‘กล้าธรรม’ โตพริบตา 24 เสียง หลัง ‘ธรรมนัส-19 ส.ส.’ ปลดแอก ‘ป้อม’ จับตา ‘สัดส่วน รมต.’ เปลี่ยน

บทความในประเทศ

 

‘กล้าธรรม’ โตพริบตา 24 เสียง

หลัง ‘ธรรมนัส-19 ส.ส.’ ปลดแอก ‘ป้อม’

จับตา ‘สัดส่วน รมต.’ เปลี่ยน

 

สัญญาณแตกหัก แยกออกเป็น 2 ขั้วภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นปัญหาที่คาราคาซังมานาน นับตั้งแต่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีมติขับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไปเป็นพรรคฝ่ายค้านแทน ภายหลัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เกิดความไม่สบายใจในหลายๆ เรื่อง จนกระทั่งไม่ต้องการจะร่วมงานด้วยกันอีกต่อไป

ประกอบกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ออกมาประกาศปลดแอก ขอเป็นอิสรภาพแยกทางกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แบ่งออกเป็น 2 ก๊วนแยกขั้วกันชัดเจน โดยกลุ่มหนึ่งสนับสนุน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

ขณะที่ ส.ส.อีกกลุ่มหนึ่งสนับสนุนทางผู้กอง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และประกาศตัวสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

ฉะนั้น เมื่ออุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกัน ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ 20 ส.ส. รวม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคหรือไม่ โดยขีดเส้นการทำงานไว้ 60 วัน

 

กระทั่งการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา มีมติขับ 20 ส.ส.กลุ่มก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการ พปชร. ออกจากพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยพ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรคที่ 54(5) วรรคสอง เหตุจากแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐท่านอื่น? เกินกว่าจะแก้ไข ทำความเข้าใจให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันได้

สำหรับรายชื่อ ส.ส.ทั้ง 20 คน ประกอบด้วย 1.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา 2.นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี 3.นายจำลอง ภูนวนทา ส.ส.กาฬสินธุ์ 4.นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา 5.นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลา 6.นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี 7.นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ส.ส.เชียงใหม่ 8.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี 9.นายปกรณ์ จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน 10.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร

11.นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร 12.นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก 13.นางรัชนี พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด 14.นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี 15.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส 16.นายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี 17.นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา 18.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา 19.นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ส.ส.ชัยภูมิ 20.นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส

ทว่า ด้วยบรรยากาศต่างฝ่ายต่างชื่นมื่น ทำให้การขับ 20 ส.ส. กลับถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการเจรจา มีข้อตกลง แลกดีลอะไรกันหรือไม่

โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องการให้อิสระแก่ 20 ส.ส. แลกกับการเลิกยุ่งเรื่องไร่ภูนับดาว เนื่องจากช่วงจังหวะสอดคล้องตรงกับการสั่งยุติการลงพื้นที่สอบเหตุรุกที่ดิน ส.ป.ก.ไร่ภูนับดาว ซึ่งให้เหตุผลเพื่อไม่ให้ถูกครหามีการเมืองเข้ามาก้าวก่าย

 

เรื่องนี้ แกนนำทั้ง 2 ฝ่าย ต่างออกมาการันตีและยืนยันว่า ไม่มีการเจรจาตกลงแลกดีลอะไรกันตามที่มีกระแสข่าวออกมาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี หลังจากพรรคพลังประชารัฐขับ ส.ส.ก๊วนผู้กองพ้นพรรคไปแล้วนั้น สถานการณ์ของพรรค ณ เวลานี้ คงเหลือ ส.ส.เพียง 20 คนเท่านั้น แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 19 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน เรียกได้ว่า ส.ส.หายไปกว่าครึ่งหนึ่ง ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เตรียมวางมือและเซ้งพรรคทิ้ง

โดยเรื่องนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมายืนยันว่า “บิ๊กป้อม” มีความพอใจที่จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคตลอดไป ทำให้ ส.ส.พรรคเข้มแข็ง จะเป็นผู้ดูแล ส.ส. ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน จะเป็นผู้คัดเลือกเองร่วมกับรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบ

“คณะกรรมการบริหารพรรคจะประชุมร่วมกับ ส.ส. 20 คน เพื่อวางแผนในฐานะพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล โดย พล.อ.ประวิตรมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ท่านพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายไพบูลย์ระบุ

 

ขณะที่ 20 ส.ส.ก๊วนผู้กองธรรมนัส ได้รับการยืนยันว่าทุกคนจะย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ด้วยกันหมด ไม่มีแตกแถว นั่นคือ พรรคกล้าธรรม ที่มี ดร.แหม่ม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรค โดย 20 ส.ส. กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ทั้งหมดได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรมเรียบร้อยแล้ว

และเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ก็ได้นำ 20 ส.ส.เปิดตัวเข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดตัว ส.ส. กระบวนการหลังจากนี้ ทางพรรคกล้าธรรมจะจัดประชุมใหญ่ เพื่อปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

มีรายงานว่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีชื่อเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร มีชื่อเป็นเลขาธิการพรรค ส่วนนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา มีชื่อเป็นเหรัญญิกพรรค

 

แน่นอนว่า การได้ 20 ส.ส.ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาเสริมทัพ เมื่อรวมกับ 4 ส.ส.ที่มีอยู่เดิม เท่ากับว่าขณะนี้ พรรคกล้าธรรมมีจำนวน ส.ส. 24 คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย เมื่อเทียบกับพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน

ท่ามกลางการจับตาว่าจะนำไปสู่การทบทวนสัดส่วน รมต.ของพรรคกล้าธรรมหรือไม่

โดยเรื่องนี้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ได้ออกมาระบุไว้ว่า “ตัวเลขของพรรคกล้าธรรมตอนนี้ และรวมกับ 20 ส.ส. จะมีทั้งหมด 24 คน โดยจะไม่นำไปต่อรองอะไร ถือเป็นความร่วมมือ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน”

“ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยถึงการทบทวนตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่มีการปรับเปลี่ยน ขอทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้งานของรัฐบาลเดินหน้า” นางนฤมลระบุ

ฉะนั้น หากอนาคตรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีการปรับเปลี่ยนเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) คงต้องรอลุ้นกันว่าด้วยจำนวนตัวเลข ส.ส.ของพรรคกล้าธรรม ที่สูงมากขึ้น จะมีโอกาสทำให้ได้สัดส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มขึ้นตามไปด้วยหรือไม่