ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | การเมืองวัฒนธรรม |
ผู้เขียน | เกษียร เตชะพีระ |
เผยแพร่ |
ปี 2567 ที่กำลังจะจากไปนับเป็นช่วงหนักหนาสาหัสสำหรับชาวไทยและชาวโลกจำนวนมาก
ทั้งภัยพิบัติธรรมชาติสุดโต่งสืบเนื่องจากภาวะโลกร้อนซึ่งคับขันยิ่งขึ้น และภัยสงครามที่ลุกลามในหลายทวีปของโลกรวมทั้งข้างบ้านเรา
เป็นปีที่ปัญหาสังคมและการเมืองอันเลวร้ายหมักหมมระเบิดเปิดออกมาให้เห็นกระจะกระจ่างคาตาอย่างเหลือเชื่อแทบทุกวงการ และเป็นปีที่เราได้ทำความรู้จักใหม่ซึ่งผู้คนและสถาบันที่เราเคยคิดว่ารู้จักดีแต่กลับเปลี่ยนไป อย่างคาดคิดไม่ถึงมาก่อน
โลกเปลี่ยนไปด้วยกลไกสื่อสารใหม่ๆ และเทคโนโลยี ทำให้ได้เห็นอาการแสดงออกรูปแบบใหม่ๆ ที่อุจาด อัปลักษณ์กว่าเก่า แต่ที่ไม่เปลี่ยนคือด้านมืดในธรรมชาติของคนที่เกี่ยวข้อง
มันมืดแหละครับ โลภ โกรธ หลง กิเลสตัณหา ความอยากได้อยากมีอยากเป็น ซึ่งเหลือวิสัยจะเข้าใจได้เหมือนกันว่าทำไมไม่รู้จักหยุดจักพอ? มากมายมหาศาลขนาดนั้น ทำไมยังไม่พอ?
ได้แต่หัดทำใจว่าในวัยเกษียณปูนนี้ ยังมีเรื่องให้เราได้มองเห็นเรียนรู้เกี่ยวกับธาตุแท้ของมนุษย์มากขึ้น ลึกขึ้น ไม่เว้นวายทุกขวบปี
ในเวลาแบบนั้น ที่พอทำได้คือระบายลมหายใจยาวๆ แล้วบันทึกมันไว้เป็นกาพย์กลอน
ขอแบ่งปันความเข้าใจดังกล่าวให้เพื่อนผู้อ่านคอลัมน์ในโอกาสส่งท้ายปีงูใหญ่นี้ พร้อมแสดงความยินดีที่เราอยู่รอดผ่านปีงูใหญ่มาได้ร่วมกันครับ
รัฐบาลพิเศษสลายขั้ว
ที่หาเสียงนั่นก็เพียงกรรมวาทะ สัญญาแล้วใช่จะต้องทำต่อ
ในเมื่อแลนด์ดันไม่สไลด์พอ กลืนวาทะลงคอโมฆกรรม
นี่ไม่ใช่รัฐบาลธรรมดา แต่พิเศษยากหาอย่ามาคว่ำ
ไม่มีขั้วแล้วครับจับฉ่ายยำ อนิจจำทุกขำอนัตตา
วาระการแบก
เมื่อบ้าแบกร่ำไปไม่เลิกแบก ย่อมอาการสติแตกกำเริบร่าน
ยิ่งบุ่มบ่ามบ้าแบกยิ่งแหลกลาญ กร่อนทำลายพื้นฐานเสียงมวลชน
แบกอย่างมีสติมิบ้าแบก รู้จำแนกแยกเฉดด้วยเหตุผล
แบกบ้างติเตือนบ้างอย่างแยบยล ไม่ปิดหูตาตนฆ่าตัวตาย
วิถีวิชาเกิน
วิทยาเร่าร้อน เริงแรง
แก้ต่างสวดสำแดง เดชกล้า
อุตริพลิกแพลง คดีเด่น
สุกสุกดิบดิบท้า ทอดถ้อยเอนเอียง
ปมเขื่องเปรื่องปราดฟุ้ง ฟั่นเฟือน
หาวปล่อยดาวคายเดือน เกลื่อนฟ้า
ตกใส่สติเลือน ลางหลบ
ผิว์กลับหอคอยข้า โขลงช้างงาสวย
โจรร้องจับโจร
ราคาถูกคิดง่ายดูชอบธรรม จุดยืนต้นทุนต่ำรำออกท่า
แอนตี้คอร์รัปชั่นเฮกันมา ทีมหลากสีใช่ว่าคณะเดียว
ชูธงโบกตั้งศูนย์นู่นนี่นั่น น้ำลายฟุ้งฝอยมันส์โชว์ไมค์เดี่ยว
เบื้องหลังบังซ่อนเร้นเหม็นจริงเชียว โกงกินครบขบเคี้ยวเขี้ยวลากดิน
วรนุชหน้าห้อง
วรนุชนั่งสง่าอยู่หน้าห้อง คนเพลิดเพลินเมินมองเหมือนไม่เห็น
เศษซากเน่าเต็มห้องกองกระเด็น กลิ่นไทยไทยถึงเหม็นก็ชาชิน
อยู่อย่างไทยดมอย่างไทยทนอย่างไทย มิรู้ทำอย่างไรกับเหี้ยหิน
ตะกวดที่เคารพซบแผ่นดิน ยื่นแผล็บแผล็บแลบลิ้นมาโลมเลีย
เถ้าแก่หมั่งก๊กจ๊อซัว
เถ้าแก่ขายโชห่วยเราช่วยซื้อ จนร้านลื้อเปิดทั่วหัวระแหง
เถ้าแก่ตกนกปลามาเต็มแรง เราต้มยำทำแกงช่วยแบ่งเบา
เถ้าแก่จงอายุยืนหมื่นหมื่นปี ประชาชีร้องเชียร์ล้วนเกี่ยเห่า
ทำอะไรทำได้ก็ทำเอา หมั่งก๊กยกเถ้าแก่จ๊อซัว
เสียใจเมื่อสายแล้ว
เพิ่งยิ้มเยาะเขาอยู่เมื่อวานนี้ ไม่ทันที่ขี้ฟันจะหายเหม็น
โดนเตะเข้ากระจับกลิ้งกระเด็น อ้าปากอย่างยากเย็นแทงทำไม
ก็อุตส่าห์ก้มกราบราบกับพื้น อุตส่าห์กลืนวาทกรรมคำมั่นใหญ่
อุตส่าห์หักหลังมิตรยอมผิดใจ อุตส่าห์เปลี่ยนเสื้อใหม่ไม่ใส่แดง
น้ำตาเช็ดหัวเข่าจนเป้าแฉะ รับบาปกลายเป็นแพะถูกสาปแช่ง
หิวอำนาจตามัวลืมตัวแรง ตาละห้อยรอยแทงทะลุใจ
เสนายิ้ม
เขาหลอกคุณไปตายกลางถนน ปลุกระดมคุณจนเหมือนคนบ้า
เป่านกหวีดขับไล่โค่นไปมา บทคืนดีหันหน้าหอมจุ๊บจุ๊บ
เทศน์สามัคคีธรรมเถลิงทำเนียบ ล้วนคนดีศรีเสียบเรียบสรุป
เสพอำนาจร่วมกันแบ่งปันปุ๊บ เคยสาปแช่งแสร้งหุบฉีกรอยยิ้ม
พ่อรักลูก
พ่อรักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก แจ้งประจักษ์มั่นคงไม่สงสัย
เก้าอี้ร้อนลวกลนก้นเกินไป พ่อยกให้พันผูกลูกนั่งแทน
พ่อเป็นหนังหน้าไฟให้ก้นลูก ไม่ให้ถูกไฟลามตามถึงแท่น
ก้นพ่อไฟไม่ดับน่าคับแค้น ลูกรับหนีบก้นแน่นนั่งแทนที
ในรอยยิ้ม
คนที่เคยเป็นเหยื่อของการฆ่า เปลี่ยนเป็นนักไล่ล่าฆ่าคนอื่น
กล่าวปกป้องฆาตกรรมน้ำลายกลืน แถมรอยยิ้มสดชื่นสบายใจ
เสียงร้องทุกข์วิญญาณของเหยื่ออื่น ก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่งหาฟังไม่
หูแห่งความมั่นคงของรัฐไทย ยังจะหนวกต่อไปถึงไหนกัน
พระรามสองพ่ายหิรันตยักษ์
กี่ครั้งแล้วส่งเดชเหตุอุบัติ กี่ศพแล้วถูกตัดชะตาสิ้น
หิรันตยักษ์หนีบแขนม้วนแผ่นดิน พระรามสองแดดิ้นอยู่ข้างทาง
รามเกียรติ์เขียนใหม่ใกล้บางกอก วิศวะผีบอกบทนายช่าง
รับเหมาความเลินเล่อเผลอไม่วาง คนขับรถตาค้างต่างแก้ชง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022