ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย | ประจำวันที่ 6-12 ธันวาคม 2567
• “ทางเลือก” ลดฝุ่น
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
ณ ห้องประชุมสงค์ธนาพิทักษ์ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ดร.จิตรา ชัยวิมล รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ร่วมเปิดตัวผู้ให้การสนับสนุนโครงการชุดบ่มเลี้ยงหัวเชื้อกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพย่อยสลายตอซังข้าว
จัดโดย บริษัท อาปิโก ฟอร์จจิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรเครือข่ายของ วว.
ภายใต้โครงการบริการวิจัยชุดบ่มเลี้ยงหัวเชื้อกลุ่มจุลินทรีย์ฯ ในพื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัดปทุมธานี
ทดแทนการเผาเพื่อลดฝุ่น PM 2.5
รองผู้ว่าการบริการอุตสาหกรรม วว. กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาสำคัญหนึ่งของการทำเกษตรกรรม
คือ การกำจัดตอซังและเศษวัสดุทางการเกษตรหลังฤดูเก็บเกี่ยวโดยวิธีการเผา
ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกเสื่อมโทรม
เนื่องจากเป็นการทําลายอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารในดิน
รวมถึงส่งผลกระทบเชิงลบต่อโครงสร้างดิน และยังก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ ส่งผลต่อสุขภาพของเกษตรกรและชุมชนโดยรอบ
วว. โดยห้องปฏิบัติการทดสอบการสลายตัวทางชีวภาพของวัสดุ ได้ประสบผลสำเร็จในการพัฒนากลุ่มจุลินทรีย์ BioD I (ไบโอดีวัน)
ที่มีประสิทธิภาพในการย่อยสลาย ทำให้ตอซังข้าวนิ่มภายในระยะเวลา 5-10 วัน ไถกลบได้ง่าย
เพิ่มธาตุอาหารในแปลงนา ส่งเสริมเจริญเติบโตของข้าว
และที่สำคัญเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ วว. ได้ยื่นจดสิทธิบัตรการออกแบบชุดบ่มเลี้ยงหัวเชื้อ “BioD I วว.”
รวมทั้งสามารถผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ฯ “BioD I วว.” ได้อย่างต่อเนื่อง
ช่วยลดต้นทุนในการจัดการตอซังข้าว และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
วว.ได้ร่วมมือจากสำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี โดยได้ศึกษาและทดลองนำไปใช้จริงแล้วมากกว่า 10 พื้นที่ในจังหวัดปทุมธานี
จากนั้นได้ต่อยอดความสำเร็จและนำไปสู่การขยายผลเป็นโครงการบริการวิจัยให้แก่บริษัทอาปิโกฯ ในการจัดสร้างชุดบ่มเลี้ยงหัวเชื้อกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพย่อยสลายตอซังข้าวจำนวน 15 ชุด
เพื่อติดตั้งในพื้นที่ของวิสาหกิจชุมชนทั้ง 7 อำเภอของจังหวัดปทุมธานี
สำหรับผลิตหัวเชื้อแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรนำไปขยายต่อเพื่อใช้จัดการตอซังข้าวหลังการเก็บเกี่ยวทดแทนการเผา
ซึ่งคาดว่าเมื่อการดำเนินงานโครงการแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับพื้นที่การทำนาได้ไม่ต่ำกว่า 168,000 ไร่ต่อปี
รวมถึงมีการจัดอบรมให้ความรู้และฝึกปฏิบัติวิธีการขยายหัวเชื้อ เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้งานได้เองในพื้นที่
คาดว่าจะมีเกษตรกรที่ได้รับการอบรมไม่น้อยกว่า 840 คน โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชนในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบความสำเร็จในการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคการเกษตร สามารถจัดการและแก้ไขปัญหาการเผาตอซังข้าวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการจากห้องปฏิบัติการทดสอบการสลายตัวทางชีวภาพของวัสดุ ได้ที่ Call center โทร. 0-2577-9000
หรือที่ระบบบริการลูกค้า “วว. JUMP”
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
เป็นงานวิจัย
ที่น่าส่งเสริม
และขยายวงกว้างออกไปให้มากสุด
เพราะนี่คือแนวทางที่ยั่งยืน
ทั้งการลดฝุ่น PM 2.5
และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
• ทางเลือก “หาคู่”
บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์ Bangkok Matching
สรุปสถิติด้านการหาคู่ เลือกคู่ ออกเดต ประจำปี 2024/2567
ดังนี้
สเป๊กอาชีพยอดนิยมที่หญิงไทย 99% ชื่นชอบมากที่สุดยังคงเป็นอาชีพเจ้าของธุรกิจ
อาชีพที่ได้รับความนิยมรองลงมาคืออาชีพแพทย์
ถัดจากนั้นก็คืออาชีพที่มีเกียรติ มีหน้าตาในสังคม เช่น ผู้พิพากษา ท่านทูต หรือข้าราชการระดับสูง
แต่อาชีพอย่างเดียว ก็ไม่สามารถมัดใจหญิงไทยได้ทีเดียว เพราะหญิงไทยจะดูภาพรวมด้านอื่นๆ ประกอบด้วยเช่นกัน
โดยหญิงไทยให้ความสำคัญตามลำดับจากมากไปน้อยดังนี้
1. อาชีพ
2. รายได้ ความมั่นคง
3. การศึกษา
4. บุคลิก
5. ระดับหน้าตา รูปลักษณ์โดยรวม
6. นิสัย
หญิงจะซีเรียสเรื่องการศึกษามากในการหาคู่คนไทยด้วยกัน
แต่หากเป็นต่างชาติ หากฐานะ การงานมั่นคง หญิงยินดีเปิดใจรับ แม้ไม่จบปริญญาตรีก็ตาม
หญิงส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับระดับหน้าตาของชายด้วย หากหน้าตาของชายไม่ผ่านมาตรฐานของหญิง หญิงพร้อมจะปฏิเสธ
สำหรับชาย 80% มักไม่เลือกอาชีพของหญิง
แต่อาจมีระบุระดับรายได้ของหญิงไว้บ้าง เพื่อจะได้มั่นใจว่าหญิงมีการงานทำ เลี้ยงดูตนเองได้
โดยประมาณ 50% เลือกเงินเดือนหญิงที่ประมาณ 3 หมื่นบาทต่อเดือน
10% ระบุรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน
และอีกประมาณ 40% ที่ไม่สนใจเลยว่าหญิงจะมีรายได้เท่าใด ขอเพียงมีงานสุจริตทำ เลี้ยงตนเองได้ ก็เพียงพอแล้ว
ส่วนเรื่องการศึกษา
80% หญิงโสดต่างต้องการให้คู่ของตนจบปริญญาตรีขั้นต่ำ 15% ต้องการคู่จบปริญญาโท หรือเอก 5% คือจบต่ำกว่าปริญญาตรีได้ ถ้าการงาน ฐานะมั่นคง
80% ชายโสดไทยต้องการให้คู่ของตนจบปริญญาตรีขั้นต่ำ 5% ต้องการคู่จบปริญญาโท หรือเอก 15% คือจบต่ำกว่าปริญญาตรีได้
98% หญิงยังนิยมชายสูง 175 เซนติเมตร เป็นต้นไป 2% ชอบชายที่สูง 180 หรือ 185 เซนติเมตร ขั้นต่ำ
80% ชายทั้งไทย และต่างชาติชอบหญิงสูง 160 เซนติเมตร ขั้นต่ำ 20% ชอบหญิงสูงกว่า 160 เซนติเมตร
รูปร่าง
80% หญิงชอบชายรูปร่างสมส่วน หรือหุ่นอวบได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
85% ชายชอบหญิงรูปร่างเพรียว และสมส่วน
100% หญิงชอบชายบุคลิกดี ดู smart สะอาด แต่งตัวเป็น หรืออย่างน้อยๆ ก็แต่งตัวถูกกาลเทศะ
แนวหน้าตาที่ยังเป็นที่นิยมอันดับ 1 เสมอมา ตลอดกาล และคงจะตลอดไป สำหรับหนุ่มสาวโสดชาวไทยส่วนใหญ่ ยังคงเป็น ขาว หมวย ตี๋ สูง
50% ของชายมักระบุขอไม่รับ “แมช” กับฝ่ายหญิงที่ทำหน้าอก หรือหญิงที่ทำศัลยกรรมหน้าจนดูไม่ธรรมชาติ
บริษัทจัดหาคู่พรีเมียม
Bangkok Matching
ลงเรื่องหาคู่
ให้อ่านหลายครั้ง
และคงมีให้อ่านไปเรื่อยๆ-แฮ่ม
มิได้มีส่วนได้เสียกับบริษัทหาคู่ใดๆ
แต่อยากส่งเสริมการมี “คู่”
คู่ที่ร่วมกันสร้างครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ให้ดี
มีคุณภาพ •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022