มาร์กอส VS ดูแตร์เต ปมร้อน สัมพันธ์ร้าว ปธน.-รอง ปธน.ปินส์

FILE - Philippine President Ferdinand Marcos Jr., center right, and Vice President Sara Duterte, daughter of former Philippine President Rodrigo Duterte, raise hands during the inauguration ceremony at National Museum on Thursday, June 30, 2022 in Manila, Philippines. (AP Photo/Aaron Favila, File)

บทความต่างประเทศ

 

มาร์กอส VS ดูแตร์เต

ปมร้อน สัมพันธ์ร้าว

ปธน.-รอง ปธน.ปินส์

 

คงไม่มีใครคาดคิดว่ารองประธานาธิบดีและประธานาธิบดีของประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกจะขัดแย้งกันหนักจนประกาศคำขู่ฆ่าอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน

แต่เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นจริงที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อซาราห์ ดูแตร์เต รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ได้ประกาศว่าเธอสั่งกับนักฆ่าให้ลอบสังหารประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ นางลิซา อาราเนตา-มาร์กอส ผู้เป็นภริยา และนายมาร์ติน โรมูอัลเดซ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากเธอถูกสังหารเสียชีวิต

ถือเป็นอีกหนึ่งร่องรอยของการแตกหักระหว่าง 2 ตระกูลการเมืองของฟิลิปปินส์อย่างตระกูลดูแตร์เต และตระกูลมาร์กอส

 

ย้อนไปในปี 2022 เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และซาราห์ ดูแตร์เต คู่ชิงประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งไปแบบแลนด์สไลด์

อย่างไรก็ตาม รอยร้าวระหว่างทั้งสองก็เริ่มปรากฏขึ้นไม่นานหลังจากนั้น เมื่อรองประธานาธิบดีดูแตร์เตคัดค้านการสอบสวนของรัฐสภาต่อการปราบปรามยาเสพติดในสมัยที่พ่อของเธออย่างนายโรดริโก ดูแตร์เต ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระหว่างปี 2016-2022 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย

นอกจากนั้น รองประธานาธิบดีดูแตร์เตยังถูกสอบสวนถึงการใช้งบประมาณในทางที่ผิดขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการ ซึ่งผู้นำการสอบสวนคือประธานสภาล่างอย่างนายโรมูอัลเดซผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ที่ได้ตัดงบประมาณของคณะทำงานของรองประธานาธิบดีเกือบ 2 ใน 3

ความสัมพันธ์ของเธอและลิซา อาราเนตา-มาร์กอส ย่ำแย่ลงเมื่อสตรีหมายเลขหนึ่งเปิดเผยถึงความไม่พอใจต่อรองประธานาธิบดีผ่านการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเมื่อเดือนเมษายน

ต่อมาเธอได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการในคณะรัฐมนตรีของมาร์กอส จูเนียร์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อดีตประธานาธิบดีโรดริโก พ่อของซาราห์ ออกมาโจมตีมาร์กอส จูเนียร์ ว่าเป็นผู้นำที่อ่อนแอและเป็นพวกติดยา

มาร์กอส จูเนียร์ ออกมาสวนกลับว่าสุขภาพของโรดริโก ดูแตร์เต ย่ำแย่ลงเพราะใช้ยาเสพติด เฟนทานิลมานาน

 

รองประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและมาร์กอส จูเนียร์ แย่ลงอย่างหนักจนเธอนึกภาพตัวเอง “ตัดหัวมาร์กอส” และเมื่อซูเลก้า โลเปซ เสนาธิการประจำตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเธอถูกควบคุมตัวจากการปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนการใช้งบประมาณของรองประธานาธิบดีดูแตร์เต ทำให้เธอแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ว่า

“ฉันได้คุยกับคนหนึ่ง บอกว่าถ้าฉันถูกฆ่าตาย นายต้องไปฆ่ามาร์กอส จูเนียร์ ลิซา อาราเนตา และมาร์ติน โรมูอัลเดซ ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันบอกไปว่าถ้าฉันตาย อย่าหยุดจนกว่าจะฆ่าพวกเขาสำเร็จ และเขาก็ตอบตกลง”

ทำให้มาร์กอส จูเนียร์ ออกมากล่าวว่าจะต่อสู้กับการข่มขู่ที่มีต่อเขา และแผนการก่ออาชญากรรมเช่นนั้นไม่ควรถูกมองข้าม แต่รองประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนคำพูดของเธอเพื่อให้ดูเหมือนว่าเธอขู่ฆ่าประธานาธิบดี

แต่ไม่ว่าจะแก้ต่างอย่างไร เธอก็ถูกสำนักงานสอบสวนกลางของฟิลิปปินส์เรียกตัวเข้าพบเพื่อสอบสวนในวันที่ 29 พฤศจิกายน และตำแหน่งรองประธานาธิบดีไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี

น่าสนใจอย่างมากว่าการทำงานระหว่างประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อความสัมพันธ์ถึงจุดแตกหักแต่ไม่สามารถแยกกันได้

เพราะวาระการดำรงตำแหน่งของทั้งคู่ยังเหลืออีก 4 ปี เช่นเดียวกับการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

เครดิตภาพ เอพี