ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “รับรองจะไม่มีการรัฐประหารอีกแล้ว” หวังสร้างประวัติศาสตร์ให้ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นนายกฯ จากตระกูลชินวัตร คนแรกที่จะไม่ถูกรัฐประหาร และจะอยู่ครบเทอม
อันเป็นการแสดงความมั่นใจใน “ดีล” กับคีย์แมนอนุรักษนิยม แบ๊กอัพ และภูมิคุ้มกันที่ดีของตนเอง ที่ไม่ตัองติดคุก แต่ไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจแทน และรอดมาหลายคดี
เพราะหากเชื่อว่า “ดีลลังกาวี” มีจริง แต่ทว่า บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชค์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และอดีตรองเลขาธิการ สนว. จะลาออก และถูกมองว่า บารมีลดลง และกำลังขาลง ตั้งแต่ลาออกไปพักผ่อนแล้ว แต่ดีลก็จะยังอยู่
และมีคีย์แมนคนสำคัญของสายอนุรักษนิยมทำหน้าที่สานต่อ “ดีล” นี้ต่อไป ส่วน พล.อ.อภิรัชต์ นั้นก็ยังถูกจับตามองว่ายังมีบทบาทอยู่เบื้องหลังดีลนี้ต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม มีการมองต่างมุม ถึงการปรับโครงสร้างหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) ที่ ผบ.ทบ. ไม่ต้องควบ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และไม่ต้องเป็นทหารคอแดงแล้ว ทำให้ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของ ฉก.คอแดง ที่คุม ผบ.ทบ. คุม ทบ.มายาวนานตลอด7 ปี ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองได้
แม้ทหารในกองทัพจะรู้ดีว่าโอกาสของการปฏิวัติรัฐประหารในยุคนี้ รัฐบาลนี้ จะเป็นศูนย์ก็ตาม แต่กองทัพก็ยังคงถูกจับจ้อง
ดังนั้น การจัดวางของอำนาจในกองทัพ และเพาเวอร์เพลย์ในกองทัพ จึงอาจกลายเป็นชนวนความขัดแย้งภายในที่จะอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ยังคงทำให้อำนาจผู้บัญชาการเหล่าทัพปัจจุบันยังคงถูกจับตามองว่าจะมีการวางแผนในอนาคตอย่างไร
เตรียมทหาร 24 เป็นอีกรุ่นที่ทรงพลังในกองทัพ และประสบความสำเร็จในการคุมอำนาจ และทรัพยากรกองทัพ
แม้ว่าจะไม่อาจชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.ได้ โดยบิ๊กปู พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ จาก ตท.26 ได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไปหมาดๆ จากการแต่งตั้งโยกย้ายเมื่อตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาก็ตาม
แต่ก็ถือว่า เฉียด เพราะมีแรงสนับสนุนจากฝ่ายการเมืองในเวลานั้น ผ่านมาทาง นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมพลเรือนในขณะนั้น เพราะมีรายงานว่า นายสุทินก็เห็นพ้องกับแกนนำ ตท.24 ในการสนับสนุนบิ๊กหนุ่ย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ผช.ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
ในเวลานั้น ยังมีธรรมเนียม ผบ.ทบ.ต้องเป็นทหารคอแดง และ พล.อ.ธราพงษ์ และ พล.อ.พนา ก็ยังเป็นนายทหารคอแดงกันอยู่
จนตอนนั้น มีสูตรอำนาจที่จะส่ง พล.อ.พนา ไปเป็นเสนาธิการทหาร เพื่อรอจ่อเป็น ผบ.ทหารสูงสุด เพราะมีเกมภายในทหารคอแดง ที่จะลดทอนพลังของสายบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. และรองราชเลขาฯ ที่ถูกมองว่าอยู่ในช่วงขาลง และลาออกไปพักผ่อนดูแลสุขภาพ
โดยที่ พล.อ.พนา ถูกมองว่าเป็นเด็กสร้างของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ผลักดันมาตั้งแต่เป็น ผบ.พล.ร.11 กองพลสไตรเกอร์ จนขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 1 แล้วได้เข้าฟาสต์แทร็ก ไปฝึกหลักสูตรทหารคอแดง แล้วขึ้นแม่ทัพภาคที่ 1 เลย ด้วยการซัพพอร์ตของ พล.อ.อภิรัชต์ ก่อนขึ้น เสธ.ทบ. และ ผบ.ทบ. เมื่อ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยจะนั่งยาว 3 ปี เพราะมีอายุราชการถึงกันยายน 2570

พล.อ.พนา จึงกลายเป็น ผบ.ทบ.น้องเล็ก ในบรรดา ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็นรุ่นพี่ ทั้งบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกลาโหม จาก ตท.24 บิ๊กอ๊อบ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด จาก ตท.24 บิ๊กแมว พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. จาก ตท.23 และบิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. จาก ตท.24
โดยที่ พล.อ.พนา จะกลายเป็น ผบ.ทบ.ที่จะเป็นหลัก ที่เหลือคนเดียวในการแต่งตั้งโยกย้ายกันยายน 2568 นี้ เพราะ ผบ.เหล่าทัพรุ่นพี่ทุกคน ทั้ง พล.อ.สนิธชนก พล.อ.ทรงวิทย์ พล.ร.อ.จิรพล และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี จะเกษียณราชการ
แต่แม้ ผบ.เหล่าทัพ ที่จะเกษียณส่วนใหญ่เป็น ตท.24 แต่ก็ใช่ว่า ตท.24 จะหมดอำนาจ เพราะยังมี ตท.24 แถว 2 แผง 2 จะขึ้นมาเป็น ผบ.เหล่าทัพใหม่
ที่ชัดๆ คือ พล.อ.ธราพงษ์ ตท.24 เพราะได้ถูกดึงตัวจาก ผช.ผบ.ทบ. ข้ามไปกระทรวงกลาโหม นั่งเก้าอี้รองปลัดกลาโหม จ่อรอขึ้นแทน พล.อ.สนิธชนก ไว้แล้ว ตั้งแต่โยกย้ายที่ผ่านมา โดยมีอายุราชการถึงกันยายน 2569 นั่งต่อได้แค่ 1 ปี ที่ต้องจับตามองว่า พล.อ.สนิธชนก จะวางตัวใคร ขยับขึ้นมาจ่อในตำแหน่งรองปลัดกลาโหม ในโยกย้ายตุลาคม 2568
แต่จะเห็นได้ว่าในส่วนของกระทรวงกลาโหม และสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ได้มีการวางตัวคีย์แมน ตท.24 คุมตำแหน่งสำคัญไว้หมด ทั้งบิ๊กรุณ พล.อ.กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม (ผอ.สนผ.กห.) และ พล.อ.พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร เจ้ากรมเสมียนตรา (จก.สม.)
และต้องไม่ลืมว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายเมื่อเมษายน 2567 ในยุคที่นายสุทินเป็น รมว.กลาโหม ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ไฟเขียวให้ ตท.24 ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง มาที่กลาโหม มากถึงเกือบ 30 คน ด้วยเหตุผลที่ว่า ส่วนใหญ่จะเกษียณราชการกันยายน 2567
ขณะที่ บก.ทัพไทย มีการวางตัวบิ๊กหยอย พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ (ตท.24) ที่ข้ามจากผู้ช่วย ผบ.ทบ. ไปเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมื่อโยกย้ายตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนต่อไป ต่อจาก พล.อ.ทรงวิทย์ ที่จะเกษียณ แถมมีอายุราชการถึง 2570 ที่จะทำให้ ตท.24 ยังคงคุมอำนาจกองทัพต่อไปจนเกษียณพร้อม พล.อ.พนา ผบ.ทบ.

ในส่วน ทบ.นั้น ได้บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์แล้วว่า ตท.24 ไม่อาจทำได้สำเร็จ ในการทำให้แผงอำนาจผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็น ตท.24 ทั้งหมดได้ เพราะแม้ว่าในการโยกย้ายครั้งที่ผ่านมา จะมีทั้ง พล.อ.กฤษฏ์ และบิ๊กต้น พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. คนเก่งจากสายรบพิเศษหมวกแดง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เป็น ผบ.ทบ. เพราะในการโยกย้ายครั้งที่ผ่านมายังมีธรรมเนียมที่ ผบ.ทบ.จะต้องเป็นทหารคอแดงคง เพิ่งจะมาเปลี่ยนเมื่อมีการปรับโครงสร้างหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ฉก.ทม.รอ.904) เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2567 นี่เอง แต่ พล.อ.ณัฐวุฒิ ก็จะเกษียณกันยายน 2568 นี้ แล้ว
ดังนั้น ทบ.จึงอยู่ในมือ พล.อ.พนา แบบเต็มอำนาจ เพราะนั่งยาว 3 ปี มีโอกาสจัดโผนายพลถึง 6 ครั้ง ไม่นับรวมระดับผู้การกรม และผู้บังคับกองพัน จะเป็นโอกาสในการจัด ดึง ตท.26 ขึ้นมาเป็นทีมเวิร์ก
เพราะในเวลานี้ พล.อ.พนา ก็มีเพื่อน ตท.26 รองรับเป็นแผง ทั้งบิ๊กรุ่ง พล.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผช.ผบ.ทบ. เจ้ากรมปู พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก และรอง เสธ.เอก พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รอง เสธ.ทบ. รอง เสธ.จิ๊บ พล.ท.จินตมัย ชีกว้าง เจ้ากรมกิจการพลเรือน ทบ. ผบ.โอ๋ พล.ต. ธีรนันท์ นันทขว้าง ผบ.หน่วยข่าวกรองทางทหาร
ฝ่ายอำนวยการ มีทั้ง พล.ท.อัฏฐพล ลัดใหม่กุลวัฒน์ ปลัดบัญชี ทบ. พล.ท. ธนิศร์ ยูสานนท์ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าง ทบ. พล.ท.ชาครีย์ ภัทรพงศ์กุล เจ้ากรมส่งกำลังบำรุง ทบ. พล.ต.นฤดล สุขมา เจ้ากรมจเรทหารบก พล.ต. สันติพงษ์ มั่นคงดี เจ้ากรม สห.ทบ. พล.ต.นิพัฒน์ เล็กฉลาด ผบ.ศูนย์ไซเบอร์ ทบ.
ในส่วนคุมกำลัง เช่น พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่จะเกษียณ และคาดว่า พล.อ.พนา จะดันเพื่อน ตท.26 ในกองทัพภาคที่ 2 ทั้งบิ๊กเติ่ง พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.ต.นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 แม้ว่าจะมีรองณัฏฐ์ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 อีกคน รุ่นน้อง ตท.27 ที่เป็นนายทหารชายแดนไทย-กัมพูชา มาตลอดชีวิตรับราชการ จนเป็นที่ยอมรับ แต่ก็ ไม่ง่ายที่จะแทรก ตท.26 รุ่น ผบ.ทบ.
นอกจากนี้ ยังมี พล.ท.พรชัย มาหลิน แม่ทัพน้อยที่ 2 ผบ.เต้ พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) พล.ท.ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ ทบ. พล.ต.พรเทพ ยังรักษา ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ (ผบ.ศสพ.) พล.ต.เรืองพงษ์ วงษ์ศรีสุข ผบ.พล.ม.3 แม่ทัพแม็กซ์ พล.ท.คมกฤช รัตนฉายา แม่ทัพน้อยที่ 4 พล.ต.อนวัช พจนวรพงษ์ ผบ.กองพลทหารช่าง พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมทหารช่าง พล.ต.วิกรานต์ จันระมาด ผบ.ศูนย์ซ่อมสร้าง สรรพาวุธ ทบ.
พล.ต.อาวุธ พุทธอำนวย ผบ.ศูนย์การทหารทหารราบ พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ ผบ.พล.พัฒนา 4 พล.ต.นิธิ อิงคสุวรรณ ผบ.มทบ.13 พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ ภาชนะทิพย์ ผบ.มทบ.16 พล.ต.อัครพนธ์ มูลประดับ ผบ.มทบ.22 พล.ต.ไชยนคร กิจคณะ ผบ.มทบ.25 พล.ต.สุชาติ พุ่มสุวรรณ ผบ.มทบ.35 พล.ต.วรเทพ บุญญะ ผบ.มทบ.38

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาคือ ตท.24 ยังมีโอกาสในการชิงเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารเรือ เพราะยังมีบิ๊กเฟื่อง พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ตท.24 เป็น เสธ.ทร. และถือเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร.อีกคน ที่รายล้อมด้วยแคนดิเดตรุ่นน้อง จาก ตท.25 ทั้ง พล.ร.อ.พิจิตต์ ศรีรุ่งเรือง ผช.ผบ.ทร. และบิ๊กเดี่ยว พล.ร.อ.ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ที่อยู่ใน 5 ฉลามทัพเรือ และเป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ทร.คนต่อไป ตามที่บิ๊กดุง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.คนก่อนวางตัวไว้
แต่เมื่อ พล.ร.อ.จิรพล กลายเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ที่แหวกม่านประเพณี ทร.ในหลายเรื่อง จึงทำให้นายทหารยศพลเรือเอกกลายเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร.ไปด้วย แม้จะไม่ได้อยู่ใน 5 ฉลาม ทร.ก็ตาม
พล.ร.อ.ไพโรจน์ จึงกลายเป็น ตท.24 คนเดียวที่ล้อมด้วย ตท.25 เพราะยังมี พล.ร.ท.สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ อีกคน แถมเกษียณกันยายน 2570 อีกด้วย
จึงถือเป็นโอกาสสุดท้ายของเตรียมทหารรุ่น 24 ที่จะยึดเก้าอี้ ผบ.ทร. หลังจากที่พลาดจากการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งที่แล้ว จากการสนับสนุนบิ๊กน้อย พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ ให้ขึ้นเป็น ผบ.ทร. แต่ไม่สำเร็จ ได้เป็นแค่ประธานที่ปรึกษา ทร. ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณกันยายน 2568 เท่านั้น

ขณะที่กองทัพอากาศนั้น เมื่อ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เกษียณราชการ ก็ถือเป็นการหมดยุคของ ตท.24 และเตรียมก้าวสู่ยุคของเตรียมทหารรุ่น 26 หรือเตรียมทหารรุ่น 27 ที่จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทอ. ระหว่างบิ๊กคิม พล.อ.อ.เสกสรร คันธา (ตท.26) ผช.ผบ.ทอ. และ เสธ.แอน พล.อ.อ.วชิระพล เมืองน้อย (ตท.27) เสธ.ทอ. ที่กำลังเบียดแข่งกันแบบหายใจรดต้นคอ และทำให้ลูกทัพฟ้าพยายามเดาใจ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ว่า ในที่สุดจะเลือกใคร เพราะทั้งคู่ล้วนมีบทบาทสำคัญในโครงการจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ ที่กองทัพอากาศต้องการ Gripen จากสวีเดน
เพราะจะมีการวางตัว ผบ.ทอ. ที่จะมาดูแลกองทัพอากาศในระยะยาว 2-3 คน ต่อจากนี้
การแต่งตั้งโยกย้ายและการชิงเก้าอี้ รวมถึงการวางตัวทายาทของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ล้วนแต่มีส่วนในการเพิ่มอุณหภูมิในกองทัพทั้งสิ้น
ฝ่ายการเมืองระมัดระวังให้สร้างเงื่อนไขในการรัฐประหาร และยังมีดีลผสมข้ามขั้วเป็นเกราะป้องกัน แต่ทว่า ปัจจัยภายในกองทัพเองอาจเป็นสาเหตุ เพราะมีเค้าลางมาตั้งแต่การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งที่ผ่านมาในยุคของบิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.คนก่อนนั่นเอง จนตามมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใน ฉก.คอแดง ครั้งใหญ่
เพราะกองทัพอาจจะต้องเป็นฝ่ายถอดสลักรัฐประหารเสียเอง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022