ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | อาชญากรรม |
เผยแพร่ |
อึมครึมอยู่หลายสัปดาห์ ในที่สุดก็ชัดเจนแล้วว่ามหากาพย์คดี ดิไอคอน กรุ๊ป มีพระเอก ‘ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์’ ร่วมอยู่ด้วย ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ออกมาเผยว่าได้ออกหมายเรียกฟิล์มให้มาพบเพื่อแจ้งข้อหา “พยายามกรรโชกทรัพย์”
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่กระแสการแฉคลิปเหล่านักร้องเรียน นักการเมือง รุมตบทรัพย์เหล่าบิ๊กบอส แห่งดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อแลกกับการสามารถทำธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น ‘หนุ่ม กรรชัย’ ได้เปิดคลิปหลักฐาน บทสนทนาระหว่าง ฟิล์ม รัฐภูมิ, พัช-กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และ บอสปัน-ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ที่มีการเจรจาพูดคุยกัน โดยทั้งฟิล์มและพัชพูดคุยกับบอสปัน เพื่อจะให้บอสพอลมาออกรายการโหนกระแส แต่มีค่าใช้จ่ายในการออกรายการ 20 ล้านบาท และในรายการหนุ่มจะพูดเพื่อหาทางลงให้บอสพอล โดยจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ไม่เพียงแค่นั้น ‘หนุ่ม กรรชัย’ ยังแฉคลิปเสียงที่กฤษอนงค์คุยกับบอสพอล อ้างชื่อ รมต.น้ำ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลการทำงานของ สคบ. ว่าจะให้ตนเข้าไปดูแล รับตำแหน่งที่มีอำนาจในการจัดการธุรกิจขายตรง ในการจัดประชุม สคบ.ทั้งหมด แต่ผลงานมันจะเป็นของรัฐมนตรีน้ำ เงินเดือนที่ได้มาต้องเอาให้พ่อของรัฐมนตรีน้ำ
เจออ้างชื่อแบบตรงๆ เช่นนี้เป็นใครก็ต้องควันออกหู รมต.น้ำ สั่งดำเนินคดีแจ้งเอาผิดกฤษอนงค์ ซึ่งก่อนหน้าถูกแจ้งจับในคดีตบทรัพย์บอสพอลอยู่ก่อนแล้ว จนเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม ที่บ้านพักย่านปทุมธานี เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และไม่ได้รับการประกันตัวต้องเข้าไปนั่งตบยุงอยู่ในเรือนจำ
ส่วนพระเอกฟิล์ม ก็พยายามชี้แจงโดยรับว่าเป็นเสียงของตน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มีการตัดต่อคลิปเสียง
พระเอกฟิล์มเปิดแถลงข่าวว่า ตนเป็นแค่บริษัทที่เข้าไปรับงานกับผู้ว่าจ้างงาน เมื่อจ้างงานเรามา ก็รับงานตรงนั้น ตนเองรู้จักกฤษอนงค์ตั้งแต่ช่วงที่ทำพรรคการเมือง โดยได้จ้างให้บริษัทของตนเองไปโปรโมตพรรคการเมือง
กระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กฤษอนงค์ได้ติดต่อมาว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป มีงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อให้ทำแผนการโปรโมตบริษัท
ซึ่งตอนนั้นตนเองได้สอบถามเรื่องแผนธุรกิจของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก็มองว่าเป็นธุรกิจที่ดี และน่าจะโปรโมตได้ไม่ยาก แค่ออกรายการก็น่าจะทำให้คนรู้จักบริษัทมากขึ้น
ซึ่งตอนนั้นบรรดาบอสทั้งหลายได้ไปออกหลายรายการแล้ว แต่ดูเหมือนสะเปะสะปะ ตนเองจึงแนะนำเสนอแผนโปรโมตบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ต่อกฤษอนงค์ไป
สำหรับคลิปเสียงดังกล่าวนี้ ที่มีการเผยแพร่ออกมา เกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บอสปันได้เดินทางไปหากฤษอนงค์ที่ทำงานในช่วงเวลากลางคืน แล้วกฤษอนงค์โทรศัพท์มาหา ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้จักกับบอสปัน จากนั้นก็ได้คุยประชุมผ่านโทรศัพท์กัน โดยบอสปันสอบถามเรื่องแผนการโปรโมตทบริษัทและสินค้า และถามว่าใช้งบประมาณเท่าไหร่
ซึ่งตัวเองก็รับทราบอยู่แล้ว ว่าทางบริษัทมีงบประมาณ 20 ล้านบาท จ่ายด้วยเงินสด จึงได้ตอบไปว่า 20 ล้านบาท
ตอนนั้นกฤษอนงค์และบอสปัน ถามซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งไม่รู้ว่าถามซ้ำเพราะอะไร และในช่วงนั้นเริ่มเกิดการร้องเรียน มีความไม่ชอบมาพากลของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปแล้ว แต่กฤษอนงค์บอกว่า ดิไอคอน กรุ๊ป ถูกกลั่นแกล้ง ถูกใส่ร้าย จึงได้เสนอให้เข้าไปชี้แจงผ่านรายการทางโทรทัศน์ เช่น รายการโหนกระแส
ที่ยกตัวอย่างรายการโหนกระแส เพราะว่าเป็นรายการใหญ่ น่าเชื่อถือ และมีประชาชนติดตามจำนวนมาก ถ้าได้ไปออกรายการโหนกระแส จะเป็นผลดีต่อตัวเอง
ซึ่งตอนที่แนะนำให้ไปออกรายการทางโทรทัศน์ ไม่รู้ว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป มีปัญหาอะไร
ฟิล์มยืนยันว่าในคลิปเสียงตนไม่ได้ขู่เรียกเงิน หรือตบทรัพย์กับใครทั้งนั้น เป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทางให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการ ซึ่งคลิปเสียงการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีคดีความ และไม่ได้มีเจตนาไปช่วยผู้ที่กระทำความผิด
“สรุปแล้ว ผมก็ไม่ได้รับงานนี้ บริษัทเองก็เสียหาย วันนี้ตัวผมเองก็เสียหาย เสียดายตรงที่ว่าเครดิตที่ผมสร้างมา ว่าผมไปเกี่ยวข้องอะไร ซึ่งผมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรเลยกับดิไอคอน ผมเป็นแค่คนหนึ่งที่ไปรับงานจากกฤษอนงค์ แค่นั้นเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาโทร.มาหาผมทำไม โดยการที่ผมไม่ได้โทร.ไปหาเขา เขา (บอสปัน) วิ่งมาที่ออฟฟิศกฤษอนงค์ อันนี้ตามที่เขาเล่าให้ฟัง แล้วเขาก็โทร.มาหาผม แล้วจู่ๆ เขาก็มาถามผมในคำถามเดิมๆ ว่า คือในสิ่งที่เขาทำมีขั้นตอนอะไรบ้าง เราเลยไม่ได้เอะใจ ว่าเขาจะอัดเสียงหรืออะไร ก็ได้พูดตามความจริงไป ทั้งหมดก็อยู่ในคลิปเสียงนั้นแหละครับ ไม่มีสักคำเลยที่ผมไปขู่ หรือกรรโชกทรัพย์อะไร เบ็ดเสร็จผมไม่ได้งาน แล้วก็เสียชื่อเสียงอีก วันนี้เลยเอาความบริสุทธ์ใจมาบอกกับทุกคนเท่านั้นเอง” ฟิล์ม รัฐภูมิ กล่าว
ฟิล์มเผยอีกว่า อยากจะขอโทษ “หนุ่ม กรรชัย” ที่เคยเอาชื่อไปแอบอ้าง ว่าจะพามาออกรายการโหนกระแสได้ ที่ผ่านมา หนุ่ม กรรชัย ได้โทรศัพท์มาหาตนเองแล้ว และได้ตำหนิค่อนข้างเยอะ ซึ่งตัวเองก็รับฟังและขอโทษไป เพราะมันปากและยอมรับว่าอยากได้งาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้งาน ตัวเองและบริษัทได้รับความเสียหาย
ส่วนกรณีที่หนุ่ม กรรชัย ไปแจ้งความดำเนินคดี ตัวเองก็พร้อมเข้าชี้แจง ไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งก็ได้ให้ทนายความรวบรวมข้อมูล และข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หลังพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เดินทางเข้าออกเรือนจำเพื่อสอบสวนปากคำเหล่าบอสๆ อยู่หลายรอบ ในที่สุดก็สรุปได้ว่าในพฤติกรรมของ ‘ฟิล์ม’ ไม่ใช่ “พยายามฉ้อโกง” แต่เข้าข่ายความผิดข้อหา “พยายามกรรโชกทรัพย์”
กระทั่งวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความชัดเจนในการดำเนินคดีกับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม กรณีคลิปเสียง เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป 20 ล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ไปขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ‘ฟิล์ม’
แต่ศาลไม่อนุมัติ โดยพิจารณาให้ออกเป็นหมายเรียกแทน เพราะศาลมองว่าเป็นข้อหา “ฉ้อโกง” ไม่ใช่ “พยายามกรรโชกทรัพย์” ตามที่พนักงานสอบสวนยื่นขอไป
ดังนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียก ‘ฟิล์ม’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐาน “พยายามกรรโชกทรัพย์” แต่หากเจ้าตัวจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อนก็สามารถทำได้ แต่หากพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก 2 ครั้งแล้วยังไม่มา ก็จะต้องพิจารณาเรื่องออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ข้อหา “พยายามกรรโชกทรัพย์” ที่ออกหมายเรียกไปนั้น เป็นข้อหาตามที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนหลังการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วจะแจ้งข้อหา “ฉ้อโกง” หรือ “พยายามกรรโชกทรัพย์” ก็ให้ไปดูกันที่รายละเอียดการสอบสวน
ส่วนคดีที่ ‘หนุ่ม กรรชัย’ แจ้งความเอาผิด ‘ฟิล์ม’ ในข้อหา “หมิ่นประมาท” นั้น พนักงานสอบสวนอาจจะสอบปากคำในทุกคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปในคราวเดียวกันก็ได้
ขณะที่ ‘ฟิล์ม’ ก็ยืนยันว่าพร้อมต่อสู้ข้อกล่าวหา ไม่คิดหลบหนี
โดยโพสต์เฟซบุ๊กว่า ขออนุญาตแจ้งให้ทุกคนทราบนะครับ เพื่อจะไม่กังวลใจไปกับข่าว เนื่องด้วยเหตุการณ์ที่อาจจะทำให้ทุกท่านไม่สบายใจ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้ให้ทีมทนายความยื่นหนังสือเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่กองปราบปรามไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนากระทำความผิดใดๆ และพร้อมที่จะไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงและให้การ แก้ข้อกล่าวหา ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรอรับเอกสารหมายเรียกและดำเนินการในขั้นตอนถัดไป
และที่ผมไม่ได้ออกมาพูดก่อนหน้านี้เพราะมีข้อมูลหลายอย่าง ผมจำเป็นต้องเก็บไปให้ข้อมูลในชั้นศาล ขอบคุณสำหรับความห่วงใยที่ทุกท่านมีให้ผมครับ ความจริงอาจต้องใช้เวลา แต่มันคุ้มค่าแก่การรอคอยครับ
ไล่เช็กบิลไปทีละราย ทั้งนักร้องเรียน นักการเมือง ดารา ใครที่เข้าไปมีเอี่ยวกับคดีมหากาพย์คดีนี้ กำลังถูกกระชากหน้ากากออกมาทีละคน
ภาพเทวดาตัวเป็นๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นทุกที
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022