หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๒๐๗)

๑

เมื่อฉันดูหนังซีรี่ส์ Reign ฉันก็พบว่า fantasy ช่างคาดเดาได้ยากจริงๆ แตกต่างกับเรื่องจริง ในประวัติศาสตร์ ที่คาดเดาได้ เพราะมันถูกจำกัดด้วยความหวาดกลัว ความโลภ ความแค้น มันถูกบีบไว้หมด

แต่ใน fantasy เรื่องราวดำเนินไป ตามความต้องการของผู้เขียน นางเอกช่างงามสง่า อาจหาญ เช่นเดียวกับพระเอก ที่กล้าคิด กล้าทำ

๒

ประวัติศาสตร์จริง ชีวิตผู้คนเหล่านั้นจะอยู่ภายใต้ความกลัว

๓

ฉันเชื่อว่า Nero สั่งเผากรุงโรมในยามค่ำคืน เพราะต้องการเห็นความงามของแสงไฟ มองดูในวันนี้ มันช่างไม่มีเหตุผล แต่ในวันนั้น มันคือความงามอย่างแท้จริง บวกกับความคิดที่ว่า กรุงโรมเก่าแล้ว สมควรสร้างใหม่ แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คิด คือมีชีวิตคนเป็นแสนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

ประเด็นนี้น่าคิดยิ่งนัก เพราะเขาอาจคิดก็ได้ แต่ในความคิดของเขา ก็ไม่เหมือนสิ่งที่เราคิด

มีบางอย่างเลือนราง จับต้องได้ยาก

มีบางสิ่งสูญหายไปแล้ว ในกาลเวลา

๔

มีหนังหรือละครมากมายสมัยใหม่ ที่สร้างย้อนยุค แต่ตัวละครทุกตัว มีพฤติกรรมแบบคนสมัยใหม่ เพียงแค่ว่าอยู่ในเวทีของโลกสมัยเก่า

หนังเหล่านี้ ส่วนใหญ่ฉันจะทนดูไม่ได้ แต่ก็มียกเว้น เรื่องที่ยกเว้น คือเรื่องที่ฉันยอมรับ ว่านี้คือ fantasy และสนุกกับมัน

๕

แต่มีหนังบางเรื่อง สร้างย้อนยุค และพยายามคาดเดาว่าคนโบราณเหล่านั้น ควรมีพฤติกรรมอย่างไร และสร้างให้ใกล้เคียงที่สุด

หนังแบบนี้ สร้างยากกว่ามาก และท้าทาย มันเป็นงานสติปัญญา ทุกจุด มีสิ่งที่ต้องคิด ต้องสงสัย แต่นี้คืองาน เราล้วนไม่ได้เกิดในยุคโบราณเหล่านั้น

เราได้แต่คาดเดา

๖

บนท้องฟ้ามีซูเปอร์โนวา ความตายครั้งใหญ่ในจักรวาล เพราะทุกครั้งที่เกิดซูเปอร์โนวา ดวงดาวที่อยู่ในรัศมีหนึ่งร้อยปีแสง จะตกอยู่ในความตาย แต่การเกิดขึ้นของซูเปอร์โนวานี้ สำหรับคนมองที่อยู่ห่างไกล มันคือความงดงาม

มันงดงามยิ่งนัก งดงามระดับจักรวาล

นี้คือความย้อนแย้งของความตาย

๗

Superhero มีอยู่จริงไหม เราคร่ำครวญ เราใฝ่หา

สมมติว่ามีอยู่จริง จะเป็นอย่างไร

เขาจะเลือกทำอะไร เขาจะอยู่พรรคการเมืองไหน เขาจะอยู่ฝ่ายซ้ายหรือขวา

เขาจะสนับสนุนประชาธิปไตย หรือสนับสนุนเผด็จการ

เราเคยคิดบ้างไหม

๘

การมีอยู่ของ Superhero อันตรายยิ่งนัก มันทำลายความสมดุลบางอย่างลง ยกตัวอย่างเช่น เกาหลีเหนือ หากพวกเขามีซูเปอร์ฮีโร่สักสิบคน แสนยานุภาพในทางการทหารของพวกเขาจะเปลี่ยนไปทันที ใครจะไปสู้กับเกาหลีเหนือได้ แค่คิดเล่นๆ โลกนี้ ก็ก้าวเข้าสู่กลียุค

เรามักคิดว่า Superhero คือคนดี หรืออย่างน้อย ก็ต้องมีฝ่ายดี มาสู้กับ Supervillain

แต่หากเราคิดไกลออกไปหน่อย เราจะพบว่า สิ่งนี้ดำรงอยู่ไม่ได้ และหากมี ก็จะอันตรายยิ่งนัก

โชคดี ที่โลกนี้ไม่มี Superhero

เรามีแต่คนธรรมดา

เราจึงยังพอมีกติกาบางอย่างให้คิดได้

ในโลกยุคดิจิตอลอย่างวันนี้ มนุษย์ได้กลายเป็นธรรมดากันหมด ยิ่งกว่าเดิม

มนุษย์ทุกคน แทนที่กันได้

๙

แต่ในโลกที่มีประชากรเป็นหมื่นล้าน และมีความซับซ้อนเป็นอันมาก ฉันเคยเห็นในทีวี คนบางคนที่เก่งกาจอย่างเหลือเกิน เช่น คนที่คิดเลขเร็ว ภายในสองวินาที เธอสามารถบวกเลขหกหลัก จำนวนหกตัว ออกมาได้ ที่น่าทึ่งยิ่งนักคือตัวเลขหกตัวนี้ ปรากฏขึ้นบนจอคอมพิวเตอร์แบบวิ่งไปวิ่งมา และปรากฏขึ้นเพียงพริบตาเดียว สายตาคนธรรมดา จะมองไม่ทันด้วยซ้ำ

แต่ดวงตาของเธอ สมองของเธอ ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน

คนแบบนี้คือ Superhero แสดงว่าคนแบบนี้ก็มีอยู่จริง ไม่รู้มีจำนวนเท่าไร และมีความสามารถไปไกลได้แค่ไหน แต่เธอแตกต่างกับเราแน่นอน

๑๐

เวลาเราคิดถึงความตาย

มีเพียงแค่สองความเป็นไปได้

๑ ยอมรับมัน

๒ ไม่ยอมรับมัน

ยอมรับมัน ง่าย

แต่การไม่ยอมรับมัน ก่อให้เกิดเรื่องราวมากมาย เหมือนคนที่ดิ้นรนก่อนตาย เขาจะดิ้นทุรนทุราย มีอะไรให้คิด มีอะไรให้ทำมากมาย

ในหนึ่งชีวิตนี้ ฉันเคยเจอคนที่ไม่ยอมรับความตาย และคิดอย่างลึกซึ้ง เขาดิ้นรนอย่างแสนสาหัส ฉันนับถือเขาแบบปราชญ์ แต่วันนี้เขาก็ตายไปแล้ว และสิ่งที่เขาทำไว้ ก็สูญสลายไปหมด

ศาสนา ที่จริง เกิดจากความกลัวในความตาย ดิ้นรนทุรนทุราย

ศาสนา ไม่สามารถอยู่ได้ในความว่างเปล่า

มันต้องตั้งมั่นอยู่ บนความกลัวของมนุษย์

๑๑

มีคนเชื่อว่าโลกนี้ไม่สำคัญ มันเป็นเพียงไอเดีย

สิ่งที่สำคัญกว่า คือสิ่งที่เกิดจากโลก ดังนั้น มนุษย์จึงมีความสำคัญ

มนุษย์จึงไปไหนก็ได้ และเรียกสถานที่แห่งนั้นว่า โลก

โลกจะตามเราไปตลอด

๑๒

อีกความคิดหนึ่งคือ โลกคือสถานที่ คือดาวเคราะห์โลกดวงเดียวนี้ เพียงหนึ่งเดียวในจักรวาล

หากไม่มีมัน ก็ไม่มีโลก

ในวันนี้ เรายังไม่รู้ว่าความคิดใดถูก เพราะเรายังมีข้อมูลไม่พอ