จิราธิวัฒน์ กับกลุ่มเซ็นทรัล

วิรัตน์ แสงทองคำviratts.wordpress.com
เตียง ผู้บุกเบิกรุ่นที่ 1 ถ่ายภาพกับ สัมฤทธิ์ บุตรชายคนโตและบุตรคนอื่น ๆ ในตระกูลจิราธิวัฒน์ ในวันเปิดห้างเซ็นทรัล สาขาราชประสงค์ พ.ศ. 2507 (ภาพจากหนังสือ จิราธิวัฒน์สัมฤทธิ์)

เรื่องราวกลุ่มเซ็นทรัล กับตระกูลจิราธิวัฒน์ แยกกันไม่ออกแต่ไหนแต่ไรมา ความเคลื่อนไหวล่าสุด ให้ภาพตอกย้ำเช่นนั้น

เพิ่งผ่านมา บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2567) เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารครั้งสำคัญ โดยแต่งตั้ง สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน ญนน์ โภคทรัพย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568

หากย้อนกลับไปเกือบ 2 ปีแล้ว บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มีมติแต่งตั้ง วัลยา จิราธิวัฒน์ ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน ปรีชา เอกคุณากูล (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)

ไทม์ไลน์สำคัญข้างต้น เป็นภาพต่อเนื่องอย่างสัมพันธ์กัน ที่น่าสนใจไม่น้อย

 

มิติแรก เกี่ยวกับกิจการในตลาดหุ้น กลุ่มเซ็นทรัล นำบริษัทซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมและอาหาร–บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เข้าตลาดหุ้น (ปี 2533) เป็นครั้งแรก จากนั้นตามมาด้วย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ธุรกิจสำคัญข้างเคียงในฐานะผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อค้าปลีก (ปี 2538)

ส่วนกรณีล่าสุดซึ่งเว้นวรรคมาถึง 25 ปี บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ถือเป็นบริษัทหลักสำคัญที่สุดก็ว่าได้ ใช้เวลาเตรียมการอยู่พักใหญ่ จากปลายปี 2562 จนครบกระบวนการเข้าตลาดหุ้นในต้นปีถัดมา (20 กุมภาพันธ์ 2563)

จากจุดนั้นถือได้ว่า เป็นฉากตอนใหม่ในการปรับตัวครั้งสำคัญของธุรกิจครอบครัวไทยซึ่งยาวนาน

เท่าที่ดูรายงานการเงินล่าสุด CRC มีรายได้ปีละราวๆ 250,000 ล้านบาท ขณะ CPN มีรายได้เกือบๆ 50,000 ล้านบาท อาจถือได้ว่าทั้งสองบริษัทมีความสำคัญที่สุดของเครือเซ็นทรัลเวลานี้ ส่วน CETEL ตามมาห่างๆ มีรายได้ระดับ 20,000 ล้านบาท

ภาพที่ใหญ่ขึ้น โครงสร้างบริหารข้างบนมี กลุ่มเซ็นทรัล (Central Group) ในนามบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด “กลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกและบริการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ดำเนินธุรกิจหลากหลายแขนง อาทิ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า, ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจบริหารและการตลาดสินค้าแฟชั่น, ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต, ธุรกิจร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจดิจิทัลไลฟ์สไตล์” ภาพกว้างๆ ซึ่งอธิบายกว้างๆ อย่างเป็นทางการไว้ (อ้างมาจาก https://www.centralgroup.com/)

จากข้อมูลทางการ (อ้างแล้ว) พบว่ากลุ่มเซ็นทรัล นอกจากมีถึง 3 บริษัทซึ่งอยู่ตลาดหุ้นไทยแล้ว ยังให้ความสำคัญอีกกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่า “ห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ในยุโรป” กำกับคำอธิบายสั้นๆ ไว้ “ด้วยเครือข่ายห้างสรรพสินค้าหรูในเมืองสำคัญ และสุดยอดโลเกชั่นทั่วยุโรป กลุ่มเซ็นทรัลก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ระดับโลก ด้วยอาณาจักรห้างหรูอันยิ่งใหญ่ ครอบคลุมหลายประเทศในยุโรป” มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า “40 สาขา ใน 7 ประเทศ และในเมิองใหญ่ 36 แห่ง”

พิจารณาโดยละเอียดพบว่า มีเพียงบางส่วนในนั้น อยู่ใน CRC “Rinascente ห้างสรรพสินค้าหรูในเครือเซ็นทรัล รีเทล ก่อตั้งในปี 1865 และขยายสาขาจนครอบคลุมกว่า 9 แห่งทั่วอิตาลี” ดังปรากฏในรายงาน

ภาพเป็นไปของ 3 บริษัทข้างต้นโดยเฉพาะ CRC กับ CPN จึงสำคัญ แม้ว่ากลุ่มเซ็นทรัลจะมีกิจการอื่นๆ อีกไม่น้อย

เตียง และสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2493 (ภาพจากหนังสือ จิราธิวัฒน์สัมฤทธิ์)

อีกมิติ ให้ภาพสะท้อนพัฒนาการของกลุ่มเซ็นทรัล ขับเคลื่อนโดยตระกูลจิราธิวัฒน์ ขยายกิจการอย่างคึกคัก ข้ามผ่านช่วงเวลาวิกฤตการณ์ปี 2540 มาได้ค่อนข้างดี ดูเป็นไปตามแบบแผน โดยทีมบริหารที่ต่อเนื่องที่สุดในบรรดาธุรกิจไทยด้วยโครงร่างธุรกิจครอบครัว

จากจุดเริ่มต้นโดย เตียง จิราธิวฒน์ ต้นตระกูล ผู้บุกเบิกในยุคก่อตั้ง (2499-2511) วางรากฐานสำคัญไว้ เปิดห้างเซ็นทรัลแห่งแรกที่วังบูรพา ถือเป็นต้นแบบห้างสรรพสินค้า (Department store) ในไทย (2499)

จากนั้นสู่รุ่นที่ 2 ในยุค สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ บุตรคนโตของเตียง จิราธิวัฒน์ (2511-2532) ผู้นำพาแสดงบทบาทนำในธุรกิจห้างสรรพสินค้าอย่างเด่นชัด เมื่อมีเซ็นทรัล สีลม (2511) และเซ็นทรัล ชิดลม (2516)

ตามมาด้วยยุค วันชัย จิราธิวัฒน์ (2532-2555) น้องชายซึ่งตามกันมา ได้ยกระดับไปอีกขั้น ช่วงคาบเกี่ยวการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-Use) มีโมเดลศูนย์การค้า (Shopping mall) – เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว (2525) และโรงแรม (2526) อยู่ด้วยกัน ว่าไปแล้ว เป็นต้นแบบ และที่มาของ CPN และ CENTEL จนเห็นผล และเข้าตลาดหุ้น

นอกจากนั้น ยังเป็นช่วงเวลาขยายอาณาจักรไปอย่างกว้างขวาง ด้วยความพร้อมและมั่นใจอย่างเต็มที่ของทีมบริหารที่มีประสบการณ์ เป็นปึกแผ่น ล้วนเป็นคนในตระกูลจิราธิวัฒน์

สิ่งสำคัญ เตียง จิราธิวัฒน์ ให้ไว้ไม่เพียงเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ หากมีทายาทจำนวนมากด้วย ซึ่งต่อมากลายเป็นพลังสำคัญ จากข้อมูลซึ่งอ้างอิงได้ (จากหนังสือ “จิราธิวัฒน์สัมฤทธิ์” หนังสืออนุสรณ์งานศพสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ปี 2535) ระบุ เขามีบุตร-ธิดาจากภรรยา 3 คน รวมกันมากถึง 26 คน อายุห่างจากคนแรก ถึงคนสุดท้ายราวๆ 30 ปีทีเดียว

ที่สำคัญในยุคสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ได้สร้างแบบแผนการดำรงอยู่ของครอบครัวไว้อย่างเป็นปึกแผ่น เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง อย่างน้อยใน 2 มิติ

หนึ่ง-พยายามให้สมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดี ผ่านการทำงานและแชร์ผลประโยชน์ร่วมกัน

สอง-ให้โอกาสศึกษาเล่าเรียนอย่างเต็มที่ ประหนึ่งเป็นการเตรียมทีมงานที่พร้อมจะรับช่วงกิจการต่อๆ ไป ต่อมาในยุควันชัย จิราธิวัฒน์ ช่วงฝ่าวิกฤตการณ์ปี 2540 จึงกลายเป็นรูปแบบ Family Council

อันที่จริงในช่วงคาบเกี่ยวนั้น บรรดาสมาชิกจิราธิวัฒน์หลายคนได้จบการศึกษาและผ่านประสบการณ์ทำงานกันมาพอสมควร ส่งผลให้เกิดการบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างเป็นระบบควบคู่ไปด้วย

สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ หัวเรือใหญ่ตระกูลจิราธิวัฒน์ รุ่นที่ 2 (ภาพจากหนังสือ จิราธิวัฒน์สัมฤทธิ์)

ว่าด้วยผู้นำ จากตำแหน่งประธานกลุ่มเซ็นทรัล บทบาทอย่างกว้างๆ ทั้งธุรกิจ และครอบครัว จากสัมฤทธิ์ ถึงวันชัย สู่โครงสร้างใหม่ มีตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหารกลุ่ม” ดูแลธุรกิจในเครือเป็นการเฉพาะ

เท่าที่ติดตาม น่าจะมีเค้าลางมาตั้งแต่ยุคการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เพื่อรับการขยายตัวในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟูก่อนวิกฤตการณ์ ด้วยปรากฏชื่อ สุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ (บุตรคนสุดท้องจากภรรยาคนแรก) มีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงหลังวิกฤตการณ์ ตามมาด้วย สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ (บุตรคนที่ 4 จากภรรยาคนที่ 2) มีบทบาทขึ้นมาโดยเฉพาะเป็นผู้บริหาร CPN ที่ต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้ ใน Profile ของเขา ยังระบุไว้ด้วยว่า เป็นประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ในช่วงปี 2552-2556 ด้วย

เป็นจังหวะต่อเนื่องพอดีกับอีกยุค เมื่อ ทศ จิราธิวัฒน์ (บุตรคนสุดท้องของสัมฤทธิ์) ก้าวขึ้นมาเป็นประธานกรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน

โครงสร้างการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้ตระกูลจิราธิวัฒน์ มีความซับซ้อนพอประมาณ ที่สำคัญดูเป็นส่วนผสมระหว่างรุ่นที่ 2 กับรุ่นที่ 3 อย่างลงตัว

โครงสร้างใหญ่ ในนาม คณะกรรมการบริหารกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งปรากฏชื่อชัดเจน (อ้างจาก https://www.centralgroup.com/) ล้วนเป็นรุ่น 3 ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับแผนการใหม่ๆ อย่างที่ผ่านมา ว่าด้วยการขบายเครือข่ายในต่างประเทศ ขณะบริษัทหลักสำคัญ – CRC กับ CPN ยังคงอยู่ในมือคนรุ่นที่ 2 เป็นไปอย่างน่าทึ่ง

วัลยา จิราธิวัฒน์ และ สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ เป็นพี่น้องจากมารดาคนเดียวกัน (ภรรยาคนที่ 3 ของเตียง จิราธิวัฒน์) หมายเลขที่ 24 และ 26 ตามลำดับ สุทธิสารมาหลังสุด ด้วยเป็นบุตรสุดท้อง เป็นคนสุดท้ายแห่งรุ่น 2

จะว่าไป ทั้งสองผ่านการบ่มเพาะ ด้วยมีความรู้ และประสบการณ์อันเชี่ยวกรำ ทั้งยังอยู่วัยที่เหมาะสม •