ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โฟกัสพระเครื่อง |
เผยแพร่ |
“พระครูจันทสโรภาส” หรือ “หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร” อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงชุม และอดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เจ้าตำรับตะกรุดหนังเสืออันลือลั่น
เป็นศิษย์และมีศักดิ์เป็นหลานพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดใต้หรือวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระเกจิชื่อดัง
รวมทั้งเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง อีกทั้งมีความสนิทสนมอย่างมากกับหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จังหวัดนครปฐม
ว่ากันว่าเรียนวิชาทำตะกรุดหนังเสือมาจากสำนักเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีสหธรรมิกอีกหลายท่านที่พบปะในงานพุทธาภิเษก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น
สําหรับรูปหล่อ รุ่นแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2519 ลักษณะเป็นรูปหล่อโบราณ สร้างด้วยเนื้อโลหะทองเหลืองรมดำ โดยสร้างขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้กับลูกศิษย์ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
ด้านหน้า เป็นรูปจำลอง นั่งลักษณะมารวิชัยบนฐานเขียง ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า “พ่อเที่ยง”
ด้านหลัง มีอักขระภาษาไทยเขียนว่า “วัดม่วงชุม”
ด้านฐาน เรียบ ไม่มีอักขระใดๆ ในบางองค์อาจเห็นรอยอุดกริ่ง
นอกจากนี้ รูปเหมือน เนื้อชานหมาก ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2519 เช่นกัน ลักษณะเป็นรูปเหมือนทรงจอบ สร้างด้วยเนื้อชานหมาก มอบให้กับลูกศิษย์ จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
ด้านหน้า เป็นรูปจำลอง นั่งในลักษณะมารวิชัยบนฐานเขียง ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ
ด้านหลัง เป็นรูปยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ มีอักขระภาษาไทยว่า “หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม”
จัดเป็นวัตถุมงคลหายากในปัจจุบัน
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า เที่ยง ท่านกเอี้ยง เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ปีชวด ที่บ้านม่วงชุม ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2431 เป็นบุตรของนายเขียวและนางทองแคล้ว ท่านกเอี้ยง มีพี่น้องรวม 8 คน
ในวัยเด็ก มีอุปนิสัยชอบทางด้านชกมวย และรักความยุติธรรม เป็นคนพูดแบบตรงไปตรงมา ไม่เกรงกลัวใคร จึงเป็นที่รักของเด็กวัยเดียวกัน ยกให้เป็นพี่ใหญ่
พ.ศ.2452 อายุ 21 ปีบริบูรณ์ ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการ กลับมาอยู่บ้านประกอบอาชีพทำนา
อายุ 24 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดบ้านถ้ำ อยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมกับอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง แล้วย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดม่วงชุม วัดอยู่ใกล้บ้าน
เนื่องจากในวัยเด็กมีโอกาสเล่าเรียนไม่มาก เพราะขาดแคลนครูและห้องเรียน ยิ่งเรียนก็มีความสุขกับการเรียน ทำให้มีความแตกฉานไปในตัว
หลังศึกษาพระปริยัติธรรม และพิธีกรรมต่างๆ จึงเริ่มหันมาศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงปู่เปลี่ยน ในฐานะที่มีศักดิ์เป็นหลาน จึงได้รับความเมตตาเป็นพิเศษในการถ่ายทอดสรรพวิชาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านวิทยาคม จนมีความเชี่ยวชาญ
ชาวบ้านทั่วไปมักกล่าวขวัญว่า “ใครแขวนวัตถุมงคลหลวงพ่อเที่ยง แมลงวันไม่ได้กินเลือด” หมายความว่า คนนั้นหนังเหนียว แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก
แม้แต่หลวงปู่แย้ม พระเกจิอาจารย์ดังวัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ยังกล่าวยกย่องว่าเก่งกล้า โดยเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง ซึ่งเป็นพระอาจารย์หลวงปู่แย้ม โดยทั้งสองท่าน ต่างมีชื่อเสียงอย่างมากในการสร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ
เป็นพระของชาวบ้านชนบทโดยแท้ พูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ภาษาที่ใช้สื่อสารก็เหมือนหลวงพ่อคูณ เป็นภาษาไทยแท้ๆ ฟังไม่เพราะหู แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ญาติโยมที่ไปขอความช่วยเหลือจากท่านจะได้รับความเมตตาช่วยเหลือในทุกๆ เรื่องด้วยดี
จากการบอกเล่าของชาวบ้านกล่าวว่าชอบกีฬาชกมวยอย่างมาก การละเล่นนิยมลิเกและหนังตะลุง เป็นพระโบราณลูกทุ่งชนบท ชอบฉันหมากไม่เคยขาดปากเลย จึงเป็นที่มาของการสร้างพระเครื่องเนื้อชานหมากอันโด่งดัง
ลงมือสร้างอุโบสถเมื่อปี พ.ศ.2484 ค่อยๆ สร้างตามกำลังที่มี โดยไม่ได้เรี่ยไร เพราะไม่อยากเป็นภาระให้ชาวบ้าน
ช่วงนั้นประเทศไทยยังตกอยู่ในระหว่างปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 จังหวัดกาญจนบุรีได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม ด้วยทหารญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพหลายแห่ง ทำให้ทหารพันธมิตรนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเพื่อทำลายฐานทัพของญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง
เป็นเหตุให้สภาพเศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพง แต่ชาวบ้านก็ช่วยบริจาคทุนทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2494
มรณภาพด้วยอาการสงบ เวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2523 ที่วัดม่วงชุม สิริอายุ 92 ปี พรรษา 69
วัดเก็บสรีระไว้นาน 10 ปี ปรากฏว่าสังขารของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย จึงพร้อมใจกันสร้างมณฑป พร้อมทั้งโลงแก้วบรรจุร่างไว้ให้กราบไหว้ในเวลาต่อมา •
โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022