ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
เข้าสู่บรรยากาศ “Motor Expo 2024” จัดที่เดิม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้
ปีนี้ถือว่ามีค่ายรถเข้าร่วมมากที่สุดทุบสถิติ แบ่งเป็น
รถยนต์ 42 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ
รถจักรยานยนต์ 22 แบรนด์ จาก 7 ประเทศ
และค่ายรถมือสอง 5 แบรนด์
แน่นอนว่าทุกครั้งจะมีค่ายรถ เปิดตัวรถใหม่หรือเปิดราคากันในงาน
ปีนี้จัดหนักกันกว่า 10 รุ่น เพื่อหวังแชร์ส่วนแบ่งการตลาดในช่วงโค้งสุดท้าย
ยิ่งเป็นปีที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำอย่างมาก จากหลากหลายปัจจัย ทำให้ทุกค่ายรถต้องเฮโลออกหมัดเด็ดเพื่อแย่งเค้ก
แต่ด้วยพื้นที่สัมปทานของ “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” จึงขอคัดรุ่นเด่นๆ มาแนะนำให้รู้จักกันก่อนไปเห็นตัวเป็นๆ ในงาน
ประเดิมที่น้องใหม่จากจีน “JuneYao Auto” (จูนเหยา) แนะนำรถธงรุ่นแรกที่มาลุยตลาดไทย ก่อนงานไม่กี่วัน
เป็นเก๋งไฟฟ้า “JY AIR” รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ฟาสต์แบ็ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง
ภายนอกรูปทรง One-Box เน้นเส้นโค้งต่อเนื่องตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงเสา C
ท้ายรถได้อารมณ์รถเอ็มพีวี
ไฟหน้า LED และไฟท้าย OLED
มือจับประตูแบบ Pop-out
ภายในดูหรูหราและไฮเทค
พวงมาลัยทรงสวยออกแนวไม่กลมดิกตามเทรนด์รถไฟฟ้าจากจีน
มาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว เชื่อมต่อกับจอมัลติฟังก์ชั่นขนาด 15.6 นิ้ว
โดยจอกลางใช้ควบคุมรถบบต่างๆ ทั้งหมด แทบไม่เจอปุ่มอื่นๆ ทำให้ภาพรวมของคอนโซลหน้าและกลางดูเรียบๆ
ดูความกว้างขวางมากขึ้น จากหลังคาพาโนรามาขนาด 2.072 ตร.ม.
ขุมพลังมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แบตเตอรี่มี 2 ความจุ ขนาด 51 กิโลวัตต์-ชั่วโมง วิ่งไกลสุด 430 กิโลเมตร (NEDC)
และขนาด 64 กิโลวัตต์-ชั่วโมง วิ่งไกลสุด 520 กิโลเมตร (NEDC)
จัดแน่นเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Level 2+ มีฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง
อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
ระบบช่วยจอด, เตือนจุดอับสายตา, ควบคุมเลนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่ ฯลฯ
มีให้เลือก 2 รุ่น Standard ราคา 759,000 บาท จากราคา 899,000 บาท ก่อนเข้าร่วมมาตรการอีวี 3.5
รุ่น Plus ราคา 869,000 บาท จากราคา 1,018,000 บาท ก่อนเข้าร่วมมาตรการอีวี 3.5
ค่ายญี่ปุ่นขอส่งปิกอัพมาสด้า “BT-50” MY 2025 เข้าประกวด
รุ่นนี้เปิดตัวที่ต่างประเทศไปก่อนแล้ว นำมาอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เป็นที่แรก
กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบรังผึ้ง ตกแต่งด้วยแถบสีแดง
ไฟหน้า LED ทรงใหม่ดูเฉี่ยวกว่าเดิม เช่นเดียวกับไฟท้าย LED
กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่
ซุ้มล้อสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ติดตั้งสปอร์ตบาร์ สีเทาดำ ดีไซน์ใหม่
ภาพรวมให้อารมณ์เป็นสเอสยูวีมากกว่าปิกอัพ
ส่วนภายในแม้ยังคล้ายเดิมแต่เพิ่มลูกเล่น และปรับเปลี่ยนไปบ้างเพื่อความทันสมัยมากขึ้น
ที่ดูดีไม่พ้นเบาะหุ้มหนัง Maztex สีส้ม
พวงมาลัย 3 ก้าน หน้าจอ MID ขนาด 7 นิ้ว
ส่วนตรงกลางเปลี่ยนเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
เครื่องยนต์มี 2 บล็อก ดีเซล 1.9 ลิตร Mild Hybrid พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS
แบตเตอรี่ DC ขนาด 48 โวลต์
กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
กำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
และเครื่องยนต์ Diesel 3.0 VGS Turbo
กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร
ออปชั่นเพิ่มเติมเด่นๆ เช่น
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS เวอร์ชั่นใหม่
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ระบบตรวจจับวัตถุด้านหน้า ด้วยกล้องคู่ ADAS 3D Imaging Stereo
เตือนการชน ระบบเบรกอัตโนมัติ ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด ฯลฯ
ราคาน่าจะไม่หนีจากรุ่นเดิมมากนัก ไปชมกันได้ในงาน
ข้ามมาตัวแทนรถยุโรปกันบ้าง กับเมอร์เซเดส-เบนซ์ “G580” เอสยูวีไฟฟ้า หน้าตาดุดัน
รูปทรงกล่องตามเทรนด์ตระกูล “G” กระจังหน้าสีดำแบบปิดทึบอยู่ในกรอบเส้นไฟ LED แบบเรืองแสง
ขอบฝากระโปรงหน้าที่ถูกยกขึ้นเล็กน้อย ตกแต่งแถบสีดำบริเวณเสา A
ด้านท้ายติดตั้งกล่องเก็บของอเนกประสงค์ มีสายชาร์จไฟอยู่ด้านใน
สปอยเลอร์หลังคาแบบใหม่ ติดป้าย “EQ” ไว้ที่ด้านท้าย เพื่อให้รู้ว่านี่คือรถยนต์พลังไฟฟ้า
ล้ออัลลอยลายใหม่สีดำ 18 นิ้ว
ห้องโดยสารเน้นความหรูหราโอ่โถง หน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว วางคู่กันตามสไตล์การออกแบบในรุ่นหลังๆ ของค่ายนี้
ติดตั้งระบบ Mercedes MBUX รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และAndroid Auto
ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester 3D
ไม่พลาดกับระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบจดจำเสียง และระบบนำทางแบบเรียลไทม์
เบาะนั่งหนัง Nappa มีแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ที่วางแก้วแบบควบคุมอุณหภูมิ
รีดพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกติดตั้ง 4 ล้อ
แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 116 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
พละกำลังรวม 580 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตัน-เมตร
ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.7 วินาที
ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
วิ่งระยะไกลสุด 473 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP)
โหมดการขับขี่ Comfort, Sport และ Individual และยังมีโหมด Trail และ Rock สำหรับออฟโรด
ติดตั้งฟังก์ชั่น G-Turn ช่วยให้ตัวรถสามารถลดรัศมีวงเลี้ยวอย่างอิสระ
ระบบ Differential lock และโช้กอัพที่สามารถปรับระดับความหนืดได้
รวมทั้งยังมาพร้อมระบบเลี้ยว 4 ล้อ G-Steering
สนนราคาประมาณ 9 ล้านบาท
ยังมีรถเปิดตัวในงานทั้งโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์อีกเพียบๆ เด่นๆ เช่นกลุ่มเอสยูวี มากันเพียบ
ไม่ว่าจะเป็นค่ายจีนทั้ง AION V, BYD Sealion 7, Deepal E07, Geely EX5, LeapMotor C10
ค่ายเกาหลีนำโดย Hyundai Palisade เอสยูวีขนาดกลาง เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ
นิสสัน Serena รถยนต์อเนกประสงค์ เอ็มพีวี ขุมพลังไฮบริด เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ฯลฯ
พบกันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 เดินเลือกกันตาลายแน่นอน •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022