5 ทศวรรษ มิตรภาพ ‘อากู๋’ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม มีต่อ ‘อรุณ วัชระสวัสดิ์’ เสียดายสังคมไทย ไม่ยกย่อง-ส่งเสริมการ์ตูน

5 ทศวรรษ มิตรภาพ ‘อากู๋’ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม

มีต่อ ‘อรุณ วัชระสวัสดิ์’

เสียดายสังคมไทยไม่ยกย่อง-ส่งเสริมการ์ตูน

“การมอบรางวัลครั้งนี้เพื่อเป็นการยกย่องคุณอรุณ วัชระสวัสดิ์ ผมเห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากผลงานของอรุณเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องพึงมีไว้และเป็นเรื่องที่ดี”

คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม หรืออากู๋ ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ พร้อมแสดงความยินดี คุณอรุณ วัชระสวัสดิ์ ในโอกาสได้ “รางวัลมติชนเกียรติยศ”

ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เล่าว่า ผมกับคุณอรุณรู้จักกันประมาณ 50 ปี ครั้งแรกที่พบอรุณซึ่งตอนนั้นทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์พิฆเนศ ส่วนผมเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยากจะทำหนังสือ ชื่อ “รมณ์” ก็เอาไปพิมพ์ที่โรงพิมพ์พิฆเนศ เพราะโรงพิมพ์พิฆเนศตอนนั้นเป็นโรงพิมพ์ที่มีความคิด มีอุดมการณ์หลายอย่างที่ใกล้เคียงกัน โดยมีคุณสุจิตต์ วงษ์เทศ เป็นผู้จัดการใหญ่ คุณอรุณน่าจะเป็นฝ่ายศิลป์

ในช่วงนั้นผมมีโอกาสล้อมวงสนทนา-กินข้าว กับคุณสุจิตต์, คุณวาณิช (จรุงกิจอนันต์) และคุณอรุณ พวกเรามีร้านประจำ เข้าใจว่าชื่อร้านนำชัย เป็นร้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพิมพ์ ปรากฏว่าผมกับคุณอรุณ และคุณวาณิช คุยกันถูกคอ ก็กลายเป็นเพื่อนกัน หลังจากนั้น นอกจากเราจะเจอกันที่โรงพิมพ์พิฆเนศ ผมก็มีโอกาสชวนทั้งคุณอรุณ คุณวาณิชไปกินข้าวเย็นกันบ่อยๆ จึงกลายเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกันมาก เจอกันแทบทุกวันเลย

เราคุยกันได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายๆ เรื่องเล่าให้ใครฟังไม่ได้ แต่กับเพื่อนเราเล่าได้ เราสารภาพได้ เพราะอยากฟังความเห็น อยากฟังความรู้สึก เราก็แลกเปลี่ยนกัน คือเปรียบเสมือนการเอาความลับมาเล่าสู่กันฟัง ผมก็ทราบเรื่องเขา

มีช่วงหนึ่งหลังจากนั้นผมมาทำสำนักพิมพ์อยู่ที่บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง มีพี่สุจิตต์เข้ามาช่วย รวมทั้งคุณอรุณกับคุณวาณิชมาช่วยด้วย คุณอรุณต้องทำหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “เพื่อนเดินทาง” เป็นนิตยสารมีสโลแกนคือ “ถ้าคุณเหงาเราคือเพื่อน” เรา 3 คนอยู่ด้วยกันเป็นประจำ คุยเรื่องต่างๆ นานา

จนกระทั่งวันหนึ่งคุณวาณิชไม่อยู่แล้ว ผมกับคุณอรุณก็ยังสนิทสนมกันและยังคงไปกินข้าวเย็นกันบ่อยๆ เราคุยกันหลายเรื่องหลายหลากสลับสับเปลี่ยนกันไป

 

“อรุณ วัชระสวัสดิ์” ในสายตา “ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” เป็นอย่างไร

“อรุณ” เป็นคนที่มีความคิดค่อนข้างลึกซึ้ง เพราะเขาสนใจเรื่องธรรมะและเป็นคนจับประเด็นเก่ง เมื่อผมมีปัญหามักจะให้อรุณช่วยวิเคราะห์ วิจารณ์ ซึ่งอรุณจะให้คำตอบผมได้อย่างดีมากๆ

จนรู้สึกว่าเป็นคนที่น่าปรึกษาด้วย มีอะไรที่เราเองคิดไม่ตกปลงไม่ลง ถ้าคุยกับอรุณก็น่าจะทำให้เกิดความสว่าง เกิดความชัดเจนขึ้น

แล้วเรื่องความจริงใจก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เพราะถือเป็นเพื่อนรัก เพื่อนสนิทที่ดีคอยช่วยเมื่อเราเกิดความไม่สบายใจ เช่นกันเมื่อเขามีอะไรที่ไม่สบายใจเขาก็เล่าให้ผมฟัง

ผลงานการ์ตูนของอรุณให้อะไรกับสังคมไทย?

คุณอรุณเป็นพวกศิลปากร เขาเป็นคนลายมือดี เป็นคนมีฝีมือในเชิงศิลป์ เขาเป็นคนออกแบบตัวหนังสืออักษรไทยที่เป็นหัวกลม ที่ใช้กันอยู่ในมติชนและน่าจะใช้กันทั่วไป ซึ่งเป็นตัวหนังสืออักษรไทยที่สวยที่สุด นั่นคืออรุณเป็นคนออกแบบ คือน้อยคนที่เป็นนักการ์ตูน อรุณเป็นคนที่พัฒนาฝีมือตัวเอง ซึ่งนักการ์ตูนมักจะมีลายเส้นที่มีเอกลักษณ์ของตัวการ์ตูนไปตลอดชีวิต

แต่ของอรุณไม่ใช่ อรุณก็พัฒนารูปแบบของเขาไปเรื่อยๆ เขาไม่ได้ยึดติดกับอะไร

ช่วงหนึ่งมีการใช้แอร์บรัช (Airbrush) หรืออุปกรณ์สำหรับพ่นสี ช่วงนั้นตัวรูปการ์ตูนก็จะเป็นหัวโตหน่อยเพื่อออกแบบปกหรืออะไรก็แล้ว แต่อรุณพัฒนาลีลาของเขาไปเรื่อย

ซึ่งตอนนี้คงจะไปทางด้านดิจิทัล เขาก็เคยเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เปลี่ยนสีได้ง่ายมากแล้วรูปแบบของเขาก็เปลี่ยนไป

ทุกวันนี้ผมก็บอกเขาว่าการ์ตูนการเมืองของอรุณไม่ค่อยขำเลย อรุณก็บอกว่าพยายามให้มันขำอยู่ แล้วแต่ใครจะขำหรือไม่ขำ เขาก็ไม่รู้ แต่งานของอรุณขนาดนี้ไม่ค่อยเป็นการ์ตูนลายเส้น แต่เป็นการ์ตูนที่มันเป็น artwork ไปแล้ว คือหมายความว่ารูปการ์ตูนที่เขามีอยู่ ต้นฉบับสามารถนำมาแขวนที่บ้านได้ เป็นงานที่ประณีตมาก แล้วเจ้าของภาพก็คงรู้สึกมีความหมาย

ผมเคยถามเขาว่าช่วงหลังบางครั้ง ผมดูการ์ตูนของอรุณไม่ออก เขาบอกไม่ต้องห่วงอะไร คิดอย่างไรก็ได้เขาอิสระ อรุณบอกว่าเขียนการ์ตูนออกไปแล้วเขาเล่าตามใจผู้อ่านผู้ดูจะตีความหรือจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ แล้วความยากของอรุณคือเขาไม่ได้เขียนการ์ตูนหลายช่อง การ์ตูนของอรุณช่องเดียวแต่ซ่อนความไว้ เก็บความไว้มาก

ผมว่าผลงานงานอรุณกับสังคมไทยด้วยความที่ทั้งฝีมือ ทั้งความคิดความอ่าน ผมคิดว่าอรุณเป็นคนที่เขียนการ์ตูนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความตั้งหลักไว้ที่เป็นสิ่งที่ดีต่อสังคม เขาไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ลำเอียง เขาว่าไปตามสิ่งที่คิดว่าควรจะเป็น สิ่งที่คิดว่ายุติธรรม สิ่งที่คิดว่าสมเหตุสมผล (make sense) บนฐานความเป็นกลางของเขา

ซึ่งเดี๋ยวนี้บางคนบอกว่าไม่มีความเป็นกลางหรอก แต่ผมว่าสิ่งที่อรุณทำอยู่นั้น เขามีสิ่งนั้นอยู่ แล้วอรุณมีความเมตตาด้วย ไม่ได้จิกตีด้วยอารมณ์ เป็นคนที่ยังมีสติอยู่ในการเขียน ในการนำเสนอผลงานสู่สังคม

ผมว่างานของอรุณมีคุณค่าตรงไปตรงมา ณ ตอนนี้หาไม่ได้แล้วนะเท่าที่ดู

อยากเห็นวงการนักวาดการ์ตูน-การ์ตูนสะท้อนสังคมอย่างไร

เท่าที่ผมเคยสังเกตดูน่าเสียดายสังคมไทยไม่ค่อยยกย่องหรือไม่ค่อยส่งเสริมเรื่องการ์ตูน ถ้าสังเกตดูทั่วโลก การ์ตูนนี่ยิ่งใหญ่มากนะ อย่างดิสนีย์ การ์ตูนดิสนีย์เราก็ทราบกันอยู่เป็นรูปแบบหนึ่งในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดมาจาก Comic Book หรือมังงะญี่ปุ่น สามารถออกมาเป็นแอนิเมชั่นที่อุตสาหกรรมใหญ่โตที่สุดในญี่ปุ่นแล้วขยายไปต่างๆ นานา

แต่สังคมไทยเราไม่ได้ยกย่องส่งเสริม ผมเคยถามว่าบ้านเราไม่มีศิลปินแห่งชาติที่เป็นนักการ์ตูน เขาบอกว่านักการ์ตูนเขาไม่นับ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายและเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ

ผมว่าถ้าเราส่งเสริมกันอย่างจริงจัง มันจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เพราะวงการการ์ตูนไม่ได้รับการยกย่องหรือได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร เพราะฉะนั้น น่าจะส่งเสริมครับ

การมอบรางวัลครั้งนี้เพื่อเป็นการยกย่อง ผมก็เห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากผลงานของอรุณเป็นสิ่งที่สังคมไทยพึงมีไว้แล้วมีอยู่ก็จะเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว

ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม กล่าวปิดท้ายว่า ขอแสดงความยินดีกับคุณอรุณ วัชระสวัสดิ์ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ควรได้รับรางวัลหรือได้รับการยกย่องมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำงานมาเหนื่อยยากแล้วมีคนเห็น มีคนรู้สึก ซึ่งจริงๆ โดยทั่วไปถึงไม่ได้รับรางวัล ทุกครั้งที่คุณอรุณไปกับผม แล้วผมแนะนำว่าคือ คุณอรุณ วัชระสวัสดิ์ เป็นนักการ์ตูน ทุกคนก็ตื่นเต้น

ผมรู้สึกว่า อารมณ์ความรู้สึก สีหน้าส่วนใหญ่ของผู้คนที่พบปะเขาก็ให้ความศรัทธานับถือ และให้เกียรติในความเป็นนักการ์ตูนที่มีฝีมือและมีความคิดที่ดี

ชมคลิป