ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว |
ผู้เขียน | มุกดา สุวรรณชาติ |
เผยแพร่ |
หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว | มุกดา สุวรรณชาติ
การเมืองเปรียบเทียบ…
ไทย-เกาหลีใต้
จากเผด็จการ สู่ ประชาธิปไตย (2)
ใครต้านรัฐประหาร ต้องถูกปราบ
ยุคจอมพลสฤษดิ์
การยึดอำนาจซ้ำ 20 ตุลาคม 2501 ที่จริงไม่ควรเรียกว่ายึดอำนาจ เพราะปี 2500 จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นแค่นายกฯ นอมินี นี่เป็นการเปลี่ยนให้จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้มีอำนาจจริงเข้ามาปกครอง
การยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ในครั้งนี้ทำให้รัฐธรรมนูญถูกฉีกโยนลงถังขยะ ระบบการปกครองเป็นเผด็จการแบบเต็มตัว ยุบสภา, ยุบพรรคการเมือง, ให้ ส.ส. และ ส.ว. สิ้นสภาพลงในทันที, ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินห้าคน, ห้ามกรรมกรนัดหยุดงาน และประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ
จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจคณะปฏิวัติอยู่ถึงสามเดือน ได้ออกประกาศคณะปฏิวัติมาบังคับใช้ 57 ฉบับ ด้วยระบบเผด็จการทำให้มีหนังสือพิมพ์ถูกปิด ฝ่ายก้าวหน้าถูกจับกุมคุมขังเป็นจำนวนมาก
ในเดือนมกราคม 2502 จึงมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรซึ่งมีเพียง 20 มาตรา มีการตั้งสภาที่เรียกว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ให้ทำหน้าที่นิติบัญญัติด้วย สมาชิกสภาก็แต่งตั้งทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทหาร พอตั้งสภาเสร็จ ก็ลงมติให้จอมพลสฤษดิ์เป็นนายกฯ ทั้งที่ยังอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผบ.ทบ. และอธิบดีกรมตำรวจ
ส่วนการร่างรัฐธรรมนูญไปเริ่มประชุมครั้งแรกอีกสองปีต่อมา จอมพลสฤษดิ์เป็นนายกฯ อยู่จนถึงเดือนธันวาคมปี 2506 ก็ป่วยและเสียชีวิตลง
ยุคถนอม-ประภาส
จอมพลถนอม กิตติขจร รับตำแหน่งนายกฯ ต่อ ร่างรัฐธรรมนูญต่อ…เสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2511 ใช้เวลาร่าง 9 ปีกับ 4 เดือน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ห้าม ส.ส.เป็นรัฐมนตรี วุฒิสภามาจากการแต่งตั้ง และจะมาจากข้าราชการก็ได้ มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2512
จอมพลถนอมได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี พอถึงปี 2514 กลุ่ม ส.ส.ได้ขอแก้รัฐธรรมนูญ ลดอำนาจวุฒิสภาลง ให้แยกข้าราชการการเมืองออกจากข้าราชการประจำ ให้ ส.ส.เป็นรัฐมนตรีได้ และมีปัญหาขัดแย้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณ
17 พฤศจิกายน 2514 นายกรัฐมนตรีถนอมแก้ปัญหาโดยการยึดอำนาจ ยุบสภา แล้วตั้ง “สภาบริหารคณะปฏิวัติ” ขึ้นมาแทน จากนั้นก็ใช้อำนาจเผด็จการเช่นเดียวกับจอมพลสฤษดิ์ ออกประกาศคณะปฏิวัติใช้แทนกฎหมายมากกว่า 400 ฉบับ ทำแบบนี้นานถึง 13 เดือน จึงออกธรรมนูญการปกครองชั่วคราวเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ.2515 มีสภาแต่งตั้งสภาเดียว มาจากทหารเป็นส่วนใหญ่
คำว่าระบอบถนอม-ประภาส จึงเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น
ยุค ปัก จุงฮี
ประเทศเกาหลีใต้ มีการรัฐประหาร 16 พฤษภาคม 2504 โดยนายพลปัก จุงฮี โดยยอมให้ยุน โบชอน เป็นประธานาธิบดีหุ่น ส่วนเขากุมอำนาจจริง ซึ่งต่อมาได้ลาออกจากกองทัพเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ตุลาคม 2506 และได้รับเลือกอีกในวาระที่ 2 ปี 2510 แต่เขาต้องการเป็นประธานาธิบดีตลอดกาล จึงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้คราวละ 7 ปี และสามารถต่ออายุได้ไม่จำกัด และได้กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2515 เป็นสมัยที่ 3
เกิดการชุมนุมประท้วง แต่มีการปราบปรามผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรง และลงโทษประหารชีวิตผู้ชุมนุม จากนั้นก็ปกครองแบบเผด็จการมาอีกเกือบ 7 ปี
และก็จบลงด้วยการที่ ปัก จุงฮี ถูกสังหารโดยผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ (KCIA) ในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ.2522
เปรียบเทียบเผด็จการไทย-เกาหลีใต้
1. ปัก จุงฮี ครองอำนาจมานานกว่า รวมแล้ว 18 ปี ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์+จอมพลถนอม-ประภาส+พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
2. สหรัฐอเมริกามีอิทธิพลต่อทหารทั้ง 2 ประเทศ ในช่วงเวลานั้น
3. รัฐธรรมนูญไม่มีความสำคัญ ฉีกทิ้งได้ ไม่มีก็ได้ สามารถร่างใหม่ได้ตามต้องการ
4. การคุมกำลังทหารสำคัญที่สุด
5. การต่อต้าน เผด็จการ ช่วงนั้นถูกปราบทุกประเทศ
ในยุคจอมพลสฤษดิ์ ไม่มีการต่อต้านอย่างเปิดเผย ยกเว้น พรรคคอมมิวนิสต์ไทย แต่หลังจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจตนเอง ได้มีนายอุทัย พิมพ์ใจชน ส.ส.จังหวัดชลบุรี นายอนันต์ ภักดิ์ประไพ ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก และนายบุญเกิด หิรัญคำ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกันยื่นฟ้องจอมพลถนอมกับพวก รวม 17 คน ต่อศาลอาญาในข้อหาความผิดฐานกบฏ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2515
คดีนี้ ต่อมาศาลอาญาไม่รับคำฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าโจทก์ทั้งสามคนไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่มีอำนาจฟ้อง หลังจากศาลอาญายกฟ้องดังกล่าว คณะปฏิวัติก็ออกคำสั่งให้ลงโทษจำคุกนายอุทัย พิมพ์ใจชน 10 ปี และให้จำคุกนายอนันต์ และนายบุญเกิด คนละ 7 ปี
โดยอ้างว่าอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศหรืออำนาจอธิปไตยย่อมเป็นของคณะปฏิวัติ คณะปฏิวัติหรือหัวหน้าคณะปฏิวัติย่อมใช้อำนาจอธิปไตยได้ทุกวิถีทาง
14 ตุลาคม 2516 นักศึกษาประชาชนไทยล้มเผด็จการได้
ขณะที่ ปัก จุงฮี ยังครองอำนาจต่อเป็นสมัยที่ 3 ประเทศไทยดูคล้ายจะฟ้าสีทองผ่องอำไพ แต่เพียงแค่ 3 ปีก็เกิดการรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 กลุ่มทหาร และกลุ่มอำนาจเก่า บวกกับผลประโยชน์ของ อเมริกา ทำให้มีการรัฐประหาร สังหารนักศึกษา ประชาชน ระบอบประชาธิปไตยถูกล้ม สภาถูกยุบ
สุดท้ายการต่อสู้ทางการเมือง ขยายไปเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ วุ่นวาย ล้มตายกันทั่วประเทศ กินเวลาอีก 5 ปี
การเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเกาหลี
การลอบสังหารประธานาธิบดีปัก จุงฮี ในปี 2522 เปิดโอกาสให้นายพลชุน ดูฮวาน และนายพลโรห์ แตวู ก้าวสู่อำนาจ ชุน ดูฮวาน อาศัยการสอบสวนเหตุการณ์ลอบสังหารนี้ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจเสียเอง โดยได้รับการสนับสนุนจากโรห์ แตวู และเพื่อนในรุ่น ที่นำกำลังทหารจากชายแดนมาช่วย
ชุน ดูฮวาน (ดำรงตำแหน่งปี 2524-2530) แต่งตั้งรัฐบาลพลเรือน และพยายามคุมอำนาจอยู่เบื้องหลังตามคำแนะนำของอเมริกา แต่สุดท้ายก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีเสียเอง ในปี 2524 (เวลานั้นนายกฯ เปรม ติณสูลานนท์ เพิ่งเข้ามามีอำนาจสมัยแรก) เขาประกาศกฎอัยการศึก จับกุมผู้เห็นต่าง ยุบสภา ปิดมหาวิทยาลัย มีคนถูกจับไปเข้าค่ายทหาร เพื่อปรับทัศนคติใหม่ หนังสือพิมพ์ถูกสั่งปิด นี่คือยุคมืดต่อจากปัก จุงฮี
ที่เมืองกวางจู ประชาชนรวมตัวต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารอย่างเข้มข้น รัฐบาลส่งทหารพร้อมอาวุธครบมือไปปราบปราม เกิดการเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหด มีคนถูกยิงตายประมาณ 200 แต่ประชาชนชนก็ออกมาชุมนุมประท้วงอีก
“การลุกขึ้นสู้ในเดือนมิถุนายน” (June Uprising ) ปี 2530 มีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมกว่า 1.5 ล้านคน การปราบปรามการชุมนุมในครั้งนี้มีความรุนแรงมากจน ชุน ดูฮวาน ต้องลาออก และให้ โรห์ แตวู ลงสมัครประธานาธิบดี เพื่อสืบทอดอำนาจ
ทางออกของทั้งสองคน คือ จะต้องปฏิรูปประเทศ เปลี่ยนผ่านจากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย ที่ผ่านมา ชุน ดูฮวาน ชนะเลือกตั้งโดยการเขียนกติกาให้มีการเลือกตั้งทางอ้อม โดยมีคณะผู้แทนไปเลือกประธานาธิบดีอีกที คณะผู้แทนก็ไม่เลือกคนอื่นนอกจากคนที่กำหนดไว้ (เหมือนไทยที่มี ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนเลือกนายกฯ)
ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เป็นการเลือกตั้งโดยตรง ผู้นำฝ่ายค้านสองคนคือ คิม ยองซัม และคิม แดจุง ตัดคะแนนกันเองทำให้โรห์ แตวู ชนะคะแนนไปอย่างเฉียดฉิว เป็นประธานาธิบดี ดำรงตำแหน่งปี 2531-2534 (ช่วงนั้น พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน ขึ้นเป็นนายกฯ ไทย) สุดท้ายเกาหลีใต้ก็ยุติระบอบทหาร นายพลโรห์ แตวู เป็นนายพลคนสุดท้ายที่ปกครองประเทศเกาหลีใต้ และเปลี่ยนถ่ายอำนาจสู่รัฐบาลพลเรือนได้สำเร็จ
งานนี้ไม่ง่าย เริ่มด้วยการที่ฝ่ายประชาธิปไตยหักกันเองและตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว โปรดติดตาม
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022