ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
แรงดีไม่มีตกจริงๆ กับ “เรเว่ ออโต โมทีฟ” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ค่ายบีวายดี (BYD)
คราวนี้เจาะเข้าตลาดเอ็มพีวีหรู นำแบรนด์ในเครือ “เดนซ่า” (DENZA) เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยกับรุ่น “D9” รถเอ็มพีวีพลังไฟฟ้าล้วน
จากการออกแบบ-ตกแต่งภายนอก และภายในส่งมาซัดกับเจ้าตลาดทั้งแบรนด์จีน และญี่ปุ่น รวมถึงเกาหลีใต้ แบบจั๋งๆ
การตั้งราคาถือว่ามาแหวกแนวทีเดียว เพราะมีเพียง 2 รุ่นย่อย ราคาต่างกันถึง 7 แสนบาท
รุ่น Premium ราคา 1,999,9000 บาท
และ Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท
หลักๆ ต่างกันที่อุปกรณ์ตกแต่ง ออปชั่นความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัย ระบบรองรับ
และแน่นอนว่าขุมพลังที่ต่างกันมากพอสมควร โดยเฉพาะอัตราเร่ง
ดูจากสเป๊กต่างๆแล้ว รุ่นท็อปมาดุดันดีเหลือเกิน
ภาพลักษณ์ภายนอกทรงเอ็มพีวียอดนิยมแบบ 7 ที่นั่ง พัฒนาบน e-Platform 3.0
ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ภายใต้แนวคิด DENZA – Motion
หน้าตาดุดันด้านกระจังหน้าแบบปิดสีดำ มีเส้นโครเมี่ยมเรียงเป็นแนวดิ่ง ตรงกลางเป็นโลโก้ของแบรนด์
ไฟหน้าทรงเรียวเล็กแบบ LED ใส่ออปชั่นมาเพียบ
ไม่ว่าจะเป็น ระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
ฟังก์ชั่นหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow-Me-Home
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
มีระบบไฟส่องมุมอับสายตา LED เมื่อเปิดไฟเลี้ยวหรือหมุนพวงมาลัย ขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ
ด้านหลังตัดแนวตรง มีแถบไฟสีแดงพาดกลาง
ไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลาแบบ LED
ระบบไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential
ไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตั้งด้านบนแบบ LED เช่นกัน
ประตูสไลด์ไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
มีไฟตกแต่งช่องชาร์จแบบมัลติคัลเลอร์
ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ภายในตกแต่งหรูหรา กว้างขวางให้แบบ VIP Cockpit
มีให้เลือก 2 สี คือ เบจ และน้ำตาล ตัดขอบด้านโครเมียม
เพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียม
พวงมาลัย 2 ก้านแบบท้ายตัด พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แบบ 3 มิติ
รุ่น Performance AWD เสริมด้วยระบบแสดงผลบนกระจกหน้า ขนาด 12 นิ้ว (W-HUD)
กระจกมองหลังแบบภาพวิดีโอ กรณีมีผู้โดยสารหรือสิ่งของขวางมุมมอง
หรือถ้ามองไม่ถนัดจะปรับเป็นเป็นกระจกธรรมดาก็ได้
ตรงกลางเป็นหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว
รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมแบบ Hi-Fi Class Dynaudio สำโพง 14 ตำแหน่ง
เบาะหุ้มหนังแท้ Nappa คู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยความจำ
แต่ที่พิเศษสุดสุด ต้องยกให้ที่นั่งแถว 2 เพราะรถลักษณะนี้ ส่วนหนึ่งนำไปใช้เป็นพาหนะของผู้บริหาร
ทำให้ทีมออกแบบใส่ใจกับที่นั่งแถว 2 เป็นพิเศษ
เบาะแบบกัปตันซีต คล้ายนั่งอยู่ในโซฟาหนังชั้นดี มีระบบนวดไฟฟ้าพร้อมระบบระบายอากาศ
ปรับพนักดันหลังได้ 4 ระดับ ช่วยให้คลายความเมื่อยล้าได้ เขายังมีระบบจดจำที่นั่งด้วย
บริเวณพนักวางแขนติดตั้งจอ LCD ควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ตามต้องการ
เบาะคนขับและผู้โดยสารแถวที่สอง ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Welcome Seat
หลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้าดึงลงมาเป็นถาดวางแก้ว หรือวางโน้ตบุ๊กเพื่อทำงาน ลักษณะคล้ายบนเครื่องบิน
นอกจากนี้ มีตู้เย็นขนาด 7.5 ลิตร แช่น้ำเย็นอุณหภูมิต่ำสุด -6 องศา และปรับอุ่นร้อนได้สูงสุด 50 องศา
ที่วางขาและเหนือศีรษะมีเหลือเฟือ นั่งสบายตลอดการเดินทาง
Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
ระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศแบบมัลติคัลเลอร์ พร้อมโหมดต่างๆ เพื่อปรับบรรยากาศห้องโดยสาร
ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM 2.5
ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 3 จุด (กำลังสูงสุด 50W)
ห้องโดยสารตอนหน้า และ 2 จุดสำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง
ช่องจ่ายไฟ 12V และ ช่อง USB-C และ USB-A สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
ความจุสัมภาระด้านท้าย 410 ลิตร หากปรับเบาะแถว 3 เพิ่มเป็น 2,310 ลิตร
ขุมพลังรุ่นท็อปขับเคลื่อนขับเคลื่อน 4 ล้อ พลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์ แรงบิดสูสุด 470 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 6.9 วินาที
ช่วงล่างอัพเกรดแบบถุงลม ติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD
วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 580 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
ส่วนรุ่น Premium ขับเคลื่อน 2 ล้อ พลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ แรงบิด 360 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 ภายใน 9.5 วินาที
ระบบกันสะเทือนด้านหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลัง มัลติลิงก์
วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 600 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
BYD Blade Battery ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 103.36 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
ระบบขับเคลื่อนแบบ 8 in 1
รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส)
ชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 กำลังสูงสุด 166 กิโลวัตต์
ชาร์จ DC Fast Charging ความจุ 10-80% ประมาณ 38 นาที
ออปชั่นและตัวช่วยขับขี่จัดหนักจัดเต็ม เด่นๆ เช่น กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
ระบบช่วยเตือน/เบรก เมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาทั้งด้านหน้าและหลัง
ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน
ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา
ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
ระบบป้องกันการลื่นไถล ฯลฯ
“DENZA D9” ถือว่าเป็นรถเอ็มพีวีระดับลักชูรี อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ
แวะไปดูตัวเป็นๆ ได้เลย ทั้งที่โชว์รูม
และงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้ ที่เมืองทองธานี •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022