ส่องขุมกำลังทุนยักษ์ไทย-เทศ ตีตั๋วชิง ‘โปรเจ็กต์แสนล้าน’ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’

เรียกว่ายิ่งนานวัน ยิ่งคึกคัก สำหรับสมรภูมิชิงตั๋วลงทุนโปรเจ็กต์ “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หนึ่งในนโยบายเรือธง “รัฐบาลเพื่อไทย” เพื่อปั๊มรายได้เข้าประเทศ

พลันที่ “รัฐบาล” ประกาศเอาแน่ พร้อมเปิดพิกัด 5 พื้นที่เป้าหมายให้นักลงทุนที่สนใจเข้าไปปักหมุด อยู่ในกรุงเทพฯ 2 แห่ง พัทยา 1 แห่ง ภูเก็ต 1 แห่ง และเชียงใหม่ 1 แห่ง โดยใช้เงินลงทุนแห่งละ 50,000-100,000 ล้านบาท รอแค่ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนถูกกฎหมาย ผ่านการประทับตราจากคณะรัฐมนตรีและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ท่ามกลางการนับถอยหลัง “คิกออฟ” มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนทั้งไทยและต่างชาติ เดินสายเจรจาจับคู่ร่วมลงทุนกันอย่างคึกคัก

โดยเฉพาะยักษ์ “กาสิโน” เลื่องชื่อ ที่ทุกค่ายกำลังมุ่งหน้ามายังไทย ไม่ว่าบริษัท เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตส อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์, กาแล็กซี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์, แซนด์ส ไชน่า, วินน์ มาเก๊า และกลุ่ม Las Vegas Sands Corporation

ซึ่งในแต่ละรายได้เดินสายหยั่งเชิงนักลงทุนไทยอยู่หลายค่าย เพราะด้วยเป็นโครงการใหญ่ มีการลงทุนหลากหลายทั้งห้าง โรงแรม ร้านอาหารและบาร์ ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ศูนย์สุขภาพครบวงจร สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกม สระว่ายน้ำ สวนน้ำสวนสนุก จึงต้องเจรจาพาทีกันมากกว่า 1 รายในแต่ละแห่ง

 

ขณะที่นักลงทุนไทยได้เปิดเผยโฉมหน้าออกมาว่าสนใจคึกคัก ไม่แพ้ “ยักษ์กาสิโน”

เริ่มจาก “กลุ่มสนามม้านางเลิ้ง” หรือราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ประกาศร่วมกับบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ RSC และ 4 พันธมิตรต่างชาติ เช่น เกาหลี เล็งที่ดินหนองจอก 3,000 ไร่ ผุดโครงการ “The Royal Siam Haven” ประกอบด้วย สนามม้า คลับเฮาส์ สนามกอล์ฟ ยอร์ชคลับ โรงแรม 6 ดาว สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ภัตตาคาร โรงละคร โรงพยาบาล เวลเนส ศูนย์การเรียนรู้และกาสิโนถูกกฎหมายในอนาคต มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ว่ากันว่าฉากหลังของกลุ่มนี้มีบิ๊กดิวตี้ฟรีร่วมด้วย

ต่อมาเจ้าพ่อสวนน้ำ “ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้ (สวนสยามเดิม) ก็ประกาศสนใจและพร้อมลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บนเนื้อที่ 500 ไร่ ย่านมีนบุรี ด้วยวงเงิน 1 แสนล้านบาท ต่อยอดธุรกิจสวนน้ำสวนสนุก พร้อมระบุเป็นการลงทุนครั้งมโหฬารครั้งสุดท้ายในวัย 87 ปี

ในโครงการมีสวนสนุกสวนน้ำ พื้นที่พาณิชยกรรม โรงแรม ศูนย์อาหาร ศูนย์รวมความบันเทิง กาสิโน ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา ออกแบบ หาพันธมิตรร่วมลงทุน เช่น กลุ่มลาสเวกัส ฝรั่งเศส หรือในเอเชีย โดยสวนสยามจะลงทุน 50% หรือราว 5 หมื่นล้านบาท ด้วยการแปลงสินทรัพย์สวนสยามเดิม และที่ดิน 500 ไร่ ดำเนินการผ่านบริษัท บางกอกเวิลด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จำกัด

ขณะที่ชื่อ “บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด” หรือ UTA ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บมจ.การบินกรุงเทพ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ผู้รับสัมปทานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เนื้อที่ 6,500 ไร่ ก็ติดโผว่าสนใจเช่นกัน เพื่อดัน “สนามบินอู่ตะเภา” เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

สำหรับพื้นที่ “เมืองการบิน” บริษัทระบุมีเนื้อที่ 1,200-1,500 ไร่ และมูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ประกอบด้วยพื้นที่หลายส่วน อาทิ งานแสดงสินค้าและการจัดประชุม (MICE) อารีน่า ศูนย์การค้าระดับโลก โรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 3-6 ดาว เมดิคัลฮับ สำนักงานเกรดเอ ส่วนสถานบันเทิงและกาสิโน บริษัทพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล หากมีความชัดเจน

แต่ในทางลับว่ากันว่ากลุ่มนี้กำลังเปิดดีลดึงทุนดูไบมาร่วมจุดพลุโครงการ

 

“กลุ่มเดอะมอลล์” ใต้ลมปีก “ศุภลักษณ์ อัมพุช” เป็นอีกกลุ่มทุนที่สนใจและกำลังเตรียมความพร้อมเช่นกัน รอรัฐเคาะเงื่อนไขชัดเจน โดย “กลุ่มเดอะมอลล์” กำลังคุยกับนักลงทุนกาสิโนจากต่างประเทศ

3-4 ราย ได้แก่ ลาสเวกัส, วินน์ มาเก๊า, กลุ่มมาริน่า เบย์ แซนด์ จากประเทศสิงคโปร์ และนักลงทุนจีน เนื่องจากตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด จะต้องมีกาสิโนด้วย ขณะที่ “เดอะมอลล์” นั้น มีประสบการณ์แค่ธุรกิจค้าปลีก ส่วนธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ในลิสต์เงื่อนไข ต้องหาพันธมิตรเข้าร่วม

ตอนนี้ “เดอะมอลล์” กำลังทุ่มสรรพกำลังก่อสร้างโครงการ “แบงค็อก มอลล์” ย่านบางนา-ตราด บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ให้แล้วเสร็จปลายปี 2570 หาก “รัฐบาล” เคาะเกณฑ์ออกมาชัดเจน “เดอะมอลล์” ก็พร้อมปรับพื้นที่โครงการรองรับ หากได้ใบอนุญาต ก็ดำเนินการได้ทันทีและเปิดบริการได้เร็วกว่าพื้นที่อื่นๆ ด้วย

ด้าน “บริษัท พราว กรุ๊ป จำกัด” ธุรกิจของทายาทตระกูลลิปตพัลลภ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม สวนสนุกสวนน้ำในหัวหินและภูเก็ต ก็สนใจจะลงทุนพัฒนาโครงการในภูเก็ตและพังงา ด้วยบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ จึงต้องมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจ ปัจจุบันรอความชัดเจนจากรัฐบาล รวมถึงหาพาร์ทเนอร์ร่วมลงทุนด้วย เพราะเป็นโครงการใหญ่และมีการพัฒนาหลายส่วน

ที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ เพราะชื่อนี้ติดโผมานาน สำหรับย่าน “สถานีมักกะสัน” ซึ่งปัจจุบันมี “กลุ่มซีพี” ผู้รับสัมปทานโครงการถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) รวมถึงได้สิทธิ์การพัฒนาโครงการ TOD หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานี จึงคาดการณ์กันว่า “กลุ่มซีพี” น่าจะสนใจพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใจกลางกรุงด้วย

 

ล่าสุด “เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” บิ๊กบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ก็ประกาศจะโดดลงสนามแข่งด้วย ภายใต้บริษัท อันดามัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด บริษัทย่อยที่ตั้งขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียนตั้งต้น 100 ล้านบาท แถมระบุพิกัดชัด จะปักธง ‘ภูเก็ต-พังงา’ เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

งานนี้ “เฮียฮ้อ” ดึง “จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล” อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมธนารักษ์ มานั่งเป็นประธานบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาหมาดๆ

แม้เพิ่งตั้งไข่บริษัท แต่ว่ากันว่า “เฮียฮ้อ’ เอาแน่ เพราะมองเห็นโอกาส และน่าจะมีที่ดินในมือพร้อมลุย ถึงได้ระบุพิกัดพื้นที่ได้อย่างแจ่มชัด และน่าจะอยู่ในรัศมีทำเลที่มีศักยภาพ ไม่ไกลจากทะเลมากนัก เพื่อปั้นเป็นแลนด์มาร์กระดับเวิลด์คลาสของโลก

ในทางคู่ขนานอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกองทุนจากต่างประเทศหลายราย เพื่อร่วมกันลงทุนพัฒนาโครงการ

ด้วยชื่อชั้น “อาร์เอส” เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสื่อและความบันเทิงอยู่แล้ว ไม่ว่าค่ายเพลง คอนเสิร์ต มวย โชว์ ยังมีพันธมิตรธุรกิจจากต่างประเทศ ไม่ว่าเกาหลี ญี่ปุ่น ยังขาดในส่วนของโรงแรม ศูนย์การค้า สวนสนุกสวนน้ำ กาสิโน และยอร์ช ที่ “เฮียฮ้อ’ ต้องหาพาร์ตเนอร์เพิ่ม แต่น่าจะไม่ยาก หากทุกอย่างชัดเจนนั่นเอง

จากนี้คงมีรายใหม่ เปิดโฉมหน้าออกมาอีกเรื่อยๆ เพื่อชิงปักธง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โปรเจ็กต์แรกในประเทศไทย!