ม้านั่งเดียวดาย

พิชัย แก้ววิชิต

ม้านั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ คือสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างขึ้นผ่านวิธีคิด ออกแบบมาแล้วลงมือทำ จะทำเองกับมือ หรืออาจผลิตออกมาจากโรงงาน จะทำไปเพื่อเงิน ทำไว้ใช้เองในครัวเรือน หรือจะทำไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณะชน คงเป็นไปตามเจตจำนงของท่านผู้สร้าง ม้านั่งในความเป็นธรรมดา จะมีสี่ขาเท่ากับสัตว์สี่เท้า เฉกเช่น ม้า หมา แมว และสัตว์อื่นใดที่มีเท้าไม่เกินสี่

แลจากภาพ เห็นแล้วชวนอารมณ์ไปทางเหงา สะกิดให้นึกถึงการรอคอยบางสิ่งบางอย่าง จึงต้องวิ่งกลับมาดูใจตัวเอง ว่ายังพอมีความเหงาเหลืออยู่บ้างไหมในใจนี้ และขอบอกพอได้เขิน ว่าพอมีอยู่กับเขาบ้างแต่พองามตามประสา หากแต่มันยังไม่มากพอที่จะพลุ่งพล่านโหยหวน จนดลความรู้สึกแต่งเรื่องราวความเหงาของตัวเอง คงต้องมองเมินไว้ก่อน ยกไว้คอยคราวหน้า เพราะไม่อยากไม่สำคัญตัวในตอนนี้ และแลจากภาพจึงได้คิดเห็น

“ถ้าม้านั่งยาวกลางแจ้ง จะเหงาเป็นกับเค้าบ้าง จะเป็นไร”

 

สาวน้อยขาประจำ ไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว เธอมักจะมาหย่อนก้นนั่งลงในท่าไขว่ห้างตามสบายอารมณ์ ก่อนที่จะคุยโทรศัพท์ นานแล้วนานอีกกับใครบางคน อยู่บนม้านั่งตัวเดิม เวลาใกล้เคียงเดิม เธอมักจะลุกจากไปด้วยรอยยิ้ม และมีบ้างกับคราบน้ำตาในบางวัน และเธอจะกลับมาอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้เสมอ แต่นั่น! มันคือความทรงจำ

ใครเลยจะรู้ว่า “บางครั้งม้านั่งยาวกลางแจ้ง ยังคงรอคอยใครสักคน กลับมานั่งมันอีกครั้ง อยู่เป็นเพื่อนกันอีกหน เมื่อยามความเดียวดาย” วันแล้ววันเล่านับได้หลายฤดู ผ่านซ้ำเวียนวน “ม้านั่งเดียวดาย” ยังคงทำหน้าในแบบที่มันเป็น หยัดยืนอยู่ด้วยขาแข็งทั้งสี่ รับใช้ผู้คน แม้จะทรุดโทรมลงไปบ้างด้วยสภาพที่ผ่านกาลเวลา

จากคมเขี้ยวของวันคืนที่ยังคงกัดกร่อนอย่างไร้รู้สึก

“ม้านั่งเดียวดาย” ยังคงทำหน้าในแบบที่มันเป็น หยัดยืนอยู่ด้วยขาแข็งทั้งสี่ รับใช้ผู้คน แม้จะทรุดโทรมลงไปบ้างด้วยสภาพที่ผ่านกาลเวลาจากคมเขี้ยวของวันคืนที่ยังคงกัดกร่อนอย่างไร้รู้สึก / เทคนิค : F.5.6 1/200s ISO100 / สถานที่ : ใกล้แยกจันทร์ – นราธิวาส กรุงเทพฯ

ผู้คนที่นี่ ในตอนนี้ ลดน้อยลงไปมาก หลายคนค่อยๆ ทยอยหายหน้า ผู้คนคุ้นเคยเริ่มไม่กลับมานั่งอีก มีเพียงชายสูงวัย ที่มักจะแวะมานั่งพักสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ หลังจากเดินตรวจทั่วทั้งโรงงานเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย

ไม่ทันที่ควันบุหรี่จะลอยจางคลายหายไปในอากาศ เสียงใสๆ ของใครบางคนก็ลอยแว่วมาในขณะนั้นพอดี

ชายสูงวัยแปลกใจและดีใจมากที่ได้เห็นเธอ และเธอเองก็เช่นกัน เธอฝืนความรู้สึกที่ต้องบอกกับชายสุงวัยว่า โรงงานแห่งนี้จะปิดตัวลงในอีกไม่ช้า ด้วยพิษเศรษฐกิจ การบริหารของพ่อและพี่ชายของเธอ ไม่อาจนำพาโรงงานให้ไปต่อได้ ครอบครัวของเธอเสียใจที่ต้องเลิกจ้างคนงานที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน

แม้จะรู้สึกหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ชายสูงวัยยังยิ้มออกได้บ้าง เมื่อได้เจอกันอีกกับสาวน้อยจอมซน หลังจากที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศอยู่หลายปี บทสนทนาของการถามสารทุกข์สุขดิบดำเนินต่อไปอีกเพียงครู่ ก่อนชายสูงวัยจะขอตัวกลับไปนั่งประจำป้อมที่หน้าทางเข้าประตูโรงาน

“การรอคอยของม้านั่งเดียวดายจบลงแล้ว” สาวน้อยขาประจำคนเดิมได้กลับมานั่งมันอีกครั้ง แม้น้ำหนักตัวของเธอจะเพิ่มมากขึ้น ม้านั่งตัวเดิมสภาพเก่าก็ยินดีเสมอที่จะทำหน้าที่ของมัน แม้ว่าการนั่งของเธอในวันนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ มันไม่สำคัญถ้าเธอจะลุกจากไปโดยไม่กล่าวลา “ขอเพียงเธอลุกขึ้นแล้วก้าวจากมันไปด้วยรอยยิ้ม เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว”

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต