับประเทศไทย นายกฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้าไม่ทันหมดสมัยก็ถูกรัฐประหารปี 2534 แต่เกิดเหตุการณ์ที่ประชาชนลุกขึ้นสู้กับคณะรัฐประหาร รสช.ในปี 2535 และได้รับชัยชนะทำให้เกิดการเลือกตั้งในปี 2535 และได้รัฐบาลพลเรือนที่เริ่มจากรัฐบาลชวน หลีกภัย
ที่เกาหลีใต้ คิม ยองซัม ก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี 2536
ประเทศไทยเดินหน้าระบอบประชาธิปไตย มีการร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ฉบับประชาชน ในทางการเมืองเปลี่ยนนายกฯ และมีการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง ด้วยวิถีประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา
ปี 2535 รัฐบาลชวน หลีกภัย พยายามยกเลิกพระราชกำหนดนิรโทษกรรมของคณะรัฐประหาร รสช. แต่ทำไม่สำเร็จ จึงไม่สามารถลงโทษผู้ทำการรัฐประหารครั้งนั้นได้
นายกฯ ชวนบริหารไปถึงปี 2538 มีความขัดแย้งต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ได้นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ บริหารได้เพียงปีเดียวก็เกิดความขัดแย้งต้องยุบสภาในปี 2539
เลือกตั้งใหม่ได้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ บริหารไปได้ระยะหนึ่งก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ พล.อ.ชวลิตลาออกจากนายกฯ ปลายปี 2540 มีการเลือกนายกฯ จากสภาได้ชวน หลีกภัย กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งบริหารต่อไปจนเกือบหมดวาระจึงยุบสภา
เลือกตั้งใหม่ 2544 ตามรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาธิปไตย (2540) คราวนี้ได้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
สภาพประชาธิปไตยของไทยขณะนั้นดูคล้ายเข้าสู่สภาวะประชาธิปไตยแบบสากลแล้ว ตอนนี้ใครจะมาเป็นนายกฯ ก็ได้ถ้าประชาชนเลือก
โครงสร้างประชาธิปไตยก็เริ่มปรับปรุงแล้วเพราะมีการเลือกตั้ง ส.ว.โดยตรงจากประชาชน ไม่ได้เป็นแบบแต่งตั้งเหมือนเก่า
เกาหลีก้าวล้ำหน้าไปกว่าประเทศไทย
แม้คิม ยองซัม จะได้อำนาจจากการ “ข้ามขั้ว” ไปร่วมมือกับโรห์ แตวู แต่เมื่อขึ้นสู่อำนาจก็ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจรัฐและเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ปราบปรามการทุจริต กวาดล้างอิทธิพลทางการเมืองของกองทัพ รวมไปถึงการจับกุมและดำเนินคดีกับชุน ดูฮวาน และโรห์ แตวู ในข้อหาทุจริตและก่อกบฏจากการทำรัฐประหาร ชุน ดูฮวาน ถูกตัดสินประหารชีวิต ต่อมาได้รับการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่โรห์ แตวู ถูกจำ 17 ปี
คิม ยองซัม ยังนิรโทษกรรมให้นักโทษทางการเมืองหลายพันคน และถอนคำพิพากษาในคดีอาญาของผู้ประท้วงซึ่งถูกจับในเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในกวางจู ปี 2523
ระบอบประชาธิปไตยในเกาหลีใต้กล้าต่อกรกับเผด็จการ
ส่วนคิม แดจุง กลับมาตั้งพรรคการเมืองชื่อ พรรคสมัชชาเพื่อการเมืองใหม่ (National Congress for New Politics) และลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 4 เขาเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี พ.ศ.2514 เกือบเอาชนะ ปัก จุงฮี แต่ต้องไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น 2516
ถูกลักพาตัวจากโรงแรมในโตเกียวโดยสายลับของสำนักข่าวกรองกลางเกาหลี (เคซีไอเอ) พ.ศ.2519 ถูกตัดสินจำคุกห้าปี
2523 ยุคของชุน ดูฮวาน คิมถูกจับกุมและถูกพิพากษาให้ประหารชีวิตในข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครองที่กวางจู แต่สหรัฐอเริกาช่วยให้เขาลดลงเพียงเหลือจำคุก 20 ปี และต่อมาเขาได้ลี้ภัยไปยังสหรัฐอเมริกา โดยเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
2530 เขากลับมาสมัครประธานาธิบดีอีกครั้ง แต่แพ้เพราะตัดคะแนนกันเอง
2535 ลงสมัครแข่งกับคิม ยองซัม ก็แพ้เสียงรัฐบาลข้ามขั้ว
2540 ลงสมัครเป็นครั้งที่ 4 ได้เป็นประธาาธิบดี เมื่อกุมภาพันธ์ 2541 อายุ 74 ปี
จากนั้นเกาหลีใต้ก็ส่งต่อระบอบประชาธิปไตยมาตามระบบได้เรื่อยๆ กลายเป็นประเทศประชาธิปไตย และเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
ตั้งแต่ปี 2549
ระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ
โดนเจาะยาง 4 ครั้ง
ปีที่ ดร.ทักษิณขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกที่เกาหลีช่วงนั้นนายคิม แดจุง เป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นมาตั้งแต่ 2541 และมาหมดวาระในปี 2546 นายกฯ ทักษิณเป็นมาตั้งแต่ 2544 และได้เป็นอีกสมัยในปี 2548
แต่แล้วปี 2549 ก็มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีนักวิเคราะห์เคยสันนิษฐานว่า น่าจะมีสติไม่สมประกอบ แต่เป็นผู้มีอำนาจหลายด้านเข้ามาร่วมมือกันทำการรัฐประหารทั้งๆ ที่ประเทศไปได้ดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย
จากนั้นประเทศก็เกิดความขัดแย้ง ประชาชนก็ยังคงจะเลือกพรรคของนายกฯ ทักษิณอยู่นั่นแหละ จึงต้องใช้ทั้งตุลาการและการรัฐประหารซ้ำ
ในปี 2557 และการร่างรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจเผด็จการ ทำให้การเมืองจะเป็นปัญหานานกว่า 18 ปี แม้ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนหมดอำนาจไปแล้ว ไทยจะยังอยู่ในวังวนเดิมที่สภาไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการได้
ในขณะที่เกาหลีใต้ไปถึงจุดที่ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึกและปิดสภา ถูกต่อต้าน ถูกสภาถอดถอน อาจจะต้องติดคุกด้วย
สำหรับประเทศไทยนั้น ผู้ที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญประกาศกฎอัยการศึก ยุบสภา ได้รับนิรโทษกรรมตลอดมา
ทำไมระบอบประชาธิปไตยของไทยเราไม่พัฒนา
ทั้งๆ ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วเกือบ 100 ปี
1.เพราะการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นจากกลุ่มคนที่มีความรู้จำนวนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เริ่มจากแรงผลักดันของประชาชนจำนวนมาก และเมื่อมีการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจกันก็เป็นการต่อสู้ของคนที่มีอำนาจข้างบนสองฝ่าย ประชาชนก็เป็นแค่ผู้ชม
กว่าประชาชนจะมีส่วนร่วม ก็มาเริ่มเอาที่ 14 ตุลาคม 2516 ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้วถึง 40 ปี แต่ 50 ปีหลังก็ยังโดนการรัฐประหารมาตัดตอนอีกหลายครั้ง
2. การรัฐประหารของไทยถูกรับรองโดยฝ่ายตุลาการทุกครั้ง แถมผู้ที่ต่อต้านการรัฐประหารก็มีความผิดทุกครั้ง
3. ในช่วงหลังฝ่ายเผด็จการยังใช้การเคลื่อนไหวของมวลชนและพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือสนับสนุนการรัฐประหารและต่อต้านระบอบประชาธิปไตย
4. รัฐธรรมนูญที่ดีไม่สามารถดำรงอยู่ได้เพราะถูกรัฐประหารและถูกฉีกทิ้งในขณะที่รัฐธรรมนูญที่เขียนเพื่ออำนวยแก่เผด็จการกลับถูกนำมาใช้ และไม่ยอมให้แก้ไข การร่างกฎหมายเพื่อต้านการรัฐประหารเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด ที่ต้องแก้ไขคือกฎหมายที่ควบคุม หรือยุบพรรคการเมือง หรือเปิดทางให้ ส.ส.ขายเสียง
5. การต้านการรัฐประหารจะทำได้สำเร็จอยู่ที่ประชาชน เริ่มตั้งแต่การไม่ยอมรับการรัฐประหารและต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว ถ้าทำให้การรัฐประหารล้มเหลวก็จะไม่มีใครกล้าทำ และที่สำคัญต้องมีการลงโทษอย่างจริงจัง ทั้งผู้ทำรัฐประหารและผู้สนับสนุน
เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ถอยจากเผด็จการได้สำเร็จในช่วง 20 ปีหลังนี้ ของไทยน่าจะต้องใช้เวลาอีก 10 ปี
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022