สงครามยูเครนครบ 1,000 วัน ปูตินจะกดปุ่มนิวเคลียร์หรือยัง?

(Photo by Russian Defence Ministry / AFP)

สงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2024 อะไรที่เกิดขึ้นในสงครามนี้ที่ควรจะบันทึกไว้ และอะไรที่จะเกิดขึ้นต่อไปล้วนเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้

กล่าวให้ถึงที่สุด เอกสารของ European Civil and Humanitarian Aid Operations (UCHAO) รายงานว่า ปัญหาความขัดแย้งในแคว้น Donbas ทางตะวันออกของยูเครนนั้นเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านมนุษยธรรมในแนวหน้ามาแต่บัดนั้น

UCHAO บันทึกว่า นั่นคือ สถานะวิกฤตที่ถูกลืม “forgotten crisis”

The EU Humanitarian Aid Operation ให้ความช่วยเหลือในประเทศนี้ตั้งแต่ปี 2014 ก่อนการเกิดสงครามยูเครนอันก้องโลกปี 2022

รัสเซียบุกยึดแหลมไครเมีย (Crimean Tatars) เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2014 ปีนั้นอเมริกาและ EU ต้องการแซงก์ชั่นเศรษฐกิจรัสเซีย แต่เยอรมนีที่มีการค้าจำนวนมากกับรัสเซียขอร้องไว้ว่าอย่าเพิ่งทำ

มาถึงการบุกยูเครนอันเป็นการเริ่มต้นสงคราม เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022 นั้น มีสัญญาณมาจากรัสเซียให้เป็นที่เข้าใจได้

ทั้งอเมริกาและ NATO ต่างพยายามระงับการบุกของรัสเซีย

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อสายตรงถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ทั้งบินมาคุยกับปูตินและโทรศัพท์สายตรงยับยั้งถึง 7 ครั้ง

นายกรัฐมนตรีเยอรมัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และผู้นำ EU คนอื่นๆ ต่างออกมาพยายามยับยั้งสงครามนี้

แต่ปูตินไม่ฟังเสียงใคร เขาส่งทหารเข้ายึดดินแดนยูเครนทันที

 

ปูตินให้สัมภาษณ์ Tucker Carlson พิธีกรดังชาวอเมริกันในอีกหนึ่งปีกว่าต่อมาว่า

“ยูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมา 350 ปี ถ้าอเมริกาไม่เข้ามาช่วย สงครามนี้คงยุติภายใน 2 อาทิตย์แล้ว (รัสเซียชนะ)”

ปูตินหวนรำลึกถึงสงครามจอร์เจีย ปี 2008 ที่รัสเซียยึดดินแดนจอร์เจียได้ 20% ภายในเวลา 2 อาทิตย์

แต่นั่นคือสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจริงในสงครามยูเครน เพราะรบกันถึงวันนี้ รัสเซียยึดดินแดนยูเครนได้แล้ว 21% ทหารรัสเซียตายไปกว่า 200,000 คน ทหารยูเครนก็สูญเสียพอกัน

ทว่า รัสเซียก็ยังจบไม่ลง

 

สงครามยูเครนครบ 1,000 วันเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2024 เรามาไล่เรียงว่าในช่วงท้ายนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

สิ่งที่เห็นชัดคือรัสเซียขาดกำลังพลในการสู้รบ คนรัสเซียที่พอมีฐานะหนีหมายเกณฑ์ออกนอกประเทศมาสุมกันอยู่ที่ภูเก็ต ประเทศไทย และที่ศรีลังกา

เมื่อตอนปีใหม่ 2024 CNN นำสารคดีมาให้ดูถึงกองกำลังชาวเขาเนปาลลีที่รับจ้างรบในแนวหน้าให้รัสเซียด้วยค่าเสี่ยงตายเดือนละ 1,200 เหรียญ

มาเมื่อ 3-4 เดือนก่อน สำนักข่าวกรองอเมริการายงานว่า รัสเซียรับกองกำลังทหารเกาหลีเหนือมาร่วมรบ ในข่าวบอกว่าราว 10,000 คนถึง 12,000 คน ส่วนหนึ่งเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ

CNN มีภาพถ่ายดาวเทียมเห็นเรือยกพลขึ้นบกรัสเซียไปจอดที่เมืองท่าเกาหลีเหนือเพื่อขนส่งทหารเกาหลีเหนือไปยังเมืองท่าวลาดิวอสต็อกในไซบีเรีย

นอกไปจากนั้น CNN ยังมีภาพทหารเกาหลีเหนือตั้งแถวเดินขบวนมาให้ดู จึงหมดความกังขาว่าข่าวทหารเกาหลีเหนือมาช่วยรัสเซียรบนั้น จริงหรือไม่จริง

ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังการเยือนเกาหลีเหนือของปูตินในรอบ 24 ปี เมื่อ 18-19 มิถุนายน 2024 มีการเซ็นสัญญาหลายฉบับ หนึ่งในนั้นคือสัญญาส่งทหารเกาหลีเหนือมารบให้รัสเซีย

อันถือเป็นความกังวลใหญ่หลวงของอเมริกาโดยเฉพาะเมื่อมีข่าวกรองว่า กองกำลังส่วนหน้าที่มีทหารรัสเซียและทหารเกาหลีเหนือ 50,000 คน กำลังเคลื่อนเข้าตีดินแดนที่ยูเครนยึดจากรัสเซียกลับคืน

 

ในช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา อเมริกาส่งจรวด ATACMS ให้ยูเครนใช้ทำสงคราม เป็นจรวดระยะทำการ 180 ไมล์ ยิงเป็นวิถีโค้งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศแล้วดิ่งลงสู่เป้าหมาย จรวดนี้นำออกใช้ครั้งแรกในสงครามอ่าว ปี 2002 โดยมีข้อแม้ว่า ห้ามมิให้ยูเครนใช้จรวด ATACMS โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

ในขณะที่ปูตินขู่ว่า ถ้ามีจรวดอเมริกาโจมตีเข้าในดินแดนรัสเซียเมื่อไหร่ จะเกิดสงครามนิวเคลียร์แน่นอน

ช่วงเวลานั้น ยูเครนใช้จรวด ATACMS โจมตีเฉพาะแถบแหลมไครเมียร์ที่ตามกฎหมายยังถือว่าเป็นดินแดนของยูเครน ถึงแม้ว่ารัสเซียจะยึดไปแล้ว ดังนั้น อเมริกาจึงไม่ว่าอะไร

ขณะเดียวกัน ยูเครนพยายามขออนุญาตอเมริกาส่งจรวดโจมตีเข้าในดินแดนรัสเซีย แต่อเมริกาไม่อนุมัติเพราะไม่อยากให้สงครามบานปลาย

แต่ทว่า การโจมตีด้วยจรวดสู่ดินแดนยูเครนทั่วประเทศครั้งใหญ่สุดนับแต่เกิดสงคราม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2024 โดยพุ่งเป้าไปที่โรงไฟฟ้าทั่วประเทศ หวังจะ freeze-แช่แข็งชาวยูเครเนียนทั้งหมดในฤดูหนาวที่กำลังมาถึงนั้น

กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้โจ ไบเดน ประกาศให้ยูเครนใช้จรวดโจมตีเข้าในดินแดนรัสเซียได้ แต่ทั้งนี้ต้องขออนุมัติเป้าหมายจากอเมริกาก่อน

บ่ายวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2024 CNN สัมภาษณ์สดข้ามทวีปประธานาธิบดีโปแลนด์ Andrzej Duda เขาแสดงความยินดีที่ไบเดนตัดสินใจให้ยูเครนใช้จรวดอเมริกาโจมตีเข้าในดินแดนรัสเซีย

หากปูตินยึดครองยูเครนได้สำเร็จ เป้าหมายต่อไปคือโปแลนด์

โฆษกเคลมลินกล่าวว่า นี่คือการเติมน้ำมันเข้าในกองเพลิงสงคราม

นักวิเคราะห์ของ CNN บอกว่า สิ่งที่โฆษกเคลมลินไม่พูดถึงคือการโจมตียูเครนครั้งใหญ่สุดนับแต่เกิดสงครามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ต้องการแช่แข็งคนยูเครเนียนในฤดูหนาวนี้

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ในที่ประชุม G20 ที่นครริโอ เดอจาเนโร บราซิล ประธานาธิบดีมาครงเข้าแสดงความยินดีต่อไบเดนที่ตัดสินใจเรื่องจรวด

วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ ออกมาประกาศว่าอนุมัติให้ยูเครนใช้จรวด Strom Shadow ของอังกฤษโจมตีเข้าในดินแดนของรัสเซียได้ และยังพูดอีกว่า จะปล่อยให้ปูตินชนะในสงครามนี้ไม่ได้

ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษมีจรวดที่มีคุณภาพเท่าเทียมกับอเมริกา ถ้าทรัมป์ถอนความช่วยเหลือเรื่องจรวดออกจากยูเครน อังกฤษและฝรั่งเศสสามารถเข้าทดแทนได้

 

เหตุการณ์วันต่อมา 9 โมงเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2024 CNN รายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเชียได้ออกประกาศเมื่อตอน 8 โมงเช้าว่า ยูเครนได้ยิงจรวดอเมริกาชุดแรกเข้าสู่ดินแดนรัสเซียแล้ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร

CNN สัมภาษณ์คอลัมน์นิสต์ของ น.ส.พ. The New York Times ที่เขียนบทความเรื่องนี้ เขาให้ความเห็นว่า เป็นเพราะรัสเซียนำทหารเกาหลีเหนือ 19,000 คนมาเข้าสู่สงคราม (เขาให้ตัวเลขทหารเกาหลีเหนือสูงกว่าแหล่งข่าวอื่น)

เขายังให้ความเห็นว่า ตลอดเวลาของสงครามยูเครนที่ผ่านมาเกิน 1,000 วัน ทุกครั้งที่อเมริกาส่งอาวุธให้ยูเครน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ รถถัง เรือหรือจรวด รัสเซียจะขู่ว่าจะทำให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ แต่ไม่เคยเกิดจริง

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน

เพราะปูตินรู้ดีว่า ถ้าทำสงครามนิวเคลียร์ อาณาจักรปกครอง (Regime) ของเขาจะพินาศ

ตอนบ่าย CNN ทำรายงานเรื่อง Major Escalation สัมภาษณ์สดผู้สื่อข่าวจากมอสโก เขาเล่าว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า การโจมตีทำตอนตีสาม จรวดยิงเข้ามาทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย ทั้งหมด 6 ลูก ระบบป้องกันสอยจรวดได้ 5 ลูก มีหลุดรอดลงมาได้ 1 ลูก ไม่มีภาพให้ดู (มีรายงานข่าวภายหลังว่าจรวดลูกนี้ได้ทำลายคลังอาวุธในเมืองนั้น)

ตอนกลางวันปูตินเซ็นประกาศกฤษฎีกาว่า หากประเทศที่ไม่มีนิวเคลียร์ใช้อาวุธของประเทศที่มีนิวเคลียร์โจมตีรัสเซีย ถือว่าทั้งสองประเทศนั้นโจมตีรัสเซียร่วมกัน รัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ตอบโต้ประเทศทั้งสองได้

ประกาศนี้ทำให้การใช้นิวเคลียร์ของรัสเชียง่ายขึ้น (lower)

 

การโจมตีด้วยจรวดของยูเครนเป็นที่กล่าวขานถึงทั่วไปในมอสโกและทั้งรัสเซีย โดยเฉพาะทาง state media โฆษกกระทรวงต่างประเทศบอกว่าเป็นสิ่งที่รัสเซียต้องตระหนัก (ถึงภัยที่กำลังเกิดขึ้น)

ต่อมา CNN สัมภาษณ์วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ พรรคเดโมแครตที่ดูแลนโยบายยูเครน เขามีความเห็นว่าไบเดนทำถูกแล้วที่อนุมัติจรวดโจมตีเข้าในดินแดนรัสเซีย ถึงแม้ว่าไบเดนจะเหลือเวลาบริหารอีกแค่ 2 เดือน

เพราะยูเครนจะต้องมีอะไรไว้ต่อรองในมือตอนที่ทรัมป์เข้ามาสงบศึก

เขายังมีความเห็นว่า ยูเครนควรจะส่งเครื่องบิน F-16 เข้าไปโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 4 แห่งรอบมอสโก เพื่อทำลายขุมพลังงานของรัสเซียเหมือนที่รัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าทั่วยูเครนเมื่อวันอาทิตย์

The Wall Street Journal ฉบับวันศุกร์ 22 พฤศจิกายน 2024 รายงานว่า ยูเครนยิงจรวด Strom Shaw missiles อย่างน้อย 10 ลูกเข้าสู่แคว้น Krusk เมื่อวันพุธ (ข่าวฝ่ายรัสเซียบอกว่ายิงมาแค่ 2 ลูกและถูกสอยร่วงหมด)

WSJ รายงานว่า มีนายพลอาวุโสของเกาหลีเหนือได้รับบาดเจ็บจากจรวดของอังกฤษ แหล่งข่าวตะวันตกไม่ได้ระบุว่านายพลอาวุโสเกาหลีเหนือได้รับบาดเจ็บอย่างไร ตรงส่วนไหนของร่างกาย ตัวแทนเกาหลีเหนือใน UN ไม่ได้ให้ความเห็นเรื่องการยิงจรวดที่อยู่ในรายงานสืบราชการลับของตะวันตก

WSJ บอกว่าเปียงยางส่งนายพลอาวุโสชื่อ Col. Gen. Kim Yong Box มาดูแลประสานงานทหารเกาหลีเหนือในกองทัพรัสเซีย

มีทหารเกาหลีเหนือมากกว่า 10,000 คนในแคว้น Kursk

 

ปูตินต้องรับความช่วยเหลือจากทหารเกาหลีเหนือ เพราะทหารรัสเซียต้องยืดกำลังออกจนบางในยูเครนตะวันออก ขณะเข้าบดขยี้เพื่อผลักดันทหารยูเครนออกจากแคว้น Krusk

WSJ ฉบับเดียวกันลงรูปปูตินแถลงออกทีวี เตือนตะวันตกถึงการที่รัสเซียยกระดับยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเข้าใส่ยูเครน เป้าหมายฐานทัพทางทหารที่เมืองดนีโปร ขีปนาวุธรุ่นนี้ชื่อ Oreshnik สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ รัสเซียเพิ่งนำมาใช้ในสงครามยูเครนเป็นครั้งแรก ขีปนาวุธนี้มีรัศมีทำการ 5,500 ก.ม.

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญของยูเครนและอเมริกากำลังตรวจซากขีปนาวุธ

ปูตินกล่าวเตือนว่า รัสเซียมีสิทธิ์ที่จะส่งอาวุธโจมตีชาติที่ส่งอาวุธให้มาโจมตีรัสเซีย โดยเฉพาะจรวดอเมริกา ATACMS และจรวดอังกฤษ Storm Shadow Missiles

“ถ้ามีใครสงสัยว่า เราพัฒนาอาวุธสำเร็จหรือยัง ขอบอกว่า พวกเขาสำคัญผิด (เราพร้อมแล้ว)”

เรามีขีปนาวุธที่สามารถโจมตีได้ทุกแห่งในยุโรป

 

บ่ายวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2024 อเมริกาสั่งปิดสถานทูตในเคียฟ และเตือนคนอเมริกันให้รีบหลบลงหลุมหลบภัยเมื่อมีสัญญาณเตือนภัยทางอากาศ แต่พอถึงวันรุ่งขึ้นก็ประกาศเปิดสถานทูตอีกครั้ง

เมื่อวันเสาร์ 22 พฤศจิกายน 2024 ประธานาธิบดีมาครงอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธ SCALP ของฝรั่งเศสโจมตีรัสเซีย

โดนทั้งอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศสส่งขีปนาวุธให้ยูเครนยิงโจมตีรัสเซีย ถึงเวลาที่ปูตินจะกดปุ่มนิวเคลียร์หรือยัง

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยเขียนไว้ว่า

เขาไม่รู้ว่า สงครามโลกครั้งที่สามจะรบกันด้วยอาวุธอะไร แต่จะทำลายความศิวิไลซ์ของโลกทั้งหมด

และสงครามโลกครั้งที่ 4 มนุษย์จะรบกันด้วย Stick and Stone-ท่อนไม้กับก้อนหิน