ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 ตุลาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ถือเป็นการทำตลาดตอบโต้การทะลักเข้ามาของรถอีวีจากจีนอย่างได้ผล
กับกลยุทธ์ของรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น ที่เน้นออกรุ่นใหม่ด้วยขุมพลังไฮบริด
เพราะจากตัวเลขยอดขายทั้งของไทยและทั่วโลก รถยนต์พลังงานไฮบริด มียอดขายเติบโตอย่างมีนัย
ยิ่งในประเทศไทยเห็นชัดเจนเมื่อยอดขายรถไฮบริด เติบโตแแซงหน้ารถยนต์อีวี
ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ค่ายญี่ปุ่นทำตลาดรถไฮบริดอย่างหนัก
ไม่เพียงเท่านั้นกลยุทธ์ด้านราคาก็นำมาใช้เช่นกัน
รถรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะไมเนอร์เชนจ์จากเดิมมักปรับราคาขึ้นอย่างน้อยๆ ก็หลักหมื่น
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะยืนราคาเดิม หรือปรับลดลงด้วยซ้ำ
ในช่วงเข้าสู่ไตรมาส 3 มี 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ของไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่
ทั้งฮอนด้า “HR-V e:HEV” เอสยูวีไฮบริด แบบไมเนอร์เชนจ์
และโตโยต้า “CAMRY HEV” เก๋งหรูไฮบริด โมเดลเชนจ์
ทั้งการปรับโฉม รูปร่างหน้าตา และราคาที่ตั้งมาน่าสนใจทีเดียว
ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่จึงนำเสนอแค่รุ่นเดียวก่อนคือ “HR-V e:HEV”
ส่วนอีกรุ่นขอยกยอดไปฉบับหน้า
ฮอนด้า “HR-V” จัดเป็นเอสยูวีขนาดกำลังเหมาะ ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนที่ไม่ได้มีงบมากพอจะขึ้นไปเล่นรุ่นพี่อย่าง “CR-V”
โฉมแรกที่เข้ามาเมืองไทยทำยอดขายได้น่าพอใจ จนออกรุ่นใหม่ยิ่งสร้างความฮือฮา เพราะสวยหยาดเยิ้ม
โดยเฉพาะด้านหน้าที่ดูบึกบึนขึ้น และใช้ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย
กระทั่งเมื่อเวลาเหมาะสมจึงปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมา
ยังมี 3 รุ่นย่อยเหมือนเดิมคือ e:HEV E, e:HEV EL และ e:HEV RS
แต่ความน่าสนใจไม่พ้นการตั้งราคาตัวเริ่มต้น ที่แม้ ณ ปัจจุบันยังไม่ได้บอกอย่างเป็นทางการ
เพราะอุบไว้เพื่อเปิดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
แต่บอกราคาแบบคร่าวๆ
โดยรุ่นเริ่มต้นหั่นราคาลงราวๆ 8 หมื่นบาท
ส่วนอีก 2 รุ่นประเมินแล้วน่าจะราคาถูกกว่าตัวเก่า
นัยว่าเพื่อให้คนไทยตัดสินใจง่ายขึ้น กับราคารถที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับค่ายอีวีจีน เมื่อเทียบในเซ็กเมนต์เดียวกัน
ภาพลักษณ์ภายนอกปรับเลี่ยนไปเล็กน้อย เน้นความสปอร์ตพรีเมียมมากขึ้น ออกแบบด้านหน้าใหม่
กระจังหน้าสะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ยกระดับความสปอร์ตแกร่งสไตล์เอสยูวี
รุ่นท็อป e:HEV RS ใช้กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่
ไฟหน้า LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์
ไฟเลี้ยว LED Sequential
ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED
ไฟท้ายแบบ LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้า-พับเก็บอัตโนมัติ
กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับลดอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง
ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว สีใหม่ สีดำ Berlina Black
สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศครีบฉลาม
กันชนหน้า-หลัง สีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
ส่วนรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E ออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ
ภายในเน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย
ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง มาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์
ใช้สีโทนดำแต่ดูไม่คับแคบ รุ่น RS ติดตราสัญลักษณ์ไว้ตามจุดต่างๆ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอแสดงไฟเบรก ออปชั่นที่ใส่เข้ามาเพิ่ม
เบาะนั่งหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ตอนหลัง
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ลำโพง 6-8 ตัว
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
อัพเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย
ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า 1 ช่อง
ระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold
ขุมพลังเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC 1,498 ซีซี
กำลังสูงสุด 106 แรงม้า / 6,000-6,400 รอบต่อนาที
แรงบิด 127 นิวตัน-เมตร / 4,500-5,000 รอบต่อนาที
ระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตัน-เมตร
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน
เลือกการขับขี่ได้ 3 โหมด ECON – NORMAL – SPORT
เติมน้ำมันสูงสุด E20
จากสเป๊กน้ำมัน 1 ถังวิ่งได้เฉลี่ย 800 กิโลเมตร
อัตราการสิ้นเปลืองราวๆ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบรองรับด้านหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัต/เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
เติมฟังก์ชั่นใหม่ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (รุ่น e:HEV RS)
ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (รุ่น e:HEV RS)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ฯลฯ
ฮอนด้า “HR-V e:HEV” ยังไม่บอกราคาอย่างเป็นทางการ
แจ้งเพียงว่าตัวเริ่มต้น “e:HEV E” อยู่ที่ 89X,XXX บาท (รุ่นเดิม 979,000 บาท)
เปิดรับจองล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ พร้อมโปรเพียบ เริ่มรับรถวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022