เช็กความพร้อม! ช้างศึกนิวเจนฯ เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

อีกไม่กี่อึดใจ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะเดินหน้าสู่การล่าแชมป์อาเซียนสมัยที่ 8 พร้อมลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 3 ครั้งติดต่อกันเป็นทีมแรก

ว่ากันด้วยเรื่องของการเตรียมความพร้อมกับทีมชุดนี้อาจจะต้องบอกว่าค่อนข้างติดลบ เพราะด้วยความที่การแข่งขันจัดขึ้นในช่วงที่ฟุตบอลลีกยังมีโปรแกรมตกค้างเหลืออยู่ ทำให้กว่าจะได้นักเตะมารายงานตัวกันแบบครบทีม ต้องรอจนถึงเกมที่ 2 เป็นอย่างน้อยในเกมกับมาเลเซีย

มาซาทาดะ อิชิอิ ได้นักเตะชุดแรกมาซ้อมแค่ 9 คนเท่านั้น แล้วค่อยๆ ทยอยกันมา แต่ในเกมกับติมอร์เลสเต จะไม่มีนักเตะถึง 5 คนคือ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, อภิสิทธิ์ โสรฎา, โจนาธาร เข็มดี, สุภโชค สารชาติ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ยังมีภารกิจกับต้นสังกัดทั้งหมด

ซึ่งเมื่อเห็นความไม่พร้อมในการเก็บตัวแบบนี้ก็รู้สึกน่าเสียดายที่ประเทศไทยยังคงไม่ก้าวข้ามกับดักความสำเร็จในระดับอาเซียน ที่คิดแค่ว่าต้องแชมป์เท่านั้น

ในเมื่อการแข่งขันที่ไม่อยู่ในปฏิทินฟีฟ่า และเป็นแค่การแข่งขันระดับภูมิภาค แทนที่จะใช้เป็นเวทีสำหรับการต่อยอดพัฒนาลูกหนังในบ้านเรา อย่างเช่น การผลักดันใช้ผู้เล่นดาวรุ่ง รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่จะสามารถต่อยอดไปสู่การแข่งขัน ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพได้ รวมถึงยังเป็นเวทีแข่งขันแบบระดับสูงที่จะทำให้นักเตะสามารถพัฒนาแบบก้าวกระโดดและขึ้นมาเป็นตัวแทนชุดใหญ่ในอนาคตได้เช่นกัน

แต่ในเมื่อเลือกทางที่เรียกผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่สโมสรจะให้ความร่วมมือปล่อยตัวมา ก็มีแต่ต้องเดินหน้าลุยพร้อมเป้าหมายแชมป์เท่านั้นเหมือนเคย

 

เมื่อดูรายชื่อที่ออกมาก็นับว่าแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง เพราะได้บรรดานักเตะที่เล่นอยู่ในต่างประเทศ ทั้ง นิโคลัส มิคเกลสัน, สุภโชค สารชาติ, เอกนิษฐ์ ปัญญา รวมถึง พาตริก กุสตาฟสันส์ มาอยู่ในทีมชุดนี้

ไล่กันตามตำแหน่ง ผู้รักษาประตู ถือว่าสบายใจได้ เพราะมีมือ 1 ของทีมในเวลานี้อย่าง ปฏิวัติ คำไหม อยู่กับทีม รวมถึงยังได้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่ประวัติการลงเล่นทีมชาติมีผลงานที่ทำให้แฟนบอลไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง ฉะนั้น ไม่น่ามีปัญหาใดๆ ในตำแหน่งนี้

แนวรับ หลายคนอาจจะเห็นว่าอิชิอิเรียกตำแหน่งฟูลแบ๊กมาค่อนข้างเยอะ อย่างฝั่งขวามีทั้ง เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด, มิคเกลสัน หรือ *ศุภนันท์ บุรีรัตน์* ส่วนฝั่งซ้ายมี อภิสิทธิ์, กฤษฎา นนทรัตน์ และ ทิตาธร อักษรศรี ถือว่าพร้อมทั้งตัวจริงและตัวสำรอง

เซ็นเตอร์แบ๊ก 4 คน ถือว่าฝีเท้าไม่ต่างกันทั้งหมด ดีที่สุดในชุดนี้เวลานี้คงต้องยกให้โจนาธาร เข็มดี กับพรรษา เหมวิบูลย์ ขณะเดียวกัน ศฤงคาร พรมสุภะ อยู่ในช่วงที่ฟอร์มดี แถมเกมอุ่นเครื่องล่าสุดก็ทำผลงานได้น่าพอใจ หรือ เฉลิมศักดิ์ อักขี เองก็เป็นตัวหลักของการท่าเรือ ฉะนั้น ตำแหน่งนี้ไม่น่ามีปัญหา

แดนกลาง จากรายชื่อชัดเจนว่าคู่ตัวจริงจะเป็น วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เอเชี่ยนคัพ ขณะที่ขุมกำลังสำรองก็ไม่ขี้เหร่ วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ, เสกสรรค์ ราตรี หรือ อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ ล้วนทำผลงานได้ดีในลีก ฉะนั้น ต้องให้โอกาสในระดับทีมชาติบ้าง

ส่วนเพลย์เมกเกอร์ชุดนี้มีทั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เบนจามิน เดวิส หรือสุภโชค ที่แม้จะมาไม่ทันนัดแรก แต่นัดหลังๆ น่าจะช่วยทีมได้และเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดนี้เลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีเอกนิษฐ์ที่ตำแหน่งหลักอาจจะเป็นปีกแต่ก็หุบเข้ามาเล่นกลางเป็นเพลย์เมกเกอร์ได้เช่นกัน

ปีกทั้งสองฝั่ง ซ้ายมีเอกนิษฐ์ กับ อนันต์ ยอดสังวาลย์ ส่วนขวาใช้งาน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เป็นตัวหลักได้ หรือถ้าชุดสำรองอาจจะสลับเบน เดวิส มาขึ้นเกมทางด้านขวาได้เช่นกัน

หน้าเป้าตัวหลักน่าจะเป็นพาตริก ที่ฝีเท้าดีขึ้นหลังไปอยู่กับนารา คลับ ในเจ 3 มา ส่วน ธีรศักดิ์ เผยพิมาย จะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้มีดีแค่การเป็นซูเปอร์ซับเท่านั้น

 

ทีนี้มาดูคู่แข่งร่วมกลุ่มบ้าง กัมพูชาหรือติมอร์เลสเต อาจจะต้องบอกว่าทีมชาติไทยน่าจะเก็บชัยชนะได้ไม่ยาก ฉะนั้น คู่แข่งหลักของไทยน่าจะมีแค่มาเลเซียกับสิงคโปร์เท่านั้น

“เสือเหลือง” มาเลเซีย ชุดนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ มีการผสมทั้งตัวเก๋าและตัวดาวรุ่งเข้ามา ตัวหลักๆ ของชุดนี้คงหนีไม่พ้น เอเซเกล อเกวโร่, เอ็นดริก รวมถึงซาฟิก อาหมัด พร้อมกับดาวรุ่งอย่าง ดาริล ชาม, มูฮัมหมัด อาบู คาลิล และ เฟอร์กัส เทียร์นี่ ที่เล่นอยู่กับชลบุรี เอฟซี ในเวลานี้

ส่วนสิงคโปร์ ต้องบอกว่าทีมชุดนี้ค่อนข้างอ่อนลงไปเมื่อไม่มี 3 พี่น้องอย่าง อิรฟาน-อิคซาน และอิลฮาน ฟานดี้ ซึ่งสโมสรไม่ปล่อยตัวมาร่วมทีมทั้งหมด ตัวหลักของทีมชุดนี้จะนำโดย ฮาริส ฮารูน จอมทัพวัย 34 ปี, ฟาริส รามลี่ และไรฮาน สจ๊วต

ดูจากทีมร่วมกลุ่มในรอบแรกไม่น่าใช่งานยากของทีมชาติไทย ฉะนั้น จุดสำคัญน่าจะอยู่ที่รอบรองชนะเลิศที่น่าจะพบกับอินโดนีเซีย หรือเวียดนาม ทีมใดทีมหนึ่ง รวมถึงอาจจะรอบชิงชนะเลิศด้วย

 

ปัญหาของทีมชาติไทยเท่าที่เห็นเลยอยู่ที่ในการคว้าแชมป์อาเซียน 4 หนหลังสุดของประเทศไทย ทุกชุดจะต้องมี 4 ขุมกำลังหลักอย่าง “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา, “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “ตังค์” สารัช อยู่เย็น ติดทีมอยู่อย่างน้อย 1 คน

และหนล่าสุดที่ไม่มี 4 คนนี้ติดทีมเลย ก็คือปี 2018 และครั้งนั้นไทยตกรอบรองชนะเลิศ

ก็นับเป็นบททดสอบหนึ่งของมาซาทาดะ อิชิอิ ว่าจะสามารถพาทีมชุดนี้ ซึ่งถ้าจะมองว่าเป็นช้างศึกนิวเจนฯ ก็คงไม่ผิดนัก ไปสู่ถ้วยแชมป์อาเซียนได้หรือไม่

มารอดูคำตอบกันอีกครั้ง หลังจบทัวร์นาเมนต์ •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]