ไม่เชื่อมต่อ | เรื่องสั้น : อรรถสิทธิ์ สมจารี

ไม่เชื่อมต่อ | เรื่องสั้น

อรรถสิทธิ์ สมจารี

 

โอ้…อัลลอฮ์ บ่าวขอดุอาต่อพระองค์ ขออัลลอฮ์โปรดอภัยโทษให้บ่าวด้วยเถิดในความผิดบาปที่บ่าวได้ทำลงไปทั้งหมด

โอ้…อัลลอฮ์ บ่าวขอเตาบัต (สำนึกตน) ต่อพระองค์ ว่าบ่าวจะเลิกทำบาปทุกอย่าง บ่าวเสียใจกับบาปที่ได้กระทำ บ่าวจะพาตัวเองให้หนีห่างจากบาปทุกสิ่ง บ่าวจะกลับตัวกลับใจเป็นมุสลิมที่ดีมีอีหม่าน (ความศรัทธา)

โอ้…อัลลอฮ์ บ่าวขอดุอาต่อพระองค์ ขออัลลอฮ์โปรดมอบโอกาส ขออย่าให้บ่าวตกมุรตัด (ตกศาสนา) ขออย่าให้บ่าวเป็นกาเฟร (ผู้ปฏิเสธ) ขอให้บ่าวเป็นมุสลิม นับถือศาสนาอิสลามตลอดไปด้วยเถิด

 

นี่คือคำร้องขอต่อพระผู้เป็นเจ้า ในดุอา (คำวิงวอน) ขณะคุณก้มลงสุญูด (การนอบน้อมถ่อมตน สรรเสริญต่ออัลลอฮ์) และน้ำตาได้ไหลลงอาบแก้มทั้งสองด้วยสำนึกเสียใจในอดีตที่ผ่านมา…อดีตคือประสบการณ์ และประสบการณ์คือความทรงจำ และความทรงจำคือความเจ็บปวดที่ย้อนกลับมาอยู่ในห้วงความคิด สิ่งเลวร้ายที่ย้ำเตือนคุณว่าวันเวลาที่ผันผ่าน คุณใช้มันให้หมดเปลืองไปกับความว่างเปล่า หันเหออกจากทางนำอันเที่ยงตรง เมินเฉยต่อศาสนาและความจริงแท้ของพระผู้อภิบาล

แน่แท้, คุณเกิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่คุณกลับทำตัวเยี่ยงคนไร้ศาสนา ทำในสิ่งตรงกันข้ามที่พระองค์ทรงใช้และสั่งห้าม

เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เมื่อชีวิตมาสู่จุดต่ำสุด ต้องพานพบกับความทุกข์โศก มนุษย์มักคิดทบทวนถึงสิ่งที่ผ่านมา ไม่ว่าความคิดหรือการกระทำ เขาย่อมรู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา แต่ถ้าว่า, ชีวิตด้านตรงข้ามคือความสุข แลหลงระเริงอยู่ในโลกที่คิดว่าจีรัง เขาจะหวงแหนดั่งอาภรณ์ล้ำค่าไม่สามารถสลัดออก ไม่คิดถึงเหตุและผลของการมีอยู่และเป็นไป

คุณเช่นกัน…แม่พูดกับคุณว่า ได้เวลากลับมาเสียทีนะ คุณทรุดเข่า กอดขาแม่ พูดไม่ออก ละอายใจและรู้สึกเจ็บแค้นปนเปกัน คุณมาทราบตอนหลังว่านั่นคือกอฏอกอดัร (การศรัทธาต่อกฎกำหนดสภาวะของอัลลอฮ์) ที่บ่าวทุกคนต้องพบเจอ

คุณกำลังอยู่ในความสับสนบนทางแยก จะซ้ายขวาหน้าหลังบนล่างหรือตรงกลาง คุณลังเลอ่อนไหวที่จะเลือกหนทางที่ดีและปลอดภัยที่สุด คุณเผชิญหน้ากับการท้าทายครั้งใหม่และใหญ่กว่าทุกครั้ง

ห้วงยามนั้น ในฐานะนักเขียนสมัครเล่น คุณระบายมันออกมาด้วยเรื่องแต่ง ได้รับการตีพิมพ์ลงนิตยสารการเมืองรายสัปดาห์ชื่อดังในรอบหลายปี ชื่อเรื่อง ‘สิ่งที่เหลืออยู่’

คุณพบผู้หญิงคนนั้นที่ร้านสปา หล่อนเป็นพนักงานนวดที่จัดได้ว่ามีลูกค้าประจำมากคนหนึ่ง ด้วยหน้าตาที่สะสวย ความเอาอกเอาใจ รอยยิ้มพร้อมความขี้เล่น ใส่ใจและรักงานบริการ ช่างฉอเลาะ “คุณลูกค้าคะ คุณลูกค้าขา” ทำให้คุณตกหลุมรักอย่างง่ายดาย สมัครใจและเต็มใจเป็นเอฟซี โดยหวังลึกๆ ว่าจะเขยิบฐานะเป็นแฟนได้ คุณเทียวไปเทียวมาใช้บริการทุกอาทิตย์ คุณต้องต่อสู้ทำคะแนนแข่งกับหนุ่มคนอื่นที่มีจุดประสงค์เดียวกัน เรียกได้ว่าหล่อนคือรายจ่ายหลักของแต่ละเดือนก็ได้ ไม่เป็นไร คุณปลอบตัวเอง ชีวิตไม่มีอะไรง่าย คือความท้าทายที่ต้องฟันฝ่า เพื่อหมุดหมายคือการเอาชนะใจหล่อน จะได้ดังใจหมายหรือไม่ ขอให้มุ่งมั่นเต็มที่จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง

ดูเหมือนหล่อนมีใจให้คุณนิดๆ แม้ว่าคุณกับหล่อนอายุห่างกันหนึ่งเท่า หล่อนลืมตาดูโลกเป็นเวลาเดียวกับที่คุณเริ่มทำงานใหม่ๆ หล่อนเคยบอกอีกว่าชอบคนมีอายุ อยู่ใกล้แล้วอบอุ่น ไม่ว่าจะพูดจริงหรือพูดเล่น หรือเป็นเทคนิคของคนทำงานสายนี้ คุณไม่แคร์ รู้สึกมีความสุขด้วยซ้ำ

ระหว่างนั้นสปิริตนักเขียนกระฉูด คุณเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง ปลอบประโลมว่าเป็นแบบฝึกหัดการเป็นนักเขียน ส่งนิตยสารหวังตีพิมพ์จะได้มีค่าเรื่องเปลี่ยนเป็นค่าคอร์สให้หล่อน และอวดงานเขียนไปในตัว บังเอิญว่าบรรณาธิการชอบได้พิมพ์สมใจ ชื่อเรื่อง ‘ในความคิดเขา’

 

เวลาคนถามคุณว่าทำอะไรอยู่ คุณตอบสั้นๆ ง่ายๆ ว่าเกษียณแล้ว…

เป็นคำตอบที่ฟังดูดี แต่ลึกๆ คุณรู้แก่ใจว่ามันขมขื่น คุณอายุปูนนี้แล้ว ต้องกลับมาอาศัยแม่ เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แปลงสภาพเป็นคนตกงานตอนแก่ ไม่มีหลักมีฐานมั่นคงอะไรสักอย่าง ลูกเมียหนีหาย พี่ๆ หมางเมิน ไม่เป็นไร คุณบอกทุกคนว่า ถ้าพี่ๆ ไม่ค่อยมีเวลาว่างเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว ครอบครัวหรืออะไรก็แล้วแต่ คุณจะดูแลแม่เอง นั่นแหละจึงทำให้พี่ๆ มองคุณเปลี่ยนไป รวมถึงคนอื่นนอกครอบครัวด้วย

คุณกลับมาสืบทอดงานที่บ้าน คือทำเครื่องแกงขายในตลาด โดยเฉพาะแกงเผ็ดใต้และแกงเหลือง เป็นที่ขึ้นชื่อในถิ่นคุณ ตอนอยู่เมืองหลวงอิสลามยังไม่เข้ามาในหัวใจ แน่นอน, ตอนนี้คุณกลับมาละหมาดอีกครั้ง หลังจากละทิ้งโดยเจตนาไปนาน คุณกลับมาถือศีลอดในเดือนรอมฎอน (เดือนถือศีลอดของมุสลิม) อีกครั้ง หลังจากละทิ้งโดยเจตนาไปนาน และคุณกลับมาทำอะไรๆ อีกหลายอย่างในด้านของศาสนา

การประพฤติตัวของคุณในกาลก่อน ถ้ายึดบางทรรศนะของผู้รู้ คุณคงเป็นกาเฟรไปแล้ว คุณทำทั้งหมดลงไปโดยที่ไม่มีความศรัทธาแน่วแน่อย่างจริงจัง จริงอยู่ร่างกายคุณทำ อาจเพราะเหตุผลภายนอกคือกลัวการนินทาว่าร้ายจากคนอื่น แต่หัวใจคุณยังมืดบอดเช่นเดิม คุณไม่ได้ทำอิบาดะฮ์ (การเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้า) ด้วยความอิคลาส (ความบริสุทธิ์ใจ) อาจเนื่องเพราะคุณยังไม่ได้รับฮิดายะฮ์ (ทางนำ) จากอัลลอฮ์

ตอนนี้คุณยังคงหมกมุ่นกับการเป็นนักเขียน คุณมีเวลาให้คิดและเขียนอย่างเหลือเฟือ คุณนึกย้อนถึงวันเก่าๆ ที่คุณผ่าน-พบ-เจอ มีอะไรพอจะเปลี่ยนเป็นงานเขียนได้บ้าง ถ้าคุณเขียนดีงานมีคุณภาพ ยกระดับจิตใจวิพากษ์และจรรโลงสังคมด้วยความรักความสวยงาม ก็คงมีงานได้เผยแพร่สู่วงกว้าง มีรายได้มาจุนเจือนอกเหนือจากการทำเครื่องแกงของแม่

คุณโลเลในการให้นิยามตัวเองว่าจะเป็นอะไรดี ระหว่างคนตกงานที่เป็นนักเขียนกับนักเขียนที่ตกงาน!

มีหลายเรื่องที่อดีตเมียคุณเล่าให้ฟังเรื่องการงาน หลังจากคุณจีบหล่อนจนได้เป็นเมีย แล้วย้ายมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน หล่อนย้ายร้านเปลี่ยนที่ทำงานหลายครั้งเพื่อความสะดวก จนตอนหลังเลิกทำงานเป็นพนักงานบริการเพราะคุณขอ หล่อนมาเป็นประชาสัมพันธ์ของร้านใหม่ รายได้อาจจะน้อยหน่อย ไม่เป็นไรคุณบอก เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับวงการนี้พรั่งพรู หนึ่งในเรื่องที่คุณชอบมากคือเรื่องของแนนเพื่อนเก่าหล่อน

คุณถือวิสาสะเอามาเขียนตั้งชื่อเรื่องว่า ‘เพื่อนดื่ม’

 

ตอนที่คุณตัดสินใจอพยพกลับบ้าน เพราะชีวิตในกรุงเทพฯ ไปต่อไม่ได้ เรียกได้ว่าคุณแทบไม่มีสมบัติติดตัวเลย เว้นแต่โน้ตบุ๊กเครื่องเก่า-รุ่นเก่าที่อยู่กับคุณมานาน นอกนั้นอะไรที่มีราคาคุณขายทิ้งเปลี่ยนเป็นเงินหมด อื่นๆ บางส่วนคุณให้คนรู้จัก-บริจาคให้องค์กรตามเรื่องตามราว คุณอยากทำตัวให้เบาบางและเจือจางจากภาระทั้งมวล

เมียเก่า (น่าจะใช้คำนี้ได้) พูดกับคุณผ่านโทรศัพท์ว่า นึกแล้วต้องเป็นอีหรอบนี้ คนอย่างพี่ทำอะไรได้ไม่มากหรอก ศิลปินไส้แห้งที่ดื่มกินความฝันต่างข้าว ปล่อยเวลาให้ร่วงโรยและโบยบินไปอย่างสูญเปล่า ถูกโลกแห่งความจริงกระหน่ำและทุบตีโดยไม่รู้สึกรู้สา หนูตัดสินใจถูกแล้วที่หอบลูกกลับแล้วทิ้งพี่ไว้ข้างหลัง เจ็บแต่จริง! คุณไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง ดูเหมือนระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน หล่อนอ่านคุณขาด อ่านคุณทะลุปรุโปร่ง เห็นไปถึงไส้ในเลยไปถึงความไม่เอาไหนของคุณ คุณไม่เคยปกปิดตัวตนอันแท้จริงได้เลย ใครต่อใครถึงอ่านคุณออกราวกับหนังสือชั้นต่ำที่เปิดหน้าแผ่ออกกลางแดดเปรี้ยงกระนั้น

วันหนึ่งขณะคุณนั่งเพลินๆ ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน แม่เดินโขยกไม้เท้าออกมาจากในบ้าน มานั่งตรงข้ามคุณ กระหืดกระหอบเพราะเหนื่อยจากการแบกน้ำหนักตัวเอง แม่เป็นคนอ้วน ข้อเท้าเล็ก ชอบกินจุบกินจิบตามประสาผู้หญิงตั้งแต่สาวๆ ผลที่ออกมาคือผู้หญิงเจ้าเนื้อที่นั่งตรงข้ามคุณนี่เอง แม่เปิดปากแหลงใต้ พรื้อหล่าว…แล้วร่ายยาวถึงเรื่องต่างๆ นานา

ก่อนมาจบสองสามเรื่องสำคัญ เรื่องหนึ่งคืออดีตลูกเมียคุณ แม่บ่นว่ามันต้องเป็นแบบนี้ใช่มั้ย? คุณบอกว่าคิดถึงลูกคนเดียวเท่านั้น ส่วนเมียหรือแม่ของลูกไม่ได้คิดถึง และไม่คิดถึงนานมากแล้ว ตั้งแต่ความรักเปื่อยยุ่ยแล้วค่อยๆ กลายเป็นผงฝุ่นร่วงกราวลงดิน ตั้งแต่หล่อนแอบมีคนใหม่ ตั้งแต่หล่อนมีคนใหม่อย่างเปิดเผย ตั้งแต่หล่อนวางแผนกับคนใหม่พาลูกหนีกลับบ้าน ตั้งแต่คนใหม่ให้สัญญาว่าจะเปิดร้านนวดแผนไทยให้ ตั้งแต่คนใหม่เปิดร้านนวดแผนไทยให้จริงๆ ตั้งแต่หล่อนเป็นเจ้าของกิจการ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่คุณรู้ตัวว่าหล่อนไม่ได้รักคุณอย่างจริงใจ แค่ต้องการใครสักคนให้ยึดเกาะ หล่อนต้องการที่พักพิงชั่วคราว บังเอิญว่าดันมีลูกกัน ที่พักพิงชั่วคราวเลยเขยิบฐานะเป็นถาวรเพียงระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อหล่อนเห็นแล้วว่าใครคนนั้นหมดประโยชน์ก็โผไปเกาะใครคนใหม่ที่ให้ประโยชน์มากกว่า

แม่บอกว่าทำใจเถอะลูกบ่าว เพราะยังไงเอ็งก็ทำผิดบาปอย่างมหันต์ สิ่งที่เอ็งทำไม่เรียกว่าการแต่งงานหรือมีครอบครัวด้วยซ้ำ มันคือการซีนา (การผิดประเวณี) เอ็งต้องเตาบัตต่ออัลลอฮ์ รู้สึกเสียใจและร้องไห้ต่อพระองค์ ให้พระองค์ยกโทษให้และหันกลับมามีอีหม่านซะ ไปหัดอ่านคัมภีร์อัลกุรอานใหม่ และไปละหมาดที่มัสยิดให้มากเข้าไว้ คุยกับโต๊ะครูและอ่านหนังสือศาสนาให้เยอะ ไม่ใช่เอาแต่อ่านนิยายของดุนยา (โลกแห่งการทดสอบเพียงชั่วคราว) ทีวีช่องปกติอย่าไปดู มีแต่ของฮะรอม (ต้องห้าม) ไม่ได้ช่วยอะไรในอาคีเราะฮ์ (โลกหน้าอันสถาพร) เลย เปิดทีวีช่องศาสนา ดูอาจารย์เค้าบรรยายเสียบ้าง แม่อุตส่าห์ติดจานดาวเทียม เผื่ออัลลอฮ์เปิดใจให้เอ็งใช้ชีวิตแบบฮาลาล (สิ่งที่ศาสนาอนุมัติ) ในทุกมิติบ้าง อัลลอฮ์ทรงเมตตาลูกเอ๊ย

พูดจบ แม่ใช้ปลายผ้าคลุมฮิญาบซับหน้า…หรือน้ำตากันแน่

คุณตอบ อินชาอัลลอฮ์ (ถ้าพระองค์ทรงประสงค์) ซักวันหนึ่ง

 

เป็นอีกวันที่เคลื่อนคล้อย ดวงอาทิตย์-ดวงจันทร์หมุนวน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกอย่างยังคงเดิม เหมือนคุณสูดลมหายใจเข้าออกไปวันๆ แต่คุณยังมีหลุมหลบภัย คุณคิดบวก เนื่องเพราะ, คุณยังคงเดินทางไปในความคิด ลื่นไหลไปตามจินตนาการ ค้นหาความเวิ้งว้างในสมอง วิ่งไล่จับความวูบไหวภายใน

คุณหวนคิดถึงคืนนั้นที่สถานีรถไฟหลังสวน คุณนั่งร่างต้นฉบับบนเก้าอี้ท่ามกลางแสงไฟสลัว เรื่องราวและตัวละครลื่นไหล มือไม้ขยับเขยื้อน-รวดเร็ว-พลิกผัน สายตา-ความคิด-ปากกา-สมุดบันทึก จากทีละตัวกลายเป็นคำ ผสมเป็นภาษาแถวยาว แล้วแปรเปลี่ยนเป็นหนึ่งย่อหน้า ขยุกขยิกไม่เป็นระเบียบ พลิกกระดาษหน้าแล้วหน้าเล่า คุณคิดเอาเองว่ามีคุณค่า มันเจ๋ง อย่างน้อยของคุณคนเดียว

สืบเนื่องจากคุณอพยพกลับโดยรถไฟฟรีจากภาษีประชาชน ต้องทนหลังขดหลังแข็งไปตามสังขาร ตอนรุ่งๆ คุณนั่งเครื่องบินกลับบ้าน ตอนนี้รถไฟชั้นสามสมเหตุผลแล้ว คุณกะจะแวะลงหาเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายที่อำเภอหลังสวน ได้ข่าวว่าย้ายกลับมาทำสวนผลไม้ที่นี่ ทีแรกโทร.นัดกันดิบดีว่าเขาจะมารับพาไปเที่ยวบ้าน นัดเวลาและขบวนรถเรียบร้อย เพราะรถไฟมักมาถึงหลังสวนตอนมืด แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นแม้เงา คุณโทร.เข้ามือถือก็ปิดเครื่อง คุณโทร.ย้ำหลายครั้งจนอ่อนใจ แน่แล้วว่าเพื่อนคงผิดนัด อาจจะลืมหรือไม่สะดวกอะไรสักอย่าง เป็นโดยเจตนาหรือไม่เจตนาหารู้ไม่ ทำไงละทีนี้ คุณใคร่ครวญและสังเวชในคราเดียวกัน จะให้เดินหาโรงแรมนอนก็ไม่รู้จักที่ทาง เงินในกระเป๋าก็ไม่ค่อยมี เอางี้ละกัน นั่งอยู่ที่สถานีนี่แหละ รอรถไฟฟรีเที่ยวต่อไป ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ในวัยเก๋า จะให้เอนตัวนอนตรงม้านั่งยาวก็กระไรอยู่ เงียบก็เงียบ มืดก็มืดอีกต่างหาก ไม่มีคนอยู่เลย นอนน่ะคงไม่หลับแน่ๆ เขียนหนังสือดีกว่า

คุณปิ๊งไอเดีย ไปนั่งที่มีแสงสว่าง คิดและเขียนออกมาเลย อะไรก็ได้ อะไรก็ได้ร่างแรกเสร็จอย่างรวดเร็ว อะไรร่างแรกที่ว่านั้นคือเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้ ชื่อว่า ‘ในความล่มสลาย’

 

ตั้งแต่คุณกลับบ้าน สถานการณ์ชายแดนใต้แย่ลงเรื่อยๆ มีความรุนแรงไม่เว้นแต่ละวัน คุณพยายามเข้าใจ คิด วิเคราะห์ ศึกษาว่าเป็นอะไรกันแน่ ดูเหมือนอิสลามถูกมองเป็นวายร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณปรึกษาผู้รู้แถวบ้านเพื่อหาคำตอบ

ในแง่ส่วนตัว ตอนนี้คุณรู้สึกเบื่อและเริ่มเปิดรับความจริงแท้ทีละน้อย คุณขอดุอาให้อัลลอฮ์เปิดใจ ตั้งใจละหมาดอย่างคุชัวะ (สงบ) มีเอี๊ยะฮ์ซาน (คุณไม่เห็นพระองค์ แต่พระองค์เห็นคุณ) และมีสมาธิในทุกอณู คุณอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง คุณอยากแตกต่าง ลองดูสิว่าจะมีอะไรดีขึ้นไหมหรือมีความสุขบ้างหรือเปล่า

คุณเปลี่ยนแนวมาอ่านหนังสือศาสนามากขึ้น อ่านอัลกุรอานแปลไทยเพื่อให้เข้าใจความหมายแต่ละซูเราะฮ์ (บท) ทำให้คุณมีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์ และพระองค์จะทรงยกสถานะอันสูงส่งของผู้ศรัทธาที่แสวงหาความรู้อันยังประโยชน์ให้เหนือกว่ามนุษย์โดยทั่วไปในความประเสริฐ

มีระเบิดระลอกใหม่รายเดือน เหมือนจะสงบแต่ก็ไม่ เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คุณต้องรับรู้ แม้ไม่อยากมีส่วนร่วมแต่มีผลกับคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

นี่อย่างไรล่ะ คุณไม่ควรประวิงเวลาก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป คุณต้องเร่งรุดสู่สัจธรรมอันเที่ยงแท้ไม่บิดเบือน ยึดสายเชือกให้มั่นต่อกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์บนความเข้าใจของซอฮาบะห์ (ตามคัมภีร์อัลกุรอานและตามท่านศาสนทูตมุฮัมมัดบนความเข้าใจของบรรดาอัครสาวก) และเจริญรอยหลักเชื่อมั่นของบรรพชนชาวสลัฟ คือชนรุ่นก่อนสามร้อยปีแรกที่ประเสริฐที่สุดแห่งประวัติศาสตร์อิสลาม คุณต้องไม่ทำชิริก (ตั้งภาคี) และบิดอะห์ (ทำอุตริกรรมในเรื่องศาสนา) เพื่อความจำเริญของตัวคุณเอง คุณต้องมีเตาฮีด (การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์) ในหัวใจให้จงหนัก และคุณต้องมีอะกีดะฮ์ (การยึดมั่นในหลักการอิสลาม) ที่ถูกต้อง ยังไม่พอ, คุณต้องมีความซอบัร (อดทนอดกลั้น) กับบททดสอบทุกรูปแบบ หลีกหนีการล่อลวงของชัยฏอน (มารร้ายมากระซิบกระซาบที่หัวใจ) และดัจญาล (สิ่งชั่วช้าจอมโกหกที่จะปรากฏตัวก่อนวันสิ้นโลก) และสุดท้ายคุณต้องอิสติกอมะห์ (การยืนหยัดในความดี) เพื่อรับผลบุญในวันแห่งการตอบแทน…

ทว่า, ณ ตอนนี้ คุณเหมือนตัวละครในหนังของหว่อง ก๊า ไหว่ เรื่องอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ คุณเลิกดูหนังฟังเพลงนานแล้ว เพราะเป็นมะซียัต (กระทำสิ่งที่เป็นบาป) เอาเป็นว่าเกี่ยวกับความเหงาความเปล่าเปลี่ยวของมนุษย์ละกัน

คุณมีเพียงจินตนาการที่กระจัดกระจายอยู่ในเศษกระดาษ ไม่มีอะไรชิ้นเป็นอันพอจะเป็นงานเขียนเรื่องแต่งได้ คุณเชื่อว่าความคิดดีๆ จะมีมา แต่…ไม่ใช่ชั่วโมงนี้

ในอดีตเมื่อไม่นาน คุณชอบทำงานหนังสือ เพราะเป็นงานที่ปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ต้องลงเรือไปจับปลาในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่น่าเกรงกลัว ไม่ต้องทำงานกับเครื่องจักรเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ไม่ต้องทำงานโรงงานสูดดมสารพิษ และไม่ต้อง ไม่ต้องอะไรอีกหลายอย่าง แค่ เป็น-อยู่คือ-ท่ามกลางผู้คนทั่วไปที่ไม่สามารถหยั่งรู้และคาดเดาได้พอแล้ว

มีบางคนพูดว่านักเขียนมักดำรงอยู่ในความเศร้าเสมอ และเป็นแฟนนักเขียนต้องอดทน แต่อดีตเมียคุณไม่ถูกใจสิ่งนี้ และเวลานี้ไม่รู้เหมือนกันว่าใจดวงนั้นที่หล่อนเคยเห็นดีเห็นงามกับคุณมันไปลืมวางไว้ที่ไหน? การมาของคนหนึ่ง (ผู้ชายคนใหม่) นำความวิบัติมาให้อีกหลายคน…

แม้ว่าเรื่องที่ประพันธ์บางเรื่องคุณจะถอดหัวใจเขียน คุณทุ่มเทกับมันราวลูกรักในไส้ แม้ว่าเรื่องแต่งบางเรื่องจะเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความเกรี้ยวกราด บางฉากคุณถึงขนาดกรีดเลือดเขียนอารมณ์ประมาณใช้มีดผ่าแล้วเอามือควักหัวใจออกมาวางบนโต๊ะข้างโน้ตบุ๊ค (ซึ่งมันยังเต้นตุบๆ อยู่เลย) แต่มันไร้ค่าไม่มีราคาในสายตาคนทั่วไป วรรณกรรมไม่ใช่สิ่งจำเป็น ทุกคนต่างดิ้นรนเหมือนกัน เพราะทุกคนต่างมีชีวิต และไม่มีชีวิตไหนที่ไม่ดิ้นรน

ตัวอักษรคือสิ่งชีวิตเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง สั้นๆ เจียมตน ดุจดอกไม้บานในแสงแรกแห่งวัน แล้วโรยราไปในความเดียวดายของกาลเวลาที่เปลี่ยนผ่าน เจ้าสิ่งนี้ได้ทำหน้าที่ของวัจนะหรือโวหารหนึ่งอย่างดีที่สุดแล้ว สิ่งที่ต่อจากนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุม คุณไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์อะไรได้ทั้งนั้น

‘ปาโบล เนรูดา’ กวีชาวชิลีเคยพูดในภาพยนตร์เชื้อสายอิตาลีเรื่องหนึ่งทำนองว่า บทกวีหรืองานศิลปะไม่สามารถให้เหตุผลหรืออธิบายได้ แต่คุณยังต้องการคำตอบอยู่ดี!

คุณผู้อ่านเชื่อในเรื่องความหลากหลายของมนุษย์หรือเปล่า? มีคนบางประเภทต้องการโด่งดังมีชื่อเสียงเรียงนาม ประสบความสำเร็จ อยากเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับ แสงสปอตไลต์สาดส่อง ร่ำรวยมั่งมีเงินทอง มีรถมีบ้านหรูหราโมเดิร์น มีชู้รักหลายคนพร้อมเพรียงกัน หวังครอบครองและกอบโกยทุกสิ่งอย่างในจักรวาลอันไกลโพ้น แต่กับคนบางประเภทเป็นสิ่งที่อยู่ขั้วตรงข้าม คุณคือคนประเภทหลัง กล่าวสำหรับคุณแค่ต้องการแสดงออก เขียนสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเป็นต้นฉบับให้ได้รับการตีพิมพ์ นำมาซึ่งค่าเรื่องเอาไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อประทังชีวิต…เพียงเท่านั้น

ในความคิดคุณ งานเขียนเหมือนการปั้นน้ำเป็นตัวหนังสือ เพื่อสร้างภาพในจินตนาการของผู้เขียนสื่อไปถึงผู้รับสารให้รับรู้และเห็นภาพใกล้เคียงที่สุด ค่อยๆ ไต่ระดับเพดานบินไปเรื่อยๆ และทำให้เรื่องเล่ามีความเคลื่อนไหวไปข้างหน้าเหมือนการต่อจิ๊กซอว์หรือเติมคำคิดในช่องว่าง แต่การที่คนเขียนหนังสือจะประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เสมือนมีตึกอยู่หลังหนึ่ง ในตึกมีห้องอยู่หลายห้องให้คนได้จับจองเป็นเจ้าของ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะมีกุญแจไขประตู

ในโลกนี้ไม่มีอะไรง่ายสำหรับคุณ รสนิยม มุมมอง ประสบการณ์ ทัศนคติและวิสัยทัศน์ของบรรณาธิการเป็นเรื่องสำคัญ มีส่วนทำให้นักเขียนแจ้งเกิดหรือแจ้งดับ เพราะเขาหรือเธอเป็นคนแรกที่อ่านต้นฉบับคุณ และเคาะว่าคุณจะได้ไปต่อหรือเปล่า คุณอาจสงสัยว่ามันคือความสูญเปล่าหรือไม่? แต่คุณยังรักจะทำ ทั้งที่รู้ว่าปลายทางของหนังสือวรรณกรรมดีๆ มีคุณค่าที่วางจำหน่ายในร้านหนังสือ มักถูกจัดเรียงไว้หลังร้านที่ทั้งลึก ทั้งมืดและเหน็บหนาว

คุณอยากเขียนนิยายสวยเศร้า ฉากและองค์ประกอบเล็กน้อยที่น่าสนใจ เสนอประเด็นความรักหนักหน่วงที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง เพราะมนุษย์มีรายละเอียดปลีกย่อยน่าค้นหามากมาย ในระยะหลังคุณตระหนักถึงการมีลมหายใจมากขึ้น ชีวิตที่ไม่ได้มีองค์ประกอบภายนอกมาเกี่ยวข้อง แต่เป็นชีวิตด้านในของมนุษย์

เวลาคุณอ่านเรื่องแต่งดีๆ เรื่องหนึ่งแล้วรู้สึกชอบ คุณปรามาสว่าไม่สามารถเขียนแบบนั้นได้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะวิธีคิด มุมมอง ประสบการณ์ต่อเรื่องเหล่านั้นแตกต่างกัน คุณทำได้เพียงเล่าออกมาในสิ่งที่คิดหรือมั่นใจในแบบคุณเอง ซึ่งอาจเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าสไตล์ก็ได้

โดยพื้นฐานคุณเป็นคนจับจด คุณกำลังคิดจะปล่อยชีวิตให้ว่างเปล่าต่อไปอีกปี ไว้ปีหน้าหรือปีไหนค่อยว่ากันจะทำเช่นไรดี มีอะไรหรือสิ่งใหม่เกิดขึ้นบ้าง คุณเบื่อความซ้ำซากเต็มทน…หรือชีวิตคุณมาถึงจุดที่เฉยเมยกับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว?

 

คุณพยายามรวบรวมความคิดฟุ้งซ่านไม่เป็นระบบออกมา คุณเอื้อมมือไขว่คว้าถ้อยคำในอากาศ ปั้นแต่ง-ตีแผ่-จัดวาง แล้วโยนโครมลงบนแป้นพิมพ์ ให้เรื่องราวบอกเล่าตัวของมันเอง

…นี่คือเรื่องที่ไม่เชื่อมต่อ ซึ่งคุณไม่มีสิทธิ์อ้างความเป็นเจ้าของ •