เข้าสู่โหมดนับถอยหลังกับการดวลวงสะวิง กอล์ฟการกุศล “ประชาชาติธุรกิจ” หนึ่งในกิจกรรมประจำปี

ปีนี้จัดขึ้นวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่สนามโรบินส์วูด กอล์ฟคลับ จ.ปทุมธานี สนามกอล์ฟระดับ Luxury ของบริษัท เรนวูด ปาร์ค จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก

นอกจากเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหาร น.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ ผู้บริหารเรนวูด ปาร์ค กับพันธมิตรทุกแขนง

ยังเพื่อระดมทุนหารายได้นำไปใช้ในกิจกรรมช่วยลด Climate Change ส่งเสริมให้ประชาชนสนใจรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและเล่นกีฬา

แน่นอนว่าในทุกๆ ครั้งจะมีไฮไลต์ในหลุม “โฮลอินวัน” 4 หลุม

ปีนี้จัดใหญ่ จัดเต็ม แจกรถยนต์ไฟฟ้า 2 คัน

รถยนต์ไฟฟ้า MG4 มูลค่า 809,000 บาท

รถยนต์ไฟฟ้า BYD ดอลฟิน มูลค่า 569,000 บาท

รวมถึงรถจักรยานยยนต์ ยามาฮ่า FAZZIO และไม้กอล์ฟ Driver&Fairwood ST200 Mizuno 2 อัน

โดย 2 รางวัลหลัง หากไม่มีนักกอล์ฟท่านใดทำได้ จะนำมาแจกเป็นของรางวัลพิเศษบนเวทีด้วย

โอกาสนี้ “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” จึงนำรถทั้ง 2 รุ่นมาแนะนำแบบพอสังเขป

ยั่วน้ำลายท่านนักกอล์ฟที่เข้าร่วมกิจกรรม

ใครที่ดวงดีและฝีมือจัดจ้าน ตีโฮลอินวัน แบบช็อตเดียวลงหลุม

ขับกลับบ้านได้เลย

ประเดิมกันที่ “BYD ดอลฟิน” เก๋งขนาดกะทัดรัด รูปทรง 5 ประตู ด้านนอกเน้นความเรียบง่าย กระจังขนาดเล็กสีดำพร้อมสัญลักษณ์ BYD

ไฟหน้าแบบ LED พร้อมระบบ Follow Me Home ปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED

ไฟท้ายแบบ LED ลากยาวแนวขวาง

กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบทำความร้อน

เสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลลอยทูโทนขนาด 16 นิ้ว

ภายในสีทูโทนพวงมาลัย 3 ก้านแบบไฟฟ้าพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

เรือนไมล์ขนาดเล็กแบบดิจิทัลขนาด 5 นิ้ว

จอกลาง 12.8 นิ้ว ปรับหมุนอัจฉริยะ รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับ Apple CarPlay

สั่งการด้วยเสียงเป็นภาษาไทย

ลำโพง 6 ตำแหน่ง

เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 มีที่เท้าแขนกลางให้

พื้นราบเรียบเพิ่มความสบายในห้องโดยสารตอนหลัง

ขุมพลัง 2 บล็อก รุ่น Standard Range ความจุ 44.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แรงบิด 180 นิวตัน-เมตร

อัตราเร่งที่ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 12.3 วินาที

ชาร์จเต็มวิ่งไกลสุด 410 กิโลเมตร

ส่วนรุ่น Extended Range ความจุ 60.48 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังมอเตอร์ 150 กิโลวัตต์ แรงบิด 310 นิวตัน-เมตร

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7 วินาที

เดินทางได้ไกล 490 กิโลเมตร

มาพร้อมด้วยหัวชาร์จ AC Type 2 ขนาด 7 กิโลวัตต์

พอร์ตชาร์จ DC ขนาด 60 และ 80 กิโลวัตต์

เทคโนโลยี Vehicle to Load (VtoL) จ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 2000w ถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

ความปลอดภัยและตัวช่วยต่างๆ อาทิ ถุงลม-ม่านนิรภัย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่

กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา

ระบบความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้า-หลัง

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ฯลฯ

ส่วน “MG4” การันตีความร้อนแรงด้วยรางวัล “รถยนต์พลังไฟฟ้ายอดเยี่ยม 2566” โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.)

สรยท.จะคัดรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 1 รุ่นที่จำหน่ายในปี 2566 แล้วมอบรางวัลนี้ให้

ควบคู่ไปกับรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566” (THAILAND CAR OF THE YEAR 2023) ซึ่งแจกเพียง 1 รางวัลเช่นกัน

ภายนอกสไตล์แฮชแบ็ก 5 ประตู กระจังหน้าดีไซน์ “shark-nosed”

ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX ออกแบบทรงเฉี่ยวคล้ายตาเหยี่ยว พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home

ไฟท้าย LED แนวตั้งพาดยาวครอบทั้งฝาท้ายลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT

พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING

หลังคาทูโทนสีดำ เช่นเดียวกับกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวและพับ-ปรับไฟฟ้า

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายสวยแบบทูโทนดำ-เงิน พร้อมยาง 215/55

ภายในสีทูโทนเทา-ดำ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบไฟฟ้าหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง

หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว

ตรงกลางเป็นจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android ลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบเกียร์แบบหมุนไปมา

มีโหมด Intelligent Smart Access เมื่ออยู่ในตำแหน่งคนขับเพียงเหยียบเบรก รถจะสตาร์ตอัตโนมัติ

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Permanent Magnet Synchronous Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง

กำลังสูงสุด 170 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,000-3,500 รอบ/นาที

ความจุแบตเตอรี่ 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง (kWh)

ระยะทางวิ่งไกลสุด 425 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

แบตเตอรี่เทคโนโลยี RUBIKžs CUBE BATTERY จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอน ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM

ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge DC กระแสตรง 10-80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge AC กระแสสลับ ผ่าน MG HOME CHARGER 0-100% ใช้เวลาประมาณ 8.30 ชั่วโมง

มีระบบ V2L ไฟฟ้าจากรถยนต์จ่ายพลังงานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ด้วย

ระบบความปลอดภัยมาครบครับ เช่น กล้องมองรอบด้านด้วย 3D AROUND VIEW MONITOR

ระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล

ระบบช่วยเตือนการชน, ระบบช่วยเบรก, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ฯลฯ

สนใจรุ่นไหนไปลองขับและจับจองกันได้

ส่วนถ้าใครมาร่วมสนุก กอล์ฟการกุศล ประชาชาติธุรกิจ มีสิทธิ์ลุ้นรถไฟฟ้าทั้ง 2 คันไปได้ฟรีๆ •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022