ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
ขณะที่ประเทศซีเรีย กำลังหลุดพ้นจากการปกครองของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ถูกโค่นอำนาจลง หลังจากกลุ่มกบฏและฝ่ายต่อต้านสามารถยึดเมืองหลวงและเมืองหลักๆ ของประเทศเอาไว้ได้
ทำให้ตระกูลอัสซาดที่ปกครองมานานกว่า 50 ปี ตั้งแต่สมัยที่ ฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของบาชาร์ อัล-อัสซาด ปกครองซีเรีย เมื่อปี 2514 จนต่อเนื่องมาถึงรุ่นลูก เป็นอันต้องสิ้นสุดลง
ประชาชนชาวซีเรียพากันทำลายรูปปั้นและรูปภาพทั้งสองพ่อลูกที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยมีรายงานว่า กลุ่มกบฏได้บุกไปเผาสุสานของฮาเฟซ อัล-อัสซาด ในเขตคาร์ดาฮา เมืองลาตาเกีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
สิ่งต่างๆ ที่ตระกูลอัสซาดเคยทำไว้ ก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
โดยล่าสุด กลุ่มรณรงค์เพื่อชาวซีเรีย ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาออกมาเปิดเผยว่า ที่นอกกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย มีหลุมศพหมู่ ซึ่งมีร่างของผู้คนอยู่กว่า 1 แสนร่างในนั้น
ที่ล้วนแล้วแต่เสียชีวิตภายใต้การปกครองของบาชาร์ อัล-อัสซาด ทั้งสิ้น
มูอาซ มุสตาฟา หัวหน้าคณะทำงานฉุกเฉินของซีเรีย หรือ SETF ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์ จากกรุงดามัสกัส เปิดเผยว่า หลุมศพดังกล่าว ชื่อว่าหลุมศพอัลกุตัยฟาห์ อยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสไปทางเหนือราว 40 กิโลเมตร เป็นหลุมศพหมู่ 1 ใน 5 แห่งที่เขาพบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการประมาณการแบบที่น้อยที่สุด คาดว่ามีศพถูกฝังอยู่ในหลุมศพหมู่แห่งนี้อย่างน้อย 100,000 ร่าง
มุสตาฟายังเชื่อด้วยว่า นอกจากหลุมศพหมู่ 5 แห่งที่เขาพบ ก็อาจจะมีหลุมศพหมู่อยู่ที่อื่นอีก
และว่า ร่างผู้เสียชีวิตเหล่านี้ ไม่ใช่มีแค่ชาวซีเรียเท่านั้น แต่ยังมีร่างของชาวอเมริกัน อังกฤษ และชาติอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
มุสตาฟาได้บอกว่า ในช่วงที่บาชาร์ อัล-อัสซาด ปกครองประเทศซีเรียอยู่ เมื่อมีการทรมานผู้คนจนเสียชีวิตแล้ว หน่วยข่าวกรองของกองทัพซีเรียจะทำหน้าที่ในการนำร่างผู้เสียชีวิตเหล่านั้นออกจากโรงพยาบาลทหาร และถูกส่งไปฝังยังหลุมฝังศพหมู่ตามที่ต่างๆ
มุสตาฟาบอกว่า จากการที่ได้พูดคุยกับคนที่ทำงานที่หลุมศพหมู่ ที่หนีออกมาจากซีเรียได้ บอกว่า พวกเขาถูกสั่งให้บดศพให้แบน เพื่อที่จะได้ให้พอดีกับหลุมศพ หลังจากนั้นก็กลบด้วยดิน และต้องดูแลสภาพพื้นที่เอาไว้ เพื่อปกป้องหลักฐานสำหรับการสืบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างของมุสตาฟาได้
ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2554 ที่มีการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านการปกครองของอัสซาด จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ มีชาวซีเรียหลายแสนคนที่ถูกสังหารในช่วงเวลาดังกล่าว
โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชน และอีกหลายประเทศ ได้กล่าวหาว่า นายฮาเฟซ อัล-อัสซาด อดีตประธานาธิบดีซีเรีย และบาชาร์ อัล-อัสซาด ลูกชาย ที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีต่อจากบิดา ได้ก่อเหตุสังหารหมู่ประชาชนโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการสังหารหมู่ในระบบเรือนจำอันสุดฉาวของซีเรีย
ซึ่งหากหลุมศพหมู่เหล่านี้มีอยู่จริง ก็จะกลายเป็นร่องรอยอันโศกสลดที่เหลืออยู่ของอดีตอันแสนโหดร้ายของการปกครองซีเรีย
ภายใต้การนำของสองพ่อลูก “ตระกูลอัสซาด”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022