ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 - 31 ตุลาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โฟกัสพระเครื่อง |
เผยแพร่ |
“พระครูสุธรรมธาดา” หรือ “หลวงพ่อรักษ์ ฐิตธัมโม” อดีตเจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
วัตถุมงคลที่จัดสร้างล้วนแต่โดดเด่น เป็นที่ปรารถนา ทั้งประเภทเครื่องรางของขลัง ผ้ายันต์ ฯลฯ ร่ำลือไปทั่วลุ่มน้ำแม่กลองและภาคกลาง
รวมถึง เหรียญรุ่นแรก ที่จัดสร้างออกมา 2 แบบ คือ หลังพระพุทธชินราช และหลังพ่อบัณฑูรสิงห์ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2506
ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบมีหูในตัว มีความบางตามความนิยมในสมัยนั้น สร้างด้วยเนื้ออัลปาก้าเพียงชนิดเดียวเท่านั้น จำนวนไม่ได้บันทึกไว้
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ บนรูปมีอักขระยันต์ ใต้รูปมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า “พระอธิการรักษ์ ฐิตธัมโม เจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ พรรษา ๓๒”
ด้านหลัง มีรูปจำลองพระพุทธชินราช รอบองค์พระมีอักขระยันต์ ใต้รูปองค์พระมีอักขระภาษาไทย เขียนว่า “พ.ศ.๒๕๐๖” ซึ่งคือปีที่จัดสร้าง
ส่วนอีกเหรียญคือ เหรียญหลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ หลังบัณฑูรสิงห์
สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2506 เช่นเดียวกัน ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงพุ่มข้าวบิณฑ์แบบมีหูในตัว สร้างด้วยเนื้ออัลปาก้า เนื้อทองแดง และเนื้อทองแดงกระไหล่ทอง จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
ด้านหน้า เป็นรูปจำลองหลวงพ่อรักษ์ครึ่งองค์ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ บนรูปของท่านมีอักขระยันต์ ใต้รูปหลวงพ่อมีอักขระภาษาไทยเขียนว่า “พระอธิการรักษ์ ฐิตธมโม เจ้าอาวาสวัดน้อยแสงจันทร์ พรรษา ๓๒”
ด้านหลัง มีรูปจำลองท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ วัดบางโทรัด ครึ่งองค์ห่มผ้าลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านบนของรูปมีอักขระยันต์ ใต้รูปจำลองมีอักขระยันต์และอักขระภาษาไทยเขียนว่า “ท่านบัณฑูรสิงห์ พ.ศ.๒๕๐๖”
หายากอีกเหรียญของจังหวัดสมุทรสงคราม
อัตโนประวัติ เกิดที่คลองบางตะบูน เมื่อวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 วันพุธ ปีจอ ตรงกับวันที่ 29 มิถุนายน 2453 บิดาชื่อนายยิ้ม มารดาชื่อนางเหม
ในวัยเด็ก บิดาและมารดานำมาฝากเรียนหนังสือเป็นเด็กวัดอยู่วัดสวนแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ภายหลังย้ายมาอยู่ใกล้วัดน้อยแสงจันทร์ เคยตามอาไปอยู่ที่ปทุมธานีใกล้วัดเทียนถวาย แล้วย้ายไปที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
เรียนหนังสือจนอายุครบบวช จึงเข้ารับการอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเทียนถวาย ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2474 มีพระครูธัญญเขตเขมากร (หลวงพ่อช้าง) วัดเขียนเขต เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระปทุมวรนายก (หลวงพ่อสอน) วัดเทียนถวาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า ฐิตธัมโม
อยู่จำพรรษาที่วัดเทียนถวาย เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อสอน และเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงพ่อช้าง วัดเขียนเขต
ต่อมาไปเรียนวิชากัมมัฏฐานเพิ่มเติมจากท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ (เจิม คุณาบุตร) ที่วัดเกตุมวดีศรีวราราม ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จนสำเร็จวิชาต่างๆ มากมาย
แล้วจึงย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดน้อยแสงจันทร์ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด และอยู่จำพรรษาเรื่อยมาเพื่อโปรดมารดาที่ชราภาพ ซึ่งในขณะนั้นหลวงพ่อพูนเป็นเจ้าอาวาส
จนถึงปี พ.ศ.2494 หลวงพ่อพูน มรณภาพลง ชาวบ้านและคณะกรรมการวัดจึงนิมนต์ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทน ด้วยมีคุณสมบัติเหมาะสมด้วยอายุพรรษากาล มีความรู้ทางด้านวิทยาคม อีกทั้งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพร้อมด้วยศีลาจริยาวัตร
ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาควรแก่การกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง
วัดน้อยแสงจันทร์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมคลองแม่กลอง ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม สร้างเมื่อปี พ.ศ.2459 ผู้สร้างคือ นายเหม็น นางน้อย นายจันทร์ และนางแสง ซึ่งได้สละทรัพย์สมบัติและที่ดินให้สร้างวัดพร้อมกับเรือนฝากระดานอีกจำนวน 3 หลัง และยังได้จัดสร้างเสนาสนะต่างๆ เพิ่มเติมให้ตลอดมา
ชาวบ้านจึงได้ให้ชื่อวัดนี้ว่า วัดน้อยแสงจันทร์ ตามชื่อผู้สร้าง เพียงแต่รายที่ 4 ซึ่งมีนามว่านายเหม็นนั้น เจ้าตัวเห็นว่าชื่ออาจจะไม่เป็นมงคลนัก จึงให้ใช้ชื่อเพียง 3 ราย
เมื่อได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ได้พัฒนาวัดเพิ่มเติมอย่างสุดความสามารถ ทั้งการสร้างเสนาสนะต่างๆ เพิ่มเติม ปรับปรุงถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดให้แข็งแรง มั่นคงมากขึ้น และยังได้ขัดเกลาให้ชาวบ้านอยู่ในศีลในธรรม
ในสมัยที่มีชีวิตอยู่นั้น จะเน้นงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง มีการฝึกอบรมพระภิกษุสามเณรทุกกึ่งเดือน ทำวัตรเช้า-เย็น รวมทั้งอบรมศีลธรรมแก่เด็กวัด และนักเรียนโรงเรียนของรัฐ ประชาชนตามหลักเบญจศีลเบญจธรรม
พ.ศ.2516 ช่วยสั่งสอนประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดใกล้เคียงให้รู้จักการนั่งกัมมัฏฐาน
เป็นพระนักพัฒนา อีกทั้งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธา
ปกครองวัดเรื่อยมา จนล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ บ่อยครั้งทำให้อ่อนแรง สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม กระทั่งล้มป่วยอาพาธเป็นประจำ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง
คณะแพทย์ขอให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อให้การรักษาอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ท้ายที่สุด ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบในปี พ.ศ.2538 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 64 •
โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022