ศึกอเมริกันฟุตบอล NFL ชิงแชมป์ซูเปอร์ โบว์ล (Super Bowl) ครั้งที่ 52 จะมีขึ้นในเช้าวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ ตามเวลาของเมืองไทย

ปีนี้ นิวอิงแลนด์ เพทริออตส์ (New England Patriots) เข้าชิงกับฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ (Philadelphia Eagles)

ต้องติดตามกันว่านิวอิงแลนด์ เพทริออตส์ จะได้แชมป์ Super Bowl เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน และจะเป็นแชมป์ Super Bowl ครั้งที่ 6 ของทีมรึเปล่า

หรือฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ จะได้แชมป์ Super Bowl ไปครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม

 

การชิงแชมป์ Super Bowl เป็นธรรมดาที่แฟนทีมชนะก็ดีใจ ส่วนแฟนทีมแพ้ก็เสียใจ

จากการศึกษาพบว่า การชิงแชมป์ Super Bowl มีผลต่อร่างกายและจิตใจของผู้ชมอย่างชนิดที่คาดไม่ถึง

มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) ได้ทำการศึกษาในปี 2016 นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นิโคลัส แซนเดอร์ส (Nicholas Sanders) พบว่าบริเวณเมืองของทีมที่เข้าชิง Super Bowl จะมีจำนวนคนที่อายุเกิน 65 ปีขึ้นไป เสียชีวิตจากการเป็นไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น 18%

ทางผู้ศึกษาของคอร์เนลล์ ยูนิเวอร์ซิตี้ วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะเวลาที่สองทีมเข้าชิงแชมป์ Super Bowl คนในเมืองของแต่ละทีมจะมีการพูดคุย ปฏิสัมพันธ์กันเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจัดงานปาร์ตี้เพื่อชม Super Bowl หรือไปชมการถ่ายทอดสดในปาร์ตี้ตามผับตามบาร์ที่มีคนแออัด โอกาสติดไข้หวัดใหญ่ก็มีสูงกว่าปกติ ซึ่งในอเมริกา ไข้หวัดใหญ่ระบาดในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม

นอกจากนี้ ตามธรรมเนียม วันชิงแชมป์ Super Bowl เป็นวันที่คนอเมริกันรับประทานอาหารกันเต็มที่ขณะชมการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภท Finger Food ที่ใช้มือหยิบรับประทาน เช่น นาโช่ส์ จิ้มกับซอสซาลซ่า หรือกับอะโวคาโด้บดที่เรียกว่ากัวคาโมเล่ และชิกเค่น วิงส์ หรือปีกไก่ทอดคลุกซอส

 

วันแข่งขันชิงแชมป์ Super Bowl เป็นวันที่คนอเมริกันรับประทานชิกเค่น วิงส์ มากที่สุด ประมาณ 1,250 ล้านปีก หากนำปีกไก่ที่คนรับประทานในวันนั้นทั้งหมดมาเรียงต่อกัน จะมีความยาวพันโลกได้ 2 รอบ หรือมีระยะทางประมาณ 1 ใน 4 ของโลกไปยังดวงจันทร์

เมื่อรับประทานอาหารที่หยิบด้วยมือเข้าปาก หากมือไม่สะอาด โอกาสที่จะติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ก็สูงตามไปด้วย

และหากทีมรักชนะ แฟนๆ ก็ออกไปปาร์ตี้ตามถนนซึ่งมีผู้คนแน่นขนัด ทำให้โอกาสเป็นไข้หวัดใหญ่สูงกว่าปกติ

 

ในปี 2003 วารสาร New England Journal of Medicine ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาของ University of Toronto พบว่าหลังจากการชิงแชมป์ Super Bowl จบลง ส่งผลให้อุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มสูงขึ้น เพราะคนขับขณะมึนเมา จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และอ่อนเพลีย

คณะผู้ศึกษาของ University of Toronto ได้เก็บรวบรวมสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนหลังจากการแข่งขัน Super Bowl สิ้นสุดลงตอนกลางคืน ใน Super Bowl จำนวน 27 ปีติดต่อกัน

พบว่า ทันทีที่การแข่งขัน Super Bowl สิ้นสุดลง อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นถึง 41% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนอายุระหว่าง 21-27 ปี

มากยิ่งกว่าวันปีใหม่!

ส่วนอัตราอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ไม่มีผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 46%

ที่น่าสนใจคือ ในรัฐของทีมที่แพ้ Super Bowl มีอัตราอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งไม่มีผู้เสียชีวิต มากกว่าในรัฐต่างๆ ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย

ในทางตรงกันข้าม รัฐของทีมที่ได้ครองแชมป์ Super Bowl อัตราอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งไม่มีผู้เสียชีวิต น้อยกว่าบรรดารัฐต่างๆ ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย

ในรัฐของทีมที่แพ้ Super Bowl อัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งไม่มีผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นอย่างมากภายใน 4 ชั่วโมงหลังการแข่งขันสิ้นสุดลง

แสดงให้เห็นว่า บรรดาแฟนๆ ของทีมที่แพ้ได้รับผลกระทบด้านลบทางอารมณ์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่งผลให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ

กีฬานั้นดูเพื่อความสนุก อย่าเอาจริงเอาจังจนมีผลเสียต่อตัวเอง

การแข่งขัน Super Bowl มีทุกปี หากทีมรักไม่ได้แชมป์ปีนี้ ปีหน้า หรือปีต่อๆ ไปก็ยังมีโอกาส