DON’T MOVE ‘สู้หรือตาย’

นพมาส แววหงส์

หนังทริลเลอร์แนวจิตวิทยาเรื่องใหม่ของเน็ตฟลิกซ์มี แซม เรมี นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสร้าง

แซม เรมี เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้กำกับฯ และผู้อำนวยการสร้างหนังสยองขวัญที่รู้จักกันดีหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ Don’t Breathe, The Evil Dead, Crawl, Poltergeist และ Spider-Man (2002)

Don’t Move เดินเรื่องตามแนวคิดแบบเดียวกับหนังทริลเลอร์จิตวิทยาประมาณเดียวกับ Don’t Breathe และแม้แต่หนังอย่าง Panic Room ในสถานการณ์ซึ่งตัวเอกถูกจำกัดวงหรือบีบบังคับให้ทำอะไรไม่ได้มากต่อหน้าผู้ร้ายใจอำมหิตที่มุ่งร้ายหมายขวัญตัวเอก

ใน Panic Room นางเอก โจดี้ ฟอสเตอร์ โดนปล้นบ้าน และหนีเข้าไปอยู่ในห้องนิรภัยที่สร้างไว้กันคนร้ายโดยเฉพาะ และต่อสู้เอาตัวรอดจากการถูกจำกัดบริเวณแคบๆ

ใน Don’t Breathe ก็เป็นสถานการณ์คล้ายคลึงกัน ซึ่งตัวเอกต้องทำตัวเงียบเชียบที่สุด แทบว่าเพียงลมหายใจก็จะทำให้คนร้ายได้ยินและรู้ที่ซ่อนตัว

ดังความหมายของชื่อเรื่อง Don’t Move กำหนดสถานการณ์ให้ตัวเอกโดนจำกัดการเคลื่อนไหวแม้เพียงน้อยนิด เหลืออยู่แต่เพียงความรับรู้ต่อสิ่งรอบตัว ตัวเอกอยู่ในสภาพถูกกักขังอยู่ในร่างกายที่อ่อนเปลี้ยจนขยับเขยื้อนไม่ได้

ในเชิงจิตวิทยา นี่อาจเป็นความกลัวล้ำลึกอย่างหนึ่งที่แฝงตัวหรือฝังตัวซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกที่สุดของกมลสันดานมนุษย์

ความรับรู้ต่อโลกซึ่งเป็นไปในทางเดียว (one-way) โดยที่เราไม่สามารถตอบโต้หรือตอบสนองด้วยได้ เหมือนจะตกเป็นเหยื่อที่จำต้องเป็นฝ่ายรับทางเดียว ทำอะไรตอบกลับหรือมีปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยไม่ได้เลย

ซึ่งก็แปลว่าตัวเอกตกอยู่ในสภาพที่แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย

ภาพแรกที่หนังแนะนำตัวนางเอกของเรื่องคือ ไอริส (เคลซี แอสบิลล์) นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงนอน มีผู้เป็นสามีอยู่ข้างกาย ไอริสลืมตามองดูโลกด้วยร่างกายที่อ่อนเปลี้ยไม่อยากขยับเขยื้อนไปไหนเลย

แล้วเธอก็ค่อยๆ ฝืนกายยันตัวลุกขึ้น หยิบเรือพลาสติกสีแดง ขับรถออกจากบ้านไปโดยไม่ได้ปลุกสามีหรือบอกกล่าวอะไรให้รู้ว่าเธอจะไปไหน

เธอเดินดุ่มไปในป่าเขาตามลำพังจนถึงป้ายหลุมศพของลูกชาย ใบหน้าเฉยเมยว่างเปล่าไร้ความรู้สึกรู้สมใดๆ วางเรือของเล่นสีแดงไว้ให้ แล้วเดินไปยืนริมขอบเหว พร้อมจะก้าวดิ่งลงสู่หุบเหวสูงลิ่วเบื้องล่างทิ้งชีวิตอันเจ็บปวดไว้ในโลกเบื้องหลัง

ครั้นแล้วเธอก็ได้ยินเสียงคนพูดด้วย เขาทำท่าว่าจะเข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ไม่อาลัยไยดีกับการมีชีวิตอยู่บนโลก เขาแนะนำตัวว่าชื่อ ริชาร์ด (ฟินน์ วิตต์ร็อก) เคยผ่านความสูญเสียเยี่ยงเดียวกันมาแล้ว และเคารพการตัดสินใจครั้งนี้ของเธอ

ริชาร์ดเดินจากไปไม่ช้าไม่นาน ไอริสก็เดินตามเขาไปจนถึงที่จอดรถ ทำท่าจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

ตอนนั้นเองที่ริชาร์ดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา และจับไอริสมัดมือมัดเท้าใส่เบาะหลังรถขับออกไป เขาเคยทำแบบนี้มาแล้วจนเป็นนิสัย นั่นคือ เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่คอยจ้องหาเหยื่อคนต่อไป

ขณะนี้ไอริสตกเป็นเหยื่อของเขา ยิ่งกว่านั้น เขายังบอกอีกว่าได้ฉีดยาเข้ากระแสเลือดเธอไว้แล้ว และยาจะออกฤทธิ์ในอีก 20 นาที ซึ่งหลังจากนั้นเธอจะเป็นอัมพาตไปทั้งร่าง ไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกายได้เลย ได้แต่นอนนิ่งเฉยรับรู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวโดยปราศจากสมรรถภาพในการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อพิทักษ์ปกป้องตัว

ไอริสพยายามหนีและร้องหาคนช่วย ขณะที่ริชาร์ดตามมาอย่างใจเย็น เพราะรู้ดีว่าเธอจะรอดอยู่ได้เพียงไม่นานนัก

แต่ก่อนที่ยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ ไอริสทำได้เพียงปล่อยตัวเองร่วงหล่นลงแม่น้ำและลอยไปตามกระแสน้ำไหลแรงเชี่ยวกราก

จวบจนมีคนมาเจอร่างที่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้ ทำได้แค่กรอกตาแสดงอาการรับรู้

เรื่องยังไม่จบง่ายๆ แค่นี้ เพราะฆาตกรต่อเนื่องยังไม่ยอมปล่อยเหยื่อในอวยไปง่ายๆ ยังตามล้างตามผลาญสร้างกรรมต่อไปอีกไม่ยอมเลิกราไปง่ายๆ

แต่ความพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดกลับสร้างพลังให้แก่บุคคลผู้อับจนหนทางหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตให้แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

ธีมของหนังจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับความชอกช้ำเจ็บปวดแสนสาหัส และพลังใจในการมีชีวิตอยู่

หนังมองลึกเข้าไปในความกลัวพื้นฐานของมนุษย์ซึ่งดูดเอาพละกำลังออกไปจากตัวจนหมดสิ้น เมื่อตัวเอกของเรื่องถูกกักขังอยู่ในโลกที่หาจุดเชื่อมโยงไม่ได้หลังจากสูญเสียลูกชายไปในอุบัติเหตุที่เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง

และสำรวจอาณาบริเวณในจิตใจมนุษย์ซึ่งเกิดอาการแน่นิ่งเฉยชาต่อความเป็นไปของโลกรอบด้าน ดุจดังเป็นอัมพาตโดยไม่สามารถทำอะไรที่จะช่วยเหลือตัวเองให้หลุดออกจากโลกนั้นได้

ภูมิหลังของไอริสและของฆาตกรโรคจิตได้รับการเอ่ยถึงแบบผ่านๆ

เราไม่ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างไอริสกับสามีที่ยังอยู่ด้วยกันเลย นอกจากการเพิ่งสูญเสียลูกชายคนเดียวไปในอุบัติเหตุระหว่างกิจกรรมเดินป่า

ไม่ได้มีแม้แต่ความพยายามติดต่อภรรยาที่ดูจะหายตัวไปในเช้าวันหนึ่ง เป็นไปได้ว่าเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภรรยาหายไป

และคนดูได้รับรู้ภูมิหลังของริชาร์ดก็เพียงจากเรื่องที่เขาเล่า และจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับลูกสาวและภรรยา ซึ่งเข้ามาขวางแผนการลักพาตัวเหยื่อของเขาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

มีตัวละครอื่นอีกสองสามคนที่ผ่านเข้าฉากมาและไอริสขอความช่วยเหลือโดยไม่สามารถเล่าแจ้งแถลงไขอะไรได้มากนัก

เรื่องทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเอาตัวรอดของเธอตามลำพังในสภาพจำกัดอย่างยิ่ง

และคำพูดสุดท้ายที่เธอกล่าวแก่คนร้ายที่พยายามก่อกรรมทำเข็ญกับเธอ เป็นประโยคที่กระทบใจอย่างยิ่ง นั่นคือเธอกล่าวขอบคุณที่เขาก้าวเข้ามาในจังหวะที่เธอกำลังหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต และคิดจะจบชีวิตตัวเองให้พ้นไปจากโลกอันทุกข์ทรมานนี้

แต่การเอาตัวรอดก็เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอตระหนักว่าเธอยังไม่พร้อมจะลาจากโลกนี้ไป

เป็นหนังระทึกขวัญที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่นัก ด้วยการเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จ แต่ด้วยสิ่งละอันพันละน้อยที่แทรกแฝงอยู่ ทำให้เรื่องราวชวนติดตามพอใช้

ฉายทางเน็ตฟลิกซ์ค่ะ •

DON’T MOVE

กำกับการแสดง

Brian Netto and Adam Schindler

นำแสดง

Kelsey Asbille

Finn Wittrock

Moray Treadwell

Daniel Francis

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์