คอลัมน์ประจำ

‘โตโยต้า ALTIS’ – ‘มาสด้า CX-5’ ค่ายญี่ปุ่นปรับโฉม-รับศึกปลายปี

สันติ จิรพรพนิต
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 พฤศจิกายน 2567
คอลัมน์ยานยนต์
ผู้เขียนสันติ จิรพรพนิต
เผยแพร่

มากันเป็นชุดๆ กับการปรับโฉมรถญี่ปุ่นยอดนิยมจากค่ายโตโยต้า และมาสด้า

โตโยต้า นำโดยเก๋งยอดนิยม Corolla ALTIS

ส่วนมาสด้า จัดให้กับเอสยูวีตัวกลั่น CX-5

ไม่ใช่แค่ปรับโฉมธรรมดา แต่ทำราคาได้เร้าใจมากขึ้น หรือยืนราคาเดิมแต่เพิ่มออปชั่นอีกเพียบ

พร้อมกันนี้เพื่อกระตุ้นตลาดช่วงปลายปีและรับกับงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” คาร์โชว์ส่งท้ายระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคมนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

เริ่มกันที่ Corolla ALTIS MY 2024

ปรับเปลี่ยนทั้ง 4 รุ่นย่อย ตัวถังภายนอกทรงสวยไม่ต่างกัน

น้องเล็กขุมพลังเบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 125 แรงม้า แรงบิด 156 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85

กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายในใส่จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง

ที่เก็บสัมภาระด้วยเบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ

กล้องมองภาพขณะถอยหลัง และสัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ

Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ

สีภายนอกใหม่สีเทา Cement Gray Metallic

ราคา 894,000 บาท

ขยับอีกนิดเป็นรุ่น 1.8 SPORT กำลังเพิ่มขึ้นเป็น 140 แรงม้า แรงบิด 177 นิวตัน-เมตร

เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift

สีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray Metallic

กระจังหน้าดีไซน์ Polygon ไฟหน้า LED โปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding ตัดหมอกหน้า LED

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ภายในหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า

เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense,ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)

ราคา 979,000 บาท

รุ่นท็อป และรองท็อป เป็นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร เปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion

เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกันให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT

รุ่น GR SPORT มาพร้อมดีไซน์เอกลักษณ์ของ GR ผสานความสปอร์ตใหม่ตั้งแต่กันชนหน้าและกระจังหน้าสีดำเงา

หลังคาสีดำเงา สปอยเลอร์หลังสีดำเงา

ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens

ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว

ภายในเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หนัง Suede แบบเจาะรูและหนังสังเคราะห์ เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และ Lumbar Support แบบไฟฟ้า

เข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ GR SPORT ภายในเดินด้ายสีแดง ตกแต่งสีแดงและสีเงิน Smoked Silver

พวงมาลัยพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ตกแต่งสัญลักษณ์ GR

ปุ่ม Push Start และ Smart Key ตกแต่งสัญลักษณ์ GR

จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HUD

หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร

เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)

ฯลฯ

HEV GR SPORT ราคา 1,129,000 บาท

และ HEV PREMIUM ราคา 1,009,000 บาท

สวนมาสด้า CX-5 ที่แม้จะวิ่งบนถนนมานานพอสมควร แต่การไมเนอร์เชนจ์ครั้งล่าสุด เพิ่มความสปอร์ต และออปชั่นต่างๆ เข้ามาอีกเพียบ

ไม่นับการตั้งราคาที่ลดลงระดับ 1-2 แสนบาทต่อรุ่นย่อย

เครื่องยนต์ยังมีให้เลือก 2 บล็อกเหมือนเดิม ทั้งเบนซิน 2.0 Skyactiv-G แบบ DOHC 4 สูบ

ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

รองรับน้ำมันสูงสุด E85 อัตราสิ้นเปลือง 13.5 กิโลเมตร/ลิตร

ขณะที่เครื่องยอดนิยม ดีเซล 2.2 Skyactiv-D DOHC 4 สูบ พร้อมเทอร์โบ

กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ i-ACTIV AWD (Real-time)

อัตราสิ้นเปลือง 15.9 กิโลเมตร/ลิตร

ความปลอดภัยหายห่วงกับ i-Activsense

เด่นๆ เช่น ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน

เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน

ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go

เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ

ช่วยหยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ฯลฯ

ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน มองเผินๆ เปลี่ยนไปไม่มากนัก มีเพียงรายละเอียดยิบย่อย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะออกแบบได้อย่างลตัวตั้งแต่แรกแล้ว

กระจังหน้าทรงสวยรับกับไฟหน้าแบบใหม่ โปรเจ็กเตอร์ LED อัจฉริยะ ปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ ปรับองศาตามการเลี้ยวของรถ

ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Light

ไฟท้ายใหม่ LED Signature

กันชนหน้าและกันชนหลังแบบใหม่ ชุดตกแต่งคิ้วข้างประตู

ประตูท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี

ภายในเน้นสีโทนดำ กรุด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม ตัดด้วย Real Wood และสีซาตินโครม

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มาตรวัดแบบดิจิทัล สี TFT ขนาด 7 นิ้ว

พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า

ตรงกลางเป็นจอทัชสกรีน 8 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander

ระบบเสียง Bose ลำโพง 10 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone

ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

มาสด้า CX-5 ไมเนอร์เชนจ์มี 3 รุ่นย่อย

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร(รุ่น S และ SP) เริ่มต้นประมาณ 1,150,000-1,350,000 บาท

เครื่องยนต์ดีเซล XDL ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600,000-1,700,000 บาท •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]