การแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส นักกีฬาที่โด่งดังและมาดเท่คนหนึ่ง ได้กลายเป็นไวรัล

เขาคือ ยูซุฟ ดิเคช (Yusuf Dikec) นักกีฬายิงปืนทีมชาติตุรกีวัย 51 ปี ที่เป็นชายมาดเท่ มือซ้ายล้วงกระเป๋ากางเกง ส่วนมือขวาถือปืนยิงไปที่เป้า ไม่สวมแว่นตาพิเศษสำหรับยิงปืน สวมเสื้อยืดสบายๆ ดูท่าทางผ่อนคลายสุดขีด ไม่เหมือนว่ากำลังลงแข่งชิงเหรียญโอลิมปิกปืนสั้นอัดลม 10 เมตร ประเภททีมผสม และคว้าเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 มาได้สำเร็จ

มาดสบายๆ ดูผ่อนคลายของยูซุฟ ทำให้ผู้ชายอังกฤษหลายคนคิดว่าตัวเองก็สามารถเป็นนักกีฬาแข่งขันโอลิมปิก ปี 2028 ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 14-30 กรกฎาคม 2028 หากพวกเขามุ่งมั่นฝึกฝนกีฬาประเภทที่ตัวเองสนใจลงแข่งตั้งแต่ตอนนี้ อีก 4 ปีจะเก่งพอที่จะลงแข่งขันโอลิมปิกได้

สํานักวิจัย YouGov (ยูกอฟ) ซึ่งเป็นสำนักวิจัยดังของประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนอังกฤษ ว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะเป็นนักกีฬาแข่งขันโอลิมปิก ปี 2028 ไหม หากพวกเขามุ่งมั่นฝึกฝนกีฬาประเภทที่ตัวเองสนใจลงแข่งตั้งแต่ตอนนี้

ผลการสำรวจพบว่า ผู้ชายชาวอังกฤษมากกว่า 1 ใน 4 หรือ 27% คิดว่าพวกเขาสามารถเป็นนักกีฬาในโอลิมปิก 2028 ได้ หากตั้งใจฝึกซ้อมเต็มที่

ชาวอังกฤษที่อายุ 18-24 ปี มีแนวโน้มสูงที่สุดที่คิดว่าตัวเองมีศักยภาพในการลงแข่งขันโอลิมปิก 2028 อยู่ที่ 39%

ผู้ชายผู้ที่มีอายุ 25-49 ปี จำนวน 34% เห็นว่าตัวเองมีศักยภาพในการลงแข่งขันโอลิมปิกได้

15% ของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดว่าพวกเขาสามารถแข่งขันในระดับโอลิมปิกได้ภายในเวลา 4 ปี หากพวกเขาตั้งใจฝึกซ้อม

นักกีฬาที่อายุมากที่สุดใน โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส คือ ฮวน แอนโตนิโอ ฮิมิเนซ โคโบ (Juan Antonio Jimenez Cobo) ชาวสเปนวัย 65 ปี ลงแข่งขันขี่ม้าประเภททีมและเคยได้เหรียญเงินโอลิมปิก ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าผู้ชายมีแนวโน้มมากกว่าผู้หญิงเล็กน้อย (30% เทียบกับ 25%) ที่คิดว่าพวกเขาจะติดทีมโอลิมปิกในปี 2028

กีฬาสองประเภทที่ผู้ชายมักคิดว่าสามารถลงแข่งขันได้ คือ

อันดับ 1 ยิงปืน 15% ของผู้ชายอังกฤษคิดว่าพวกเขาสามารถเข้าร่วมทีมปืนยาวอัดลม 10 เมตร ได้แน่นอนหรืออาจผ่านเข้ารอบหากพวกเขาเริ่มฝึกซ้อมตั้งแต่วันนี้

อันดับ 2 ยิงธนู ผู้ตอบแบบสอบถาม 13% เชื่อว่าพวกเขามีโอกาสเป็นนักกีฬาทีมชาติในการแข่งขันยิงธนู และลงแข่งขันโอลิมปิก หากพวกเขาก้าวเข้าสู่ระยะฝึกซ้อมเป็นเวลาสี่ปีเริ่มตั้งแต่วันนี้

อันดับ 3 แบดมินตัน ชาวอังกฤษ 10% คิดว่าตนเองมีโอกาสลงแข่งแบดมินตันโอลิมปิกได้

ตามมาด้วย อันดับ 4 ปิงปอง (9%) และอันดับ 5 เรือพาย (7%)

ส่วนกีฬาที่ผู้ชายอังกฤษเพียง 3% คิดว่าพวกเขาสามารถผ่านเข้ารอบในยิมนาสติก รักบี้ 7 คน และสเก๊ตบอร์ด

กีฬาประเภทเดียวที่ผู้หญิงคิดว่าตนเองสามารถแข่งขันในโอลิมปิกมากกว่าผู้ชาย คือการว่ายน้ำท่ากบ 100 เมตร ซึ่งผู้หญิง 9% เชื่อว่าตนมีโอกาสผ่านเข้ารอบ ส่วนผู้ชายมี 4%

ปัจจัยพื้นฐานในการพัฒนาเป็นยอดนักกีฬาโอลิมปิกคือ มีร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีปัจจัยอย่างอื่นที่สำคัญมากในการที่นักกีฬาคนหนึ่งจะได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาชั้นแนวหน้า

นั่นคือการตั้งใจฝึกฝนและทุ่มเทเวลากับกีฬาชนิดนั้นให้มากๆ

เรามีความเชื่อกันว่าคนที่มีความเป็นเลิศในกีฬาชนิดหนึ่งตั้งแต่วัยเด็ก จะมีคุณสมบัติได้ก้าวขึ้นเป็นนักกีฬาชั้นแนวหน้าในอนาคต

ทำให้หลายคนเห็นด้วยกับทฤษฎี 10,000 ชั่วโมงของมัลคอล์ม แกลดเวลล์ (Malcolm Gladwell) นักเขียนชาวแคนาดา เชื้อสายอังกฤษที่บอกว่า หากเราต้องการมีความเป็นเลิศในสิ่งใด จงใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งนั้น 10,000 ชั่วโมง

แต่งานวิจัยของ ดร.แอนเดร์ส เอริกส์สัน (Dr. K. Anders Ericsson) นักจิตวิทยาชาวสวีเดน เสริมว่าการใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลา 10,000 ชั่วโมง ไม่สามารถทำให้เรามีความเป็นเลิศได้ หากไม่ได้รับความรู้และการฝึกฝน อย่างจริงจังและถูกต้อง ที่เรียกว่าดีลิเบอเรต แพรคทิซ (Deliberate practice)

โดยเอริกส์สันและทีมวิจัยพบว่าคนที่มีทักษะความเป็นเลิศเกิดจากการฝึกฝนสิ่งนั้นอย่างจริงจังภายในช่วงเวลา 10 ปีหรือประมาณ 10,000 ชั่วโมงสำหรับบางคน (20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ต้องเป็นการฝึกฝนอย่างตั้งใจและเป็นระบบ ไม่ใช่การเล่นอย่างสนุกสนานลองผิดลองถูก ไปให้ครบ 10,000 ชั่วโมง แล้วหวังว่าจะกลายเป็นยอดฝีมือ

ซึ่งมีงานวิจัยบอกว่า ถ้าเราฝึกฝนกีฬาอย่างจริงจังมากๆ และมีที่ปรึกษาที่ดี ก็สามารถเป็นยอดนักกีฬาชั้นแนวหน้า ด้วยการใช้เวลาฝึกฝนอย่างน้อย 4,000 ชั่วโมง

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022