ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 - 21 พฤศจิกายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
การเล่นกีฬากลางแจ้ง
ทำให้ผู้หญิงมีความสุขมากขึ้น
การเล่นกีฬา มีจุดประสงค์ให้มีร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกีฬาในร่มหรือกลางแจ้ง ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น
มีงานศึกษาของเว็บไซต์ womeninadventure.com ที่ร่วมมือกับ Shextreme Film Festival ค้นพบว่า การเล่นกีฬากลางแจ้งช่วยเสริมสร้างความสุขและความมั่นใจให้กับผู้หญิงมากยิ่งขึ้น
การสำรวจผู้หญิง 2,400 คน จาก 44 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่อายุ ระหว่าง 26-45 ปี
ผู้หญิงจำนวน 99.6% บอกว่า การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ช่วยทำให้พวกเธอมีความสุข
ผู้หญิงจำนวน 99.7% บอกว่า กีฬากลางแจ้งช่วยให้ตนมีสุขภาพแข็งแรง
และ 94.4% บอกว่า ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
มีคำ 5 คำที่ผู้หญิงใช้กล่าวถึงประสบการณ์เล่นกีฬากลางแจ้งของพวกเธอมากที่สุด ได้แก่
อันดับ 5 สงบ (calm) 15.7%
อันดับ 4 ผ่อนคลาย (relaxed) 16.3%
อันดับ 3 มีสมาธิ (focused) 20.5%
อันดับ 2 อิสระ (free) 24.1%
และอันดับ 1 มีความสุข (happy) 33.3%
ในการสำรวจยังให้ผู้หญิงแต่ละคนเลือกกีฬากกลางแจ้ง 3 ชนิดที่ตัวเองเล่นบ่อยที่สุด กีฬากลางแจ้งยอดนิยม 3 อันดับแรก ได้แก่ วิ่ง (1,015 คน) ปั่นจักรยาน (1,103 คน) และปีนเขา (1,475 คน)
แต่เมื่อนำข้อมูลมารวบรวมและวิเคราะห์อย่างละเอียด พบว่าผู้หญิงที่พายเรือคายัค ให้ระดับคะแนนสุขภาพจิตของตัวเองเยอะกว่าคนที่ไม่เล่นเรือคายัค ไม่ว่าจะเป็นด้านความพอใจในชีวิต (Life Satisfaction) ความคุ้มค่าของชีวิต (Worthwhile) ความสุข (Happiness) และมีระดับความวิตกกังวล (Anxiety) น้อยกว่าคนที่เล่นกีฬาชนิดอื่นๆ
รองลงมาคือผู้หญิงที่เล่นสกี พายเรือแคนู และว่ายน้ำ
ส่วนผู้หญิงที่ให้ระดับคะแนนความสุขตัวเองน้อยที่สุดในงานสำรวจครั้งนี้คือกลุ่มคนที่เล่นกีฬาปีนหน้าผา (climbing) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากีฬาปีนหน้าผาเป็นกีฬาที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่ว่าจะเล่นกีฬาชนิดใด หากเป็นกีฬาที่เราชอบ ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจทั้งสิ้น
เคยมีผลการศึกษาของบริษัท เอิร์นส์ต แอนด์ ยัง (Ernst & Young) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีสี่แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ศึกษาถึงความสัมพันธ์ ในการเล่นกีฬาของผู้หญิงตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมหรือมัธยม กับความสำเร็จในหน้าที่การงาน เมื่อเติบโตขึ้น
ผลการศึกษาน่าสนใจมาก คือจากการศึกษาของเอิร์นส์ต แอนด์ ยัง พบว่า 90% ของผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร หรือผู้จัดการของบริษัทใหญ่ เล่นกีฬาสมัยเป็นนักเรียนประถมศีกษา มัธยมศึกษา หรือมหาวิทยาลัย
บริษัท เอิร์นส์ต แอนด์ ยัง ได้ทำการสำรวจออนไลน์ผู้บริหารและผู้จัดการทั้งหญิงและชายทั่วโลกจำนวน 821 คน คิดเป็นสัดส่วนผู้หญิง 40% และผู้ชาย 60% ดำรงตำแหน่งในองค์กรใหญ่ ที่มีรายได้ต่อปีเกิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,450 ล้านบาท
พบว่าผู้หญิงที่ดำรงตำแหนงผู้บริหารสูงสุดขององค์กร จำนวน 67% ยังเล่นกีฬาหลังจากเรียบจบและมีงานประจำทำ ส่วนผู้หญิงระดับผู้จัดการองค์กร จำนวน 55% ยังเล่นกีฬาตอนที่ทำงานแล้ว
ถามว่า การเล่นกีฬาสมัยเรียน ตลอดจนเรียนจบแล้วก็ยังเล่นกีฬาอยู่ มีส่วนช่วยในการประสบความสำเร็จในอาชีพการงานในอนาคตของผู้หญิงอย่างไร
คณะผู้ศึกษาได้สำรวจความเห็นของผู้หญิงซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารและผู้จัดการ และได้คำตอบที่น่าสนใจดังนี้
72% ของผู้หญิงเห็นว่า การเล่นกีฬาทำให้มีประสบการณ์การทำงานร่วมกันเป็นทีม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำงาน
76% ของผู้หญิงเห็นว่า การนำเทคนิคที่ใช้ในการเล่นกีฬาร่วมกันเป็นทีมมาใช้ เวลาทำงานกับเพื่อนร่วมงาน เป็นวิธีการที่ได้ผลในการพัฒนาการทำงานร่วมกันในองค์กร
82% เห็นว่า การพัฒนาประสิทธิภาพของการทำงานร่วมกันเป็นทีมของพนักงานในองค์กร สู้กับองค์กรคู่แข่งได้
90% เห็นว่า การทำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจได้ดีที่สุด การเล่นกีฬามีผลด้านบวกในการช่วยสร้างเสริม พัฒนานิสัยให้เป็นหัวหน้าที่ดี
ไม่จำเป็นต้องเล่นกีฬาเก่ง แต่การมีประสบการณ์การเล่นกีฬา ก็ช่วยสร้างทักษะการเป็นผู้นำ คิดแก้ปัญหาเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว มีจิตวิญญาณของการเป็นนักสู้ และรู้จักการทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อให้ได้ผลสูงสุดแก่องค์กร
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022