จดหมาย

จดหมาย | ประจำวันที่ 20-26 ธันวาคม 2567

 

• เขียนเพื่อ “เขา”

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

เปิดตัวแคมเปญ ‘Write for Rights’ หรือ ‘เขียน เปลี่ยน โลก’ ประจำปี 2567

เชิญชวนคนไทยร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงไปกับคนทั่วโลกเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้ถูกละเมิดสิทธิ

ผ่านการเขียนจดหมายถึงพวกเขา

โดยมีจุดประสงค์เพื่อยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกละเมิดสิทธิและครอบครัวของพวกเขา

ไม่ให้เกิดความรู้สึกว่ากำลังต่อสู้เพียงลำพัง

นอกจากนี้ ยังสามารถเขียนจดหมายถึงผู้มีอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เพื่อให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและนำมาสู่ความยุติธรรม

และสื่อสารไปทั่วโลกว่า ประชาชนพร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้กับการใช้อำนาจโดยมิชอบ

ไม่ว่าการใช้อำนาจนั้นจะเกิดที่ใดบนโลกก็ตาม

แคมเปญ ‘Write for Rights’ หรือ ‘เขียน เปลี่ยน โลก’ เริ่มต้นเมื่อ 23 ปีที่แล้วที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์

จากกลุ่มเพื่อนที่ตัดสินใจเฉลิมฉลองวันสิทธิมนุษยชนสากล ด้วยการเขียนจดหมายมาราธอนติดต่อกัน 24 ชั่วโมง

โดยเขียนจดหมายทั้งวันทั้งคืนในนามของผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ

จนแคมเปญนี้ได้เติบโตเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของแอมเนสตี้

ที่ผู้คนจากทั่วโลกมาร่วมกันปกป้องสิทธิมนุษยชนให้กับผู้ที่เผชิญความเสี่ยง

สำหรับเคสผู้ถูกละเมิดสิทธิที่แอมเนสตี้ ประเทศไทย รณรงค์ในปีนี้

คือกรณีของ “อานนท์ นำภา” ทนายความสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ ยังมีกรณีทั่วโลกที่ต้องการเสียงสนับสนุนของทุกคน

เช่น “พัค คยองซอก” นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนพิการ จากประเทศเกาหลีใต้ ถูกดำเนินคดีหลังชุมนุมประท้วงโดยสงบที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกรุงโซล

“โจเอล ปาเรเดส” ช่างเซรามิกที่สูญเสียดวงตาข้างหนึ่งจากการสลายการชุมนุมประท้วงในประเทศอาร์เจนตินา

“มานาฮีล อัล-โอตัยบี” จากประเทศซาอุดีอาระเบียที่ถูกตัดสินโทษจำคุก 11 ปีจากการสนับสนุนสิทธิผู้หญิงและถูกทำร้ายในระหว่างการถูกคุมขัง เป็นต้น

แอมเนสตี้ ประเทศไทย เชิญชวนเข้าร่วมกับแคมเปญ ‘Write for Rights’ หรือ ‘เขียน เปลี่ยน โลก’ ในปีนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการระดับโลกที่เชื่อมั่นในโลกที่ยุติธรรมและเปี่ยมด้วยการเคารพในสิทธิมนุษยชน

ร่วม “เขียน เปลี่ยน โลก” ได้ที่ https://bit.ly/3Zn4PqW

เพื่อสร้างความหวังและความเปลี่ยน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ประเทศไทย

 

สิ่งที่ดูเหมือนไม่มีพลัง

แต่หากรวมกัน มาก-มาก

ก็อาจแปรเป็น “พลัง”

และ “กำลังใจ” ได้

จึงไม่ควรมองข้าม

แคมเปญ ‘Write for Rights’

โดยเฉพาะคนที่รำลึกถึง

“อานนท์ นำภา”

• การค้ายุคใหม่

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3%

ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน และการบริโภค

ควบคู่กับความต้องการจากต่างประเทศในภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง

ทำให้คาดว่าการส่งออกไทยปี 2568 จะขยายตัว 3%

สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรและอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เครื่องสำอาง อาหารสัตว์เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลให้ค่าระวางและราคาน้ำมันผันผวน ความผันผวนของค่าเงิน และสงครามการค้ารอบใหม่ (Trade War 2.0) เป็นผลจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ในปี 2568 EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้นำผู้ประกอบการไทยรุกตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

โดยส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในโลกการค้ายุคใหม่ ได้แก่

1. สินค้าตอบโจทย์ความมั่นคงด้านอาหาร (Food for Security) ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 10 ของประเทศผู้ผลิตอาหารต่อคนมากที่สุดในโลก

สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ ทูน่ากระป๋องและไก่แปรรูป น้ำตาลทราย และซาร์ดีนกระป๋อง

2. สินค้ารักษ์โลก (Good for Planet)

สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ เม็ดพลาสติกชีวภาพ (Polylactic Acid : PLA) และแผงโซลาร์เซลล์

3. สินค้าและบริการที่สร้างความสุขหรือประสบการณ์ใหม่ (Mood for Joy)

สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องประดับเงิน เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

นอกจากนี้ สินค้าที่มีโอกาสเติบโตในปี 2568 ยังได้แก่ สินค้าที่ได้รับผลดีจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แก่ สินค้าเครื่องปรับอากาศและหม้อแปลงไฟฟ้าที่ไทยอาจสามารถกลับมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐได้เพิ่มขึ้น หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นตามที่ได้เคยประกาศนโยบายไว้

ในปี 2568 EXIM BANK จะเดินหน้าบทบาท Green Development Bank นำทัพผู้ประกอบการไทยขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและสร้างโลกที่ยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) เป็น 40% ภายในปี 2568

ส่วนสื่อสารองค์กร

ฝ่ายส่งเสริมภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)

 

โลกการค้ายุคใหม่

น่าสนใจ

โดยเฉพาะ

– สินค้าตอบโจทย์ความมั่นคงด้านอาหาร

– สินค้ารักษ์โลก

– สินค้าสร้าง “สุขและประสบการณ์ใหม่”

ทำให้ “การค้านิยม” ดูซอฟต์ขึ้นเยอะ

และเป็นทางเลือกที่น่าพิจารณา •