ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
บทความต่างประเทศ
มาร์กอส VS ดูแตร์เต
ปมร้อน สัมพันธ์ร้าว
ปธน.-รอง ปธน.ปินส์
คงไม่มีใครคาดคิดว่ารองประธานาธิบดีและประธานาธิบดีของประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกจะขัดแย้งกันหนักจนประกาศคำขู่ฆ่าอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชน
แต่เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นจริงที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อซาราห์ ดูแตร์เต รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ได้ประกาศว่าเธอสั่งกับนักฆ่าให้ลอบสังหารประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ นางลิซา อาราเนตา-มาร์กอส ผู้เป็นภริยา และนายมาร์ติน โรมูอัลเดซ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หากเธอถูกสังหารเสียชีวิต
ถือเป็นอีกหนึ่งร่องรอยของการแตกหักระหว่าง 2 ตระกูลการเมืองของฟิลิปปินส์อย่างตระกูลดูแตร์เต และตระกูลมาร์กอส
ย้อนไปในปี 2022 เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ และซาราห์ ดูแตร์เต คู่ชิงประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งไปแบบแลนด์สไลด์
อย่างไรก็ตาม รอยร้าวระหว่างทั้งสองก็เริ่มปรากฏขึ้นไม่นานหลังจากนั้น เมื่อรองประธานาธิบดีดูแตร์เตคัดค้านการสอบสวนของรัฐสภาต่อการปราบปรามยาเสพติดในสมัยที่พ่อของเธออย่างนายโรดริโก ดูแตร์เต ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระหว่างปี 2016-2022 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันราย
นอกจากนั้น รองประธานาธิบดีดูแตร์เตยังถูกสอบสวนถึงการใช้งบประมาณในทางที่ผิดขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการ ซึ่งผู้นำการสอบสวนคือประธานสภาล่างอย่างนายโรมูอัลเดซผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ที่ได้ตัดงบประมาณของคณะทำงานของรองประธานาธิบดีเกือบ 2 ใน 3
ความสัมพันธ์ของเธอและลิซา อาราเนตา-มาร์กอส ย่ำแย่ลงเมื่อสตรีหมายเลขหนึ่งเปิดเผยถึงความไม่พอใจต่อรองประธานาธิบดีผ่านการให้สัมภาษณ์ทางวิทยุเมื่อเดือนเมษายน
ต่อมาเธอได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีศึกษาธิการในคณะรัฐมนตรีของมาร์กอส จูเนียร์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
อดีตประธานาธิบดีโรดริโก พ่อของซาราห์ ออกมาโจมตีมาร์กอส จูเนียร์ ว่าเป็นผู้นำที่อ่อนแอและเป็นพวกติดยา
มาร์กอส จูเนียร์ ออกมาสวนกลับว่าสุขภาพของโรดริโก ดูแตร์เต ย่ำแย่ลงเพราะใช้ยาเสพติด เฟนทานิลมานาน
รองประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและมาร์กอส จูเนียร์ แย่ลงอย่างหนักจนเธอนึกภาพตัวเอง “ตัดหัวมาร์กอส” และเมื่อซูเลก้า โลเปซ เสนาธิการประจำตำแหน่งรองประธานาธิบดีของเธอถูกควบคุมตัวจากการปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับการสอบสวนการใช้งบประมาณของรองประธานาธิบดีดูแตร์เต ทำให้เธอแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ว่า
“ฉันได้คุยกับคนหนึ่ง บอกว่าถ้าฉันถูกฆ่าตาย นายต้องไปฆ่ามาร์กอส จูเนียร์ ลิซา อาราเนตา และมาร์ติน โรมูอัลเดซ ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันบอกไปว่าถ้าฉันตาย อย่าหยุดจนกว่าจะฆ่าพวกเขาสำเร็จ และเขาก็ตอบตกลง”
ทำให้มาร์กอส จูเนียร์ ออกมากล่าวว่าจะต่อสู้กับการข่มขู่ที่มีต่อเขา และแผนการก่ออาชญากรรมเช่นนั้นไม่ควรถูกมองข้าม แต่รองประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนคำพูดของเธอเพื่อให้ดูเหมือนว่าเธอขู่ฆ่าประธานาธิบดี
แต่ไม่ว่าจะแก้ต่างอย่างไร เธอก็ถูกสำนักงานสอบสวนกลางของฟิลิปปินส์เรียกตัวเข้าพบเพื่อสอบสวนในวันที่ 29 พฤศจิกายน และตำแหน่งรองประธานาธิบดีไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการถูกดำเนินคดี
น่าสนใจอย่างมากว่าการทำงานระหว่างประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์จะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อความสัมพันธ์ถึงจุดแตกหักแต่ไม่สามารถแยกกันได้
เพราะวาระการดำรงตำแหน่งของทั้งคู่ยังเหลืออีก 4 ปี เช่นเดียวกับการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
เครดิตภาพ เอพี
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022