สีทันดรสันดาป ศิลปะแห่งการปะติดปะต่อประวัติศาสตร์และมิติเวลาเข้าไว้ด้วยกัน ของ นักรบ มูลมานัส ในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

สีทันดรสันดาป

ศิลปะแห่งการปะติดปะต่อประวัติศาสตร์และมิติเวลาเข้าไว้ด้วยกัน

ของ นักรบ มูลมานัส ในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024

 

ในตอนนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของศิลปินอีกคนที่ร่วมแสดงงานในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ศิลปินผู้นี้มีชื่อว่า นักรบ มูลมานัส ศิลปินร่วมสมัยชาวไทย ผู้ใช้วิธีการคอลลาจ (Collage) หรือการตัดปะ ในการสร้างผลงานศิลปะจากการตัดปะเรื่องเล่าของอดีตและความทรงจำขึ้นมาจากชิ้นส่วนทางประวัติศาสตร์ วรรณกรรม ตำนานความเชื่อ และวัฒนธรรมหลากแขนง

ในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งนี้ นอกจากผลงานที่สร้างสรรค์ร่วมกับ จิตติ เกษมกิจวัฒนา อย่าง Our Place in Their World (2023-2024) ที่เคยจัดแสดงในนิทรรศการ The Spirits of Maritime Crossing ในมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ 60 ที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ซึ่งถูกนำกลับมาแสดงในเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งนี้แล้ว

นักรบยังนำเสนอผลงานอีกสองชุดในสองสถานที่แสดงงานอีกด้วย

Our Place in Their World (2023 – 24) จิตติ เกษมกิจวัฒนา และ นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

เริ่มต้นจากผลงานที่จัดแสดงในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในพื้นที่เดียวกันกับผลงาน Our Place in Their World อย่าง สีทันดรสันดาป (Fish, fire, fallout) (2024) ที่ปะติดปะต่อประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์ เข้ากับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกในคติไตรภูมิ และวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมในยุคแอนโทรโพซีน (Anthropocene) เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านผลงานประติมากรรมกลไก สื่อผสม วิดีโอจัดวาง ที่น่าสนใจก็คือ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่แสดงงาน และให้หยิบยืมศิลปวัตถุและโบราณวัตถุในคลังสะสมของพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงร่วมกับงานศิลปะร่วมสมัยในนิทรรศการ (รวมถึงในงานชุดนี้) อีกด้วย โดยนักรบกล่าวถึงที่มาที่ไปและแนวคิดเบื้องหลังผลงานชุดนี้ของเขาว่า

“ทางอาจารย์อภินันท์ โปษยานนท์ ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ อยากให้ผมพูดถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่แสดงงานแห่งนี้ ผมจึงพยายามสำรวจเรื่องราวของพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ซึ่งเป็นพระที่นั่งเดิมภายในพระราชวังบวรสถานมงคล ที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระมหาอุปราช หรือวังหน้า โดยเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นธีมหลักของเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งนี้

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

ผมจึงหยิบยืมเรื่องราวของปลา ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่แห่งนี้มานำเสนอ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากข้อเขียนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในหนังสือพระราชพิจารณ์ ที่พูดถึงเรื่องราวของพระราชวังบวรสถานมงคล ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เขียนเอาไว้ว่า สิ่งที่น่าดูของพระราชวังแห่งนี้อย่างหนึ่ง คือสระน้ำที่มีปลาตัวใหญ่มากๆ ว่ายอยู่ ถ้าใครมาที่นี่ ก็ต้องมาดูสระนี้ ผมจึงเชื่อมโยงเรื่องราวของปลาเหล่านี้เข้ากับจิตรกรรมบนบานประตูกลางของพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ที่อยู่ตรงกันข้ามกับบัลลังก์ของพระราชวังบวรสถานมงคล จิตรกรรมบานประตูคู่นี้เป็นเรื่องราวปลาหลีฮื้อ (ปลาไน หรือปลาคาร์ป) ที่กระโดดข้ามประตูมังกร ซึ่งมีที่มาจากตำนานเทพปกรณัมจีน โดยด้านล่างของประตูเป็นภาพฝูงปลาที่พากันแหวกว่ายทวนกระแสน้ำไปยังประตูมังกร โดยเชื่อว่าปลาที่กระโดดผ่านประตูนี้จะกลายมาเป็นปลามังกร เมื่อปลามังกรว่ายทวนน้ำขึ้นไปอีกจะได้เป็นมังกรน้อย เมื่อว่ายไปสุดปลายทางก็จะได้เป็นมังกร 5 เล็บ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งจักพรรดิ บานประตูนี้ทำขึ้นในสมัยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพย์ วังหน้าในรัชกาลที่ 3 ผมตีความว่าบานประตูนี้สะท้อนถึงความปรารถนาลึกๆ ของวังหน้า หรือความปรารถนาของปลาหลีฮื้อที่รอวันเป็นมังกร

เมื่อกลับไปดูประวัติศาตร์ที่ผ่านมา ในบรรดาวังหน้า 6 พระองค์ ก็มีเพียงแค่รัชกาลที่ 2 พระองค์เดียว ที่ได้เถลิงถวัลย์เป็นพระมหากษัตริย์อย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ถือเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 รองจากรัชกาลที่ 4 เมื่อกลับไปดูเรื่องราวต่างๆ ของวังหน้า ก็ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับความถูกกดทับ ถูกกีดกันไม่ให้ทัดเทียมวังหลวงในหลากหลายมิติ ผมจึงจำลองปลาหลีฮื้อเหล่านั้นมาติดตั้งเอาไว้ในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน โดยทำเป็นประติมากรรมปลาหลีฮื้อ ติดกลไกขยับเขยื้อนปากและครีบของปลาช้าๆ ให้ดูคล้ายกับเป็นปลาที่กำลังหายใจรวยริน ราวกับเป็นปลาที่กระโดดไม่ผ่านประตูมังกร

ปลาเหล่านี้มิได้สื่อความหมายถึงผู้ครองตำแหน่งวังหน้าเท่านั้น แต่หมายจะให้เป็นตัวแทนของผู้พ่ายแพ้และถูกกดทับในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาอีกด้วย”

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา
สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

“ปลาเหล่านี้มีทั้งสิ้น 7 ตัว (ปลาในตู้แสดงงานใหญ่ 4 ตัว และปลาครึ่งตัว ในตู้แสดงงานเล็ก 3 ตัว) ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวของปลาใหญ่ ที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรที่รายรอบทวีปทั้ง 4 ในคติไตรภูมิ (ซึ่งเชื่อมโยงกับสมุดภาพไตรภูมิพระร่วงฉบับจำลองที่จัดแสดงอยู่กลางพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน) ที่เล่าเรื่องราวของจักรวาลที่ดำเนินไปเรื่อยๆ เมื่อผู้คนเริ่มเสื่อมศีลธรรม จักรวาลเริ่มเสื่อมสมดุล พระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 ดวง เป็น 2 ดวง (ซึ่งเชื่อมโยงกับผลงาน Our Place in Their World ของนักรับและจิตติที่จัดแสดงอยู่ในพื้นที่เดียวกัน) จนสุดท้ายพระอาทิตย์ขึ้นเป็น 7 ดวง แผดเผาให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้มตาย มหาสมุทรเหือดแห้ง ปลาใหญ่ 7 ตัวล้วนมอดไหม้ ขับไขมันในร่างกายออกมาท่วมโลก จนกลายเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดการลุกไหม้ เผาผลาญทุกสิ่ง แม้กระทั่งเขาพระสุเมรุ ตลอดจนทั้งจักรวาลให้สูญสิ้นลง และเวียนว่ายตายเกิดขึ้นใหม่ด้วยวิธีเดิมอย่างไม่รู้จบ

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

ผมยังเชื่อมโยงเรื่องราวนี้เข้ากับวิดิโอของ เชฟป้อม (ม.ล.ขวัญทิพย์ เทวกุล) ที่กำลังสาธิตการทอดปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยยุคปัจจุบัน ตัดสลับกับภาพจากสมุดภาพไตรภูมิพระร่วง และภาพบานประตูของพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ที่เป็นรูปปลาหลีฮื้อ การที่เชฟป้อม ผู้มาจากสายตระกูลวังหลวง มาทอดปลาในพระราชวังของวังหน้า ก็เป็นการทิ้งเชื้อให้เกิดการตีความในแง่มุมต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ

ตรงกันข้ามยังมีตู้แสดงงานเล็ก ที่จัดแสดงภาพถ่ายเก่าของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในครั้งที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์หลวง และจัดแสดงสิ่งของต่างๆ รวมถึงเหล่าบรรดาสัตว์สตัฟฟ์ จนดูคล้ายกับเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ซึ่งเชื่อมโยงกับประติมากรรมรูปปลากลไกที่ผมนำมาจัดแสดงอยู่ในตู้ตรงกันข้าม ส่วนอีกภาพเป็นภาพถ่ายพระที่นั่งศิวโมกขพิมานหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเชื่อมโยงไปกับตำนานไฟไหม้จักรวาลในคติไตรภูมิอีกด้วย”

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา
สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

“ในผลงานยังมีวิดีโอจัดวางที่ถ่ายภาพการฉีดยาฆ่าแมลงก่อนการจัดเทศกาลศิลปะ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งนี้ ผมคิดว่าห้วงขณะที่พระที่นั่งศิวโมกขพิมานอยู่ในสภาวะโล่ง ไร้ผู้คนนั้นเป็นอะไรที่ขลังดี ซึ่งเป็นสภาวะที่ใกล้กับในยุคอดีต ที่สถานที่แห่งนี้เคยเป็นท้องพระโรงมากที่สุด

บนกระจกของตู้แสดงงานยังมีข้อความที่ผมหยิบมาจากวรรณคดีเรื่อง นิพพานวังหน้า (หรือนิพพานวังน่า) ที่แต่งโดย พระเจ้าราชวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากัมพุชฉัตร พระธิดาของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลที่ 1 ที่รำพึงรำพันถึงความโศกเศร้าเมื่อพระบิดาสวรรคต (พระที่นั่งศิวโมกขพิมานยังเป็นที่ตั้งพระบรมโกศของวังหน้าพระองค์นี้อีกด้วย) ซึ่งวรรณคดีเรื่องนี้เคยถูกมองข้ามโดยวังหลวง ผมจึงอยากหยิบเอาเสียงของผู้หญิงในวังหน้ามานำเสนอในผลงานชุดนี้

บนกระจกยังมีข้อความอื่นๆ ที่ปะติดปะต่อจากข้อความในวรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับประวัติวังหน้า ตำนานของปลาหลีฮื้อในไตรภูมิ ความขัดแย้งระหว่างวังหน้ากับวังหลวง และข่าวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในอินเตอร์เน็ตเข้าไว้ด้วยกัน ผมยังแอบใส่ข้อความจากกวีนิพนธ์ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ลงไปด้วย เพราะพื้นที่เกิดเหตุการณ์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เองแต่เดิมก็เคยเป็นเขตพระราชฐานวังหน้า หรือพระราชวังบวรสถานมงคล มาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์”

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา
สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ปฏิพล รัชตอาภา

การปะติดปะต่อประวัติศาสตร์ การเมือง คติความเชื่อ ตำนาน เรื่องเล่า และความทรงจำที่ รายล้อมอยู่ในพื้นที่แสดงงาน ในผลงานของนักรบชุดนี้ ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับการคอลลาจ อันเป็นทักษะเฉพาะตัวของเขา แต่เป็นการคอลลาจที่ไม่ได้ทำเพียงแค่บนพื้นที่ 2 มิติ หรือแม้แต่วัตถุ 3 มิติ หากแต่รวมเอามิติที่ 4 หรือ มิติของพื้นที่และเวลา ทั้งอดีตและปัจจุบัน มาปะติดปะต่อร้อยเรียงเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน แนบเนียนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างยิ่ง

ผลงาน สีทันดรสันดาป (Fish, fire, fallout) โดย นักรบ มูลมานัส จัดแสดงในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024 ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2567-5 กุมภาพันธ์ 2568 ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดทำการ วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (ยกเว้นเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์) ค่าเข้าชม คนไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท เด็ก, นักเรียน, นักศึกษา, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และพระสงฆ์ เข้าชมฟรี ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bkkartbiennale.com/

ขอบคุณภาพจากศิลปิน นักรบ มูลมานัส •

สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ภิรมณ ลานตวน
สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ภิรมณ ลานตวน
สีทันดรสันดาป (2024) นักรบ มูลมานัส, ถ่ายภาพโดย ภิรมณ ลานตวน

 

อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ | ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์