ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 พฤศจิกายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
วันก่อน ผมไปดูคอนเสิร์ตวงนั่งเล่น
“จากคนเขียน ถึงคนฟัง”
เป็นคอนเสิร์ตเล็กๆ ที่โรงละครอักษรา เธียเตอร์
วงนั่งเล่น คือ วงดนตรีรุ่นใหญ่ที่นักดนตรีแต่ละคนล้วนคร่ำหวอดในวงการดนตรีมายาวนาน
ทั้งในฐานะคนเขียนเพลง โปรดิวเซอร์ ซาวด์เอ็นจิเนีย ฯลฯ
“เป๋า” กมลศักดิ์ สุนทานนท์, “พงศ์” อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา, “ตุ่น” พณเทพ สุวรรณะบุณย์, “ป้อม” เกริกศักดิ์ ยุวะหงษ์ ,”ตู่” ปิติ ลิ้มเจริญ “โอ”, ศราวุธ ฤทธินันท์ “เก่ง”, ณัฏฐ์ ทองนาค “แตน” เศกสิทธิ์ ฟูเกียรติสุทธิ์ “ตุ๋ย” พรเทพ สุวรรณะบุณย์
ทั้งหมดอยู่เบื้องหลังบทเพลงรวมกันประมาณ 1,000 เพลง
ลองฟังชื่อเพลงดูครับ
ปาฏิหาริย์ เล่าสู่กันฟัง หลับตา แตกหัก อย่ายอมแพ้ เพียงแค่ใจเรารักกัน ขอให้เหมือนเดิม รักเธอสุดหัวใจ โอ้ใจเอ๋ย รักล้นใจ ทั้งรู้ก็รัก มีเธอ ฯลฯ
หลังจากวางมือจากวงการเพลง เขาก็มารวมตัวทำวง “นั่งเล่น” แต่งเพลงใหม่ที่ไพเราะและลุ่มลึกตามประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน
แตกต่างจากเพลงรุ่นใหม่อย่างชัดเจน
ตามปกติคอนเสิร์ตที่ผ่านมาของวงนั่งเล่น จะเล่นเพลงใหม่ของเขา อาจมีเพลงเก่าที่แต่งเองบ้าง
แต่ครั้งนี้เขาเปลี่ยนแนวใหม่
เล่นเพลงเก่าดังๆ ที่เขาเคยเขียน
คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตเล็กๆ คนดูประมาณ 500 กว่าคน
เรียบง่าย ไม่เน้นแสงสี อลังการ
เหมือนมานั่งเล่นดนตรีให้เพื่อนๆ ฟัง
และเวลาที่เหมาะสมสำหรับเพื่อนๆ คือ 17.00 น.ครับ
ผมชอบบรรยากาศความเป็นกันเองมาก
ตามปกติคอนเสิร์ตทั่วไปจะต้องเล่นช้ากว่ากำหนดประมาณ 20-30 นาที
แต่คอนเสิร์ตนี้เริ่มก่อนเวลา
เพราะตอนผมเดินเข้าโรงละครก่อนเวลานิดนึง
“พี่เป๋า” นักร้องนำนั่งประจำตำแหน่งแล้วครับ
คุยกับคนดูไปเรื่อยๆ
ระหว่างที่คนดูทยอยเข้าประจำการ นักดนตรีแต่ละคนก็ค่อยๆ เดินออกมา “นั่ง” ตามตำแหน่งของตัวเอง
ขีดเส้นใต้คำว่า “นั่ง” นะครับ
เพราะตามปกตินักดนตรีจะยืนเล่น
แต่วงนี้แม้แต่มือกีตาร์ มือเบสก็นั่ง
ตามชื่อวงเลยครับ
…นั่งเล่น
ตามปกติตอนฟังเพลง ผมจะชอบฟัง “เนื้อเพลง” มากกว่า “ทำนอง”
อาจเพราะเป็นคนเขียนหนังสือ ก็เลยให้ความสำคัญกับเนื้อหาการเล่าเรื่องของเพลง
ตอนที่เราฟัง เราจะจินตนาการความหมายของเนื้อเพลงตามความรู้สึกของเราเอง
แต่คอนเสิร์ตนี้ นักเขียนเพลงแต่ละคนจะมาเล่าถึงที่มาของเพลง
ทำไมถึงเลือกใช้คำนี้
ชื่อเพลงมาจากไหน
เนื้อหาต้องการสื่ออะไร
เรื่องราวแบบนี้ไม่ค่อยได้ฟังจากคอนเสิร์ตทั่วไป
พอเราได้ฟังที่มาของเพลง
ความรู้สึกเมื่อเราฟังเพลงนี้ก็จะเปลี่ยนไป
จากเดิมจะคิดในมุมของเรา
แต่วันนี้เราจะคิดในมุมของคนแต่งด้วย
และเวลาที่คนเขียนเพลงเล่าเรื่องเพลง
ภาษาจะสวย
อย่างตอนที่ “ตู๋” ปิติ “เจ้าพ่อเพลงรัก” เล่าเรื่องเพลง “รักเธอจริงๆ” ของ “สุกัญญา มิเกล”
เขาต้องแต่งเพลงรักให้กับ “มิเกล” ซึ่งเป็นศิลปินสาวในค่าย
แต่บุคลิกของเธอไม่เหมือนนักร้องหญิงในยุคสมัยนั้นที่ส่วนใหญ่จะใสๆ น่ารัก
เพลงรักของสาวห้าวต้องมีอีกบุคลิกหนึ่ง
“ตู๋” บอกว่าเขาคิดถึงงานแต่งงานของเพื่อน
เพื่อนคนนี้เคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง
เพลงที่เพื่อนร้องให้เจ้าสาวในงานแต่งคือเพลง “จงรัก”
“โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต
และโปรดอย่าถามว่าอดีตฉันเคยรักใคร…”
เขาได้ไอเดียจากเพลงนี้
นั่นคือ ที่มาของเพลง “รักเธอจริงๆ”
“…อย่ามาถามว่าเคยรักมากี่ครั้ง
ว่าเคยผิดหวังเจ็บช้ำมากี่หนกัน
อยากรู้ไหมว่ารักเธอเท่าใด
รักจนหมดลมหายใจได้เพียงเท่านั้น
แต่ถ้าเธอจะไม่รักคนอย่างฉัน
ก็ไม่สำคัญยังไงฉันก็รักเธอ”
และท่อนฮุกที่คนจำได้
“แต่ขออย่างเดียวอย่าถามว่าเคยรักใคร
เพราะจากนี้ไปจะมีแต่เธอเสมอ
โปรดจงเชื่อฉันที่ฉันพร่ำบอกกับเธอ
ว่ารักเธอ ว่ารักเธอจริง”
“ตู๋” สรุปสั้นๆ
“เพลงนี้เป็นเพลงบอกรักที่เหมือนกับการสารภาพบาป”
…ชัดเจนมาก
อีกเพลงหนึ่ง “เล่าสู่กันฟัง”
“พี่เป๋า” กมลศักดิ์ เป็นคนแต่งเนื้อ
ทำนองโดย “จาตุรนต์ เอมซ์บุตร”
“พี่เป๋า” เล่าว่าตอนที่ทำงานครั้งแรกที่แกรมมี่ หัวหน้าทีมของเขา คือ “พี่ตั๋ม” จาตุรนต์
เวลางานมีปัญหา “พี่ตั๋ม” จะบอกทุกคนในทีม
“มีปัญหาอะไร ให้เล่าสู่กันฟังได้นะ”
“พี่เป๋า” ชอบคำนี้มาก
…เล่าสู่กันฟัง
อยากแต่งเพลงนี้ แต่นึกไม่ออกว่าจะเหมาะสมกับศิลปินคนไหน
เพราะคำนี้ความหมายดี แต่เป็น “คำเก่า”
ถ้าไปอยู่กับศิลปินใหม่ๆ มันจะไม่เข้าปาก
จนวันหนึ่ง “พี่เล็ก” บุษบา ดาวเรือง จะมีอัมบั้มใหม่ของ “พี่เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์
“พี่เป๋า” ก็เลยเสนอว่าเขามีไอเดียเพลงเพลงหนึ่งที่เก็บมานานหลายปีแล้ว
พอเล่าจบ “พี่เล็ก” ก็บอกให้ลองแต่งดูเลย
“พี่เป๋า” รีบโทรศัพท์ไปหา “พี่ตั๋ม” ถามว่าจำได้ไหมที่เคยพูดประโยคนี้กับเขา อยากให้ช่วยแต่งทำนองเพลงตามความรู้สึกที่พูดตอนนั้นให้หน่อย
ขอแค่มี 4 ตัวโน้ตให้ใส่คำว่า “เล่าสู่กันฟัง” ได้
ครับ เป็นภาษา “เทพ” ที่คุยกับ “เทพ”
พอ “พี่ตั๋ม” ทำทำนองเสร็จ
“พี่เป๋า” ก็ลุยเลย
เขานอนเขียนเนื้อเพลงบนเตียงตั้งแต่ค่ำจนตี 5
เขียนอย่างเมามัน
ตี 5 แต่งเสร็จ แต่ “ท่อนฮุก” ยังไม่โดน
“พี่เป๋า” ต้องส่งงานให้ “พี่เล็ก” ตอนเช้า
รู้ว่าถ้าส่งไปก็คงไม่ผ่าน เขาตัดสินใจโทร.ไปเลื่อนนัด อ้างว่าป่วย
จากนั้นก็เข้าห้องน้ำ กะว่าจะอาบน้ำแล้วนอน
แต่คงเพราะเพลียจากการแต่งเพลง เขาลืมเปิดน้ำอุ่น
น้ำจากฝักบัวที่กระทบผิวจึงเป็นน้ำเย็นจัดตอนตีห้า
“พี่เป๋า” สะดุ้ง
…หนาว
ในภาวะที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เราจะคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนั้น
พอละอองน้ำกระทบร่างกายคล้ายกับ “สายฝน”
และเขารู้สึก “หนาว”
คำต่างๆ ก็พรั่งพรูออกมาทันที
…ฝนที่ตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้
ยังอยากได้ยินทุกเรื่องราว
ยังนอนดึกอยู่ใช่ไหม
เธอผอมไปหรือเปล่า
อย่าลืมเล่าสู่กันฟัง…
เขารีบออกจากห้องน้ำ เช็ดตัว แล้วเขียนเพลงต่อทันที
โทร.ไปเลขาฯ “พี่เล็ก” อีกครั้ง
“ตอนเที่ยงเจอกัน” •
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022