ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2567 |
---|---|
ผู้เขียน | พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ |
เผยแพร่ |
หลังจากหลายสัปดาห์ (หรืออาจจะหลายเดือน) ที่ผมมุ่งเน้นไปที่หัวข้อหนักๆ อย่างการเมือง เศรษฐกิจ และกระแสของภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่หยุดนิ่ง ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง ลองก้าวถอยหลัง สูดลมหายใจลึกๆ และเดินทางไปยังเส้นทางที่เบาสบายขึ้น
สำหรับคอลัมน์ในสัปดาห์นี้ ผมอยากพาทุกคนมารู้จักกับเมืองบอสตัน ไม่ใช่ในฐานะเมืองแห่งประวัติศาสตร์ปฏิวัติ หรือความเก่งกาจทางวิชาการ แต่ในมุมที่เงียบสงบและหล่อเลี้ยงจิตใจมากกว่า
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อผู้อ่านที่อาจทำงานในอเมริกา น้องๆ นักศึกษาที่อยากมา หรือท่านผู้อ่านที่อยากมาเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของชายฝั่งตะวันออก ผมหวังว่าไกด์นี้จะช่วยพาคุณไปยังสถานที่ธรรมชาติอันงดงาม สมบัติทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่า และอาหารเลิศรสในเมืองแห่งนี้โดยที่ไม่พังกระเป๋าตังค์คุณมากจนเกินไปครับ
วัฒนธรรม :
มรดกศิลปะของบอสตัน
1. Museum of Fine Arts (MFA)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คืออัญมณีแห่งวัฒนธรรมของบอสตัน โดยเฉพาะคอลเล็กชั่นศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์ที่ไม่มีที่ใดในอเมริกาเทียบได้ ผลงานที่โดดเด่น เช่น Water Lilies ของ Monet, Dance at Bougival ของ Renoir และ The Acrobat ของ Picasso ตั้งอยู่ในห้องแสดงแสงสลัวที่ทำให้ทุกชิ้นงานดูมีชีวิต สำหรับผม การได้เข้าชมฟรีในฐานะสมาชิกของฮาร์วาร์ดคือสิทธิพิเศษที่ไม่เคยลืมใช้ ทุกครั้งที่มาเยือนบอสตัน ผมจะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงที่นี่เพื่อดื่มด่ำกับความงดงาม
2. Harvard Art Museums
พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาร์วาร์ด ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานของผม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผมรักมาก คอลเล็กชั่นที่นี่ประกอบด้วยผลงานจาก Degas, Monet และ Picasso การใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงหลังเลิกงานในห้องที่เต็มไปด้วยผลงานชิ้นเอกเหล่านี้ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณและแรงบันดาลใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ที่นี่เข้าฟรีนะครับ ไม่มีค่าใช้จ่าย
3. Isabella Stewart Gardner Museum
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ผลงานศิลปะ แต่ยังรวมถึงสถาปัตยกรรมที่งดงามซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพระราชวังในเวนิส คอลเล็กชั่นประกอบด้วยผลงานจาก Titian, Vermeer และ Rembrandt ที่นี่ยังเป็นที่รู้จักจากเหตุการณ์โจรกรรมศิลปะในปี 1990 ที่ยังคงเป็นปริศนา แต่ถึงอย่างนั้น พิพิธภัณฑ์ยังคงเป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม
บอสตันทำให้ผมแปลกใจมากๆ กับจำนวนและความหลากหลายของแวดวงศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์ ทำไมบอสตันถึงมีผลงานของ Monet, Renoir และ Picasso มากมาย?
คำตอบซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 บอสตันเป็นบ้านของครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาบางครอบครัว หลายครอบครัวมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยุโรป ความหลงใหลในศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์ในยุคนั้น รวมกับความมั่งคั่ง ทำให้พวกเขาสามารถซื้อผลงานชิ้นเอกจากศิลปินหรือพ่อค้าศิลปะในปารีสโดยตรง
ต่อมาคอลเล็กชั่นเหล่านี้ถูกบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ในบอสตัน สร้างมรดกที่ยังคงทำให้เมืองนี้โดดเด่นในปัจจุบัน
ธรรมชาติ : ที่พักผ่อนใจในบอสตัน
1. Arnold Arboretum of Harvard University
เริ่มกันที่อัญมณีแห่งธรรมชาติในบอสตัน Arnold Arboretum เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1872 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและเมืองบอสตัน ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์พืชที่มีชีวิตที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้จากทั่วทุกมุมโลก
พื้นที่กว่า 280 เอเคอร์นี้สร้างขึ้นเพื่อการศึกษา แรงบันดาลใจ และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การเดินเล่นที่นี่เหมือนการเดินทางรอบโลก ตั้งแต่ป่าสนสูงในอเมริกาเหนือไปจนถึงต้นเมเปิลจากญี่ปุ่น ในฤดูใบไม้ร่วง สวนแห่งนี้จะถูกย้อมไปด้วยสีสันอันร้อนแรงของใบไม้แดงและส้ม ทำให้ทุกย่างก้าวเปี่ยมไปด้วยความงดงาม
2. Boston Public Garden
หนึ่งในสวนที่ผมรักมากที่สุดในโลก Boston Public Garden ก่อตั้งขึ้นในปี 1837 ถือเป็นสวนพฤกษศาสตร์สาธารณะแห่งแรกในอเมริกา สวนแห่งนี้เป็นโอเอซิสเขียวชอุ่มที่ตั้งอยู่กลางใจเมือง ลากูนขนาดเล็กที่มีเรือหงส์ล่องมาตั้งแต่ยุค 1870 ชวนให้รู้สึกถึงความย้อนยุคและโรแมนติก
แฟนๆ ภาพยนตร์ Good Will Hunting อาจจำฉากสำคัญที่ Robin Williams กับ Matt Damon พูดคุยกันบนม้านั่งในสวนแห่งนี้ได้ ฉากนั้นสะท้อนถึงเสน่ห์อันเงียบสงบของสวนนี้ได้อย่างดี และยังมีเป็ดที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในหนังสือเด็กคลาสสิค Make Way for Ducklings เป็นอีกสิ่งที่ดึงดูดใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
3. Fresh Pond Reservation
สำหรับคนที่รักการวิ่งหรือการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ Fresh Pond คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด พื้นที่ 155 เอเคอร์แห่งนี้มีเส้นทางเดินและวิ่งยาว 2.25 ไมล์รอบอ่างเก็บน้ำ ความพิเศษอยู่ที่ภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ผมเคยวิ่งที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ที่ปลิวไสวใต้ฝ่าเท้าและสีสันของต้นไม้ที่สะท้อนในผิวน้ำทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในภาพวาด
เป็นการย้ำเตือนว่าความงามและความสงบสุขอยู่ไม่ไกลตัวเลย
ของกิน : รสชาติที่หลากหลายในบอสตัน
อาหารในบอสตันมีตั้งแต่ซีฟู้ดสดๆ ไปจนถึงรสชาติจากทั่วโลก ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายของเมือง
1. The Barking Crab
ร้านนี้เป็นสวรรค์สำหรับคนรักซีฟู้ด ตั้งอยู่ริมแม่น้ำและให้บรรยากาศที่เป็นกันเอง Snow Crab และ Alaskan Crab ของที่นี่สดและอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดไทย (ใช่ ผมพกมาด้วย!) ผมฉลองการจบการศึกษาจากฮาร์วาร์ดและ MIT ที่นี่ในปี 2011 ทำให้ร้านนี้เต็มไปด้วยความทรงจำส่วนตัว
2. Oleana
สำหรับรสชาติที่แปลกใหม่ Oleana ในเคมบริดจ์คือร้านที่คุณต้องไป อาหารตะวันออกกลางของที่นี่ เช่น Mezze Plate และ Lamb Shank เต็มไปด้วยเครื่องเทศที่เข้มข้นและส่วนผสมสดใหม่ ทุกจานคือการเดินทางผ่านวัฒนธรรม กินมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนครับ
3. Abe & Louie’s
ตรงข้ามตึก Prudential ร้านสเต๊กสุดคลาสสิคนี้คือสถานที่ที่ผมเลือกสำหรับโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองความสำเร็จเล็กๆ หรือการพบปะกับเพื่อนฝูง สเต๊กของที่นี่ปรุงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ความนุ่ม ความฉ่ำ และรสชาติที่ลงตัวจาก Dry aged Beed กับ Tomahawk แพงหน่อยแต่คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป
บรรยากาศของร้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหราในเวลาเดียวกันทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมแนะนำเสมอเวลามีโอกาสสำคัญ นานๆ กินทีครับ
การเดินทาง การพักผ่อน และการเติมเต็มทางวัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งที่ฟุ่มเฟือย หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต การได้หลีกหนีจากความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ไปพบกับธรรมชาติที่สงบ ศิลปะที่งดงาม และอาหารที่เปี่ยมไปด้วยรสชาติ ช่วยให้เราได้เชื่อมต่อกับตัวเองและโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น
สำหรับนักเรียน คนทำงาน หรือใครก็ตามที่ต้องการค้นหาความสมดุลในชีวิต ผมหวังว่าไกด์นี้จะช่วยให้คุณได้เห็นด้านที่งดงามของบอสตัน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งใน Fresh Pond เดินเล่นใน Boston Public Garden หรือดื่มด่ำกับศิลปะใน MFA ช่วงเวลาเล็กๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
เพราะสิทธิในการเดินทางและการพักผ่อนคือส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน ผมหวังว่าคุณจะได้มีโอกาสสัมผัสกับความสุขในบอสตันแบบที่ผมเคยพบเจอ ยินดีต้อนรับสู่เมืองแห่งเสน่ห์นี้ และขอให้คุณเพลิดเพลินไปกับทุกการเดินทางในชีวิตครับ!
ป.ล. เครดิตรูป คุณมิ้มช่างภาพคนไทยในบอสตัน ig @mimonroseway.photography
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022