ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | Technical Time-Out |
เผยแพร่ |
ปรากฏการณ์ที่ชวนตกอกตกใจในวงการฟุตบอลอังกฤษช่วงนี้คงไม่พ้นผลงานน่าใจหายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก 4 สมัยซ้อน เจอกับปัญหาฟอร์มการเล่นและผลงานน่าผิดหวังนานกว่า 1 เดือนเต็ม เริ่มต้นจากการปราชัยให้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-2 ในศึกคาราบาวคัพ วันที่ 31 ตุลาคม
หลังจากนั้นก็แพ้ติดๆ กันถึง 5 นัด เป็นครั้งแรกของเรือใบสีฟ้าในยุคกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในชีวิตการทำหน้าที่โค้ชของยอดกุนซือชาวสเปนที่แพ้ต่อเนื่องขนาดนั้นอีกด้วย
หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ก็ยังไม่ฟื้น จนสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน ทีมไม่ชนะใครเลย 7 นัดติด และยิ่งเจ็บเมื่อปราชัยให้คู่แข่งแย่งแชมป์กับ ลิเวอร์พูล 0-2 ทำให้โดนทิ้งห่างเกิน 10 คะแนน
โอกาสลุ้นป้องกันแชมป์น่าเป็นห่วง แม้จะยังเหลือเกมเตะอีก 2 ใน 3 ของฤดูกาลก็ตาม
ปัญหาของแมนฯ ซิตี้นั้น เป๊ปชี้ว่าเป็นเรื่องปัญหาบาดเจ็บ เพราะมีนักเตะตัวหลักหลายคนที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรดรี้ กองกลางชาวสเปน เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ฤดูกาลล่าสุด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีม
อีกหนึ่งประเด็นที่นักวิจารณ์จี้จุดเยอะคือนักเตะแมนฯ ซิตี้ส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างมาก พวกเขาเติบโตมาด้วยกันในยุคทอง แต่สภาพร่างกายหลายคนเริ่มร่วงโรย ทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน ไม่สามารถลงสนามได้สม่ำเสมอเหมือนกัน
การมาของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวยิงชาวนอร์เวย์ ทำให้เรือใบยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำเมื่อ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่การที่เขาเป็นหน้าเป้าธรรมชาติ แทบไม่มีส่วนกับเกมรับ หรือช่วยเรื่องการเพรสซิ่ง ไล่บอลสักเท่าไร
ทำให้เป๊ปต้องปรับสไตล์การเล่นของคนอื่นเพื่อให้เข้ากับฮาแลนด์ จนบางครั้งก็อาจจะทำให้ขาดประสิทธิภาพในส่วนอื่น โดยเฉพาะเกมรับ
พอผลงานเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ นอกจากเรื่องอาการบาดเจ็บแล้ว สิ่งที่มีผลอย่างมากเวลานี้คือความมั่นใจที่กำลังดิ่ง ทั้งตัวนักเตะและโค้ช
เป๊ปแสดงให้เห็นถึงอาการหวั่นไหวอย่างหนักหลังเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเสมอ เฟเยนูร์ด 3-3 ทั้งที่ทีมขึ้นนำก่อนถึง 3-0 โดยหลังจบเกมดังกล่าว เขาโดนสื่อถามถึงรอยแผลข่วนบนศีรษะและสันจมูก ซึ่งเป๊ปตอบด้วยท่าทีที่ไม่เป็นตัวเองนักว่า อยากทำร้ายตัวเอง ก่อนหัวเราะแล้วลุกจากห้องแถลงข่าวไป
ในเวลาต่อมา เป๊ปต้องโพสต์โซเชียลมีเดียชี้แจงว่า ไม่ได้เจตนาจะสื่อว่าการทำร้ายตัวเองเป็นเรื่องเล็ก เพียงแต่โดนตั้งคำถามแบบไม่ทันตั้งตัว เลยตอบไปแบบนั้น จริงๆ แล้วเป็นเพราะเล็บยาว เวลายกขึ้นเกาก็เลยข่วนเป็นแผล
อาการหวั่นไหวของเป๊ปกลายเป็นประเด็นที่นักวิจารณ์หยิบยกขึ้นมาถกกันว่า ผลงานน่าผิดหวังต่อเนื่องของแมนฯ ซิตี้เวลานี้ได้เปิดด้านมืดของเป๊ปที่คนไม่คุ้นเคยขึ้นมา
เขาทำหน้าที่โค้ชมา 15 ฤดูกาล กับ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิก และแมนฯ ซิตี้ พาทีมคว้าแชมป์ลีกมา 12 สมัย และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย พร้อมกับแชมป์บอลถ้วยอีกมากมายในช่วงเวลาดังกล่าว
ด้วยผลงานยอดเยี่ยมเหล่านี้ ทำให้เป๊ปได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง และหลายคนก็บอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองในเรื่องใดๆ อีก
อย่างไรก็ตาม กรณีล่าสุดชวนให้แฟนบอลและสื่อเริ่มตั้งคำถาม ทั้งเรื่องการรับมือกับสื่อ การออกอาการฉุนเฉียวเมื่อโดนจี้ถาม รวมถึงการถูกจับตามองว่าเมื่อไรที่ซิตี้จะตั้งหลักได้อีกครั้ง อาจทำให้เป๊ปเสียศูนย์ และเกิดคำถามว่า เขาอาจจะต้องพิสูจน์ตัวเองอีกรอบหรือไม่?
เดอะ มิร์เรอร์ สื่ออังกฤษ วิจารณ์เป๊ปแรงว่า รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างน่าผิดหวัง เขาแสดงออกเหมือนเด็กๆ เป็นเด็กที่โดนตามใจจนเคยตัว เพราะโค้ชทีมอื่นๆ โดยเฉพาะคนดังๆ ผลงานดีๆ ไม่มีใครแสดงออกแบบนี้เลย (อาจจะเว้น โชเซ่ มูรินโญ่ ไว้คน)
แฟนคลับของโค้ชคนอื่นก็เริ่มแซะเป๊ปแล้วว่า เคยชินกับการคุมทีมที่พร้อมสรรพสักนักเตะฝีเท้าดีและงบประมาณลงทุนสูง ไม่เคยต้องพิสูจน์ฝีมือจากสถานการณ์ที่ติดลบสักเท่าไร การจะยกย่องเขาเป็นยอดโค้ชเบอร์ 1 ของโลกอาจจะไม่เหมาะสมนัก
ถึงกระนั้น ฤดูกาลที่ผ่านๆ มา ก็ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยมีช่วงที่แมนฯ ซิตี้ฟอร์มสะดุดจนทำท่าจะพลาดแชมป์ แต่ก็พลิกสถานการณ์กลับมาจนได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีกได้ แม้ว่าฤดูกาลนี้โอกาสจะทำได้แบบนั้นอาจจะค่อนข้างยากกว่าที่ผ่านๆ มา แต่อย่างน้อยถ้าเขาพาทีมกลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ดี เรียกศรัทธาจากแฟนบอลคืนมาได้ในช่วงเวลาที่เหลือ ก็น่าจะเป็นการตอกย้ำเรื่องศักยภาพและฝีมือของเขาได้แบบไร้ข้อกังขา
และไม่ต้องถูกตั้งคำถามซ้ำแล้วว่า ตกลงเขาเป็น “ของจริง” จริงๆ หรือเปล่า? •
Technical Time-Out | SearchSri
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022