ชัยชนะของ ‘หมูเด้ง’ ชัยชนะของ ปิกมี่ ฮิปโป

ปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ดารา “ไวรัล” ที่โด่งดังระดับโลกของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นเรื่องเกินความคาดหมายของใครต่อใครหลายๆ คน เพราะน้องหมูเด้งเธอไม่เพียงโด่งดังเอามากๆ ยังดังนาน นานมากอีกด้วย

เรียกได้ว่าสวนสัตว์ที่ไหนอยากดัง อยากได้รับความสนใจมากขึ้น ก็ต้องหาดารามาประกบ มาอ้างอิงถึงหมูเด้งของไทยเรา

น้องหมูเด้ง ดังชนิดที่ว่า หนังสือพิมพ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสื่อระดับโลกอย่างนิวยอร์ก ไทม์ส ยังหยิบไปเขียนถึง ที่สำคัญก็คือ ไม่ได้เขียนถึงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นอีกด้วย

นิวยอร์ก ไทม์ส เคยนำเสนอเรื่องราวของหมูเด้ง ปิ๊กมี่ ฮิปโปโปเตมัส ของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 24 กันยายนที่ผ่านมา

แต่เมื่อ 5 พฤศจิกายนนี้ โจเซฟ เบิร์นสตีน ผู้สื่อข่าวของนิวยอร์ก ไทม์ส ก็หยิบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องและพาดพิงถึงหมูเด้งมาเขียนถึงอีกครั้ง

เรื่องของเรื่องเป็นเพราะมีความพยายาม “ประชัน” ขันแข่งเพื่อแสวงหาความโด่งดังจากน้องหมูเด้งนั่นเอง

 

คู่แข่งตัวใหม่ของหมูเด้ง ที่ว่านี้คือ “แฮกกิส” ปิ๊กมี่ ฮิปโป ของสวนสัตว์เอดินบะระ ในสกอตแลนด์ เพิ่งคลอดออกมาเมื่อ 30 ตุลาคม สัปดาห์ที่แล้วนี่เอง

พอข่าวคราวการคลอดของแฮกกิสสะพัดออกไป หลายคนก็เริ่มนำมาเปรียบเทียบกับน้องหมูเด้ง ดาราที่จังหวัดชลบุรีของเรา

ด้วยเหตุที่ว่า ทั้งคู่ไม่เพียงเป็นปิ๊กมี่ ฮิปโป เหมือนกัน ยังถูกนำเอาชื่ออาหารมาตั้งเป็นชื่อเหมือนกันอีกด้วย (แฮกกิส คือพุดดิ้งชนิดหนึ่ง)

โจเซฟ เบิร์นสตีน บอกว่า นับตั้งแต่แรกคลอดเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา หมูเด้งก็เข้าไปอยู่ในใจ อยู่ในความคิดของชาวเน็ตทั่วโลก

เนื่องจากคลิปวิดีโอและภาพนิ่งที่เผยแพร่ต่อๆ กันจนเป็นไวรัล บวกกับบุคลิกน่ารัก อวบๆ กลมๆ ผสมกับความขี้งอน ขี้วีน กับการไล่งับผู้ดูแลเป็นพักๆ ซึ่งโจเซฟได้รับคำบอกจากทางส่วนสัตว์เปิดเขาเขียวว่า เป็นเพราะน้องกำลังคันฟันที่กำลังงอกนั่นเอง

พอถึง 4 พฤศจิกายน สวนสัตว์เอดินบะระ ก็ประกาศการท้าทายต่อหมูเด้งโดยตรง ด้วยการโพสต์ข้อเขียนบนเว็บไซต์ของสวนสัตว์

พาดหัวของข้อเขียนแสดงเจตนาชัดเจน “หมูเด้งน่ะ ใครเหรอ?” (“Moo Deng Who?”)

แถมเจ้าหน้าที่สวนสัตว์บางคนยิ่งท้าทายมากขึ้นไปอีกเมื่อนำเรื่องนี้ไปโพสต์บนเอ็กซ์ ด้วยข้อความระบุว่า

“หมูเด้ง? ใครเด้ง? เชิญพบกับ…แฮกกิส”

 

ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่รอช้า ตอบกลับทันทีในวันเดียวกันแบบไม่ยอมว่า “ก็น่ารักทั้งคู่แหละ”

บรรดายูสเซอร์บนโซเชียลมีเดีย เคลื่อนไหวกันคึกคักทันตาเห็น ลงมาเล่นสนุกกับเทรนด์สองปิ๊กมี่ ฮิปโปกันครึกครื้น

บ้างถือหางหมูเด้ง บางคนก็เข้าข้างแฮกกิส แบบทีเล่นทีจริงกันสนั่นไป

เดือดร้อนถึงสวนสัตว์เอดินบะระ ต้องออกมายอมยกธงขาว โพสต์ข้อความ “ขออภัย” บนเอ็กซ์ ความว่า “เราผิด ที่ยกแฮกกิสขึ้นมาประชันกับหมูเด้ง โลกนี้ยังมีที่เหลือเฟือ ให้ดีวาปิ๊กมี่ ฮิปโป ทั้งสองตัวอยู่ด้วยกัน พวกเราควรเฉลิมฉลองทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันนะ”

และถึงแม้จะประชันกับหมูเด้งจนได้รับความสนใจมากมายในชั่วข้ามคืน แต่สวนสัตว์เอดินบะระก็ยังไม่เปิดให้ใครเข้าชมน้องแฮกกิสอยู่ดี เพราะต้องเฝ้าระวังแฮกกิสที่เพิ่งคลอดอย่างใกล้ชิดไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะแน่ใจว่าอยู่รอดปลอดภัย

โจเซฟ เบิร์นสตีน ระบุว่า ความโด่งดังของหมูเด้งก็ดี แฮกกิสก็ดี ล้วนแสดงถึงข้อเท็จจริงสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ ปิ๊กมี่ ฮิปโป เป็นสัตว์หายากอย่างยิ่งแล้วในเวลานี้

ตามข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ซึ่งจัดปิ๊กมี่ ฮิปโป ให้อยู่ในสัตว์ที่ถูกคุกคามจนใกล้สูญพันธุ์ (บัญชีแดง) ระบุว่า ทั้งโลกหลงเหลือปิ๊กมี่ ฮิปโป อยู่ในสภาพธรรมชาติเพียงแค่ 2,500 ตัวในพื้นที่ป่าแอฟริกาตะวันตก หลังจากสูญเสียประชากรส่วนใหญ่ให้กับการล่า และการสูญเสียพื้นที่ที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย

จอห์น แอปเปิลยาร์ด หัวหน้าผู้ดูแลของสวนสัตว์เอดินบะระ แถลงปิดท้าย ยืนยันเอาไว้ว่า การที่หมูเด้งกลายเป็น “ไอคอน ระดับโลก” ไปในเวลานี้ เป็นการตอกย้ำให้เราได้ตระหนักว่า ปิ๊กมี่ ฮิปโป ในเวลานี้นั้น เป็นสัตว์ “หายาก” และต้องใส่ใจดูแลขนาดไหน

ปรากฏการณ์อย่างหมูเด้ง และแฮกกิส จึงควรกระตุ้นให้เราได้สำนึกว่าควรดูแลสัตว์หายากที่หลงเหลือน้อยเต็มทีนี้ในธรรมชาติให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ชัยชนะของหมูเด้ง ชัยชนะของแฮกกิส จึงควรเป็นชัยชนะของปิ๊กมี่ ฮิปโป ทั้งมวลไปพร้อมๆ กัน